สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
รายการ เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแข่งใหม่
เวลา 03.00 น. วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2550
ถ่ายทอดสด ทรูวิชั่นส์ ยูบีซี 65, ช่อง 7
ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน
ผู้ชนะในนัดนี้จะเข้าไปพบกับวัตฟอร์ด ในรอบรองชนะเลิศ แข่งวันที่ 14 - 15 เมษายน
ในนัดนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเลือกใช้นักเตะจากทีมสำรองขึ้นมาช่วยเล่นในทีมชุดใหญ่เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ โดยจะมีชื่อ เคร็ก แคธคาร์ท นักเตะหนุ่มจากเบลฟาสต์ ร่วมอยู่ในทีมและเวส บราวน์ ก็จะได้ลงเล่นแทนแกรี่ เนวิลล์ ที่ต้องพัก 3 สัปดาห์ ในขณะที่อลัน สมิธ ก็คาดว่าจะได้ลงสนามในนัดนี้ด้วย
ทางด้านมิดเดิ้ลสโบรซ์ ก็ยังรอดูอาการของเอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์ ที่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าในนัดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมจะได้โจนาธาน วู้ดเกต และมาร์ค วิดูก้า กลับมาลงสนามหลังจากได้พักในนัดที่พบกับแมนฯ ซิตี้ ส่วนฮูลิโอ อาร์ก้า ยังคงต้องรอเช็คความฟิตอยู่
รายชื่อนักเตะที่สามารถลงสนามได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุสซ์แซค, ฮีตั้น, บราวน์, เฟอร์ดินานด์, วิดิช, แคธคาร์ท, ไฮน์เซ่, เอฟร่า, พาร์ค, คาร์ริค, โอเชีย, โรนัลโด้, กิ๊กส์, ริชาร์ดสัน, สมิธ, รูนี่ย์, ตง
มิดเดิ้ลสโบรซ์ ซวาร์เซอร์, โจนส์, พาร์นาบี้, เดวี่ส์, ซาเวียร์, วู้ดเกต, โปกาเตทซ์, ริกกอตต์, เทย์เลอร์, บัวเต็ง, แคตเตอร์โมล, อาร์ก้า, ดาวนิ่ง, มอร์ริสัน, ยูลล์, จอห์นสัน, โรเชมบัค, วิดูก้า, ยาคูบู, ลี
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาต้องลงเล่นเกมที่ 4 ในรอบ 10 วัน ซึ่งถือเป็นโปรแกรมการลงเตะที่แน่นพอดู โดยนัดนี้พวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อให้ทีมยังคงมีโอกาสคว้า 3 แชมป์ในปีนี้ โดยการพบกันก่อนหน้านี้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยให้ทีมยังคงมีลุ้นด้วยลูกจุดโทษของเขาในช่วงท้ายเกม หลังจากที่ จอร์จ บัวเต็ง ที่แฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ทำให้พวกเขาเสมอกับเดอะโบโร่ไป 2 - 2
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาพวกเขาสามารถเอาชนะโบลตันได้ในบ้าน 4 - 1 ทำให้สถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันเป็น 12 นัด และยังคงรักษาคะแนนที่ห่างเชลซีอยู่ที่ 6 แต้มเท่าเดิม
หากแมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ในนัดนี้จะเป็นการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพครั้งที่ 25 ของสโมสร ซึ่งจะมีสถิติเท่ากับอาร์เซน่อล และหากคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ ก็จะเป็นแชมป์ที่ 12 ของสโมสร
มิดเดิ้ลสโบรซ์ ในฤดูกาลนี้พวกเขาต้องเล่นนัดรีเพลย์ในทุกรอบที่ผ่านมา นับตั้งแต่การพบกับ ฮัลล์, บริสตอล ซิตี้ และเวสต์ บรอมวิช จนมาถึงรอบนี้ พวกเขาก็ยังต้องเล่นนัดรีเพลย์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีก
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเดอะโบโร่เปิดบ้านรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้และพวกเขาก็พ่ายไป 0 - 2 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 2 ในการแข่งขัน 16 นัดหลังสุดในทุกถ้วยของพวกเขา
ในตอนนี้ทีมของ แกเร็ธ เซาท์เกต อยู่ในอันดับที่ 12 ของตารางพรีเมียร์ ลีก การพบกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 10 และเป็นครั้งที่ 2 ใน 3 ฤดูกาล โดยนัดล่าสุดแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะพวกเขาได้ 3 - 0 ในการพบกันในเอฟเอ คัพ รอบที่ 4 ในวันที่ 29 มกราคม 2005 และ 3 ปีก่อนหน้านั้น เดอะโบโร่เอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 2 - 0 ด้วยประตูจาก โนเอล วีแลน และแอนดี้ แคมป์เบลล์
โบโร่ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเพียง 1 ครั้งในรอบ 10 ปีหลังสุด แต่ก็ไปพ่ายต่อเชลซีในรอบชิงชนะเลิศ 2 - 0 ด้วยประตูที่เร็วที่สุดของ โรเบอร์โต้ ดิ แมตเตโอ ด้วยเวลาเพียง 43 วินาที หากพวกเขาเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ก็จะเป็นครั้งที่ 4 ของสโมสร ในปีนี้พวกเขาทำประตูได้ในเอฟเอ คัพ 14 ประตูซึ่ง 8 ประตูที่ได้มาจากมาร์ค วิดูก้า และยาคูบู รวมกัน