สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 71,325 คน
รายการ เอฟเอ คัพ
เวลา 03.00 น. วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2550
ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน
ด้วยลูกจุดโทษของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงท้ายครึ่งหลังเพียงประตูเดียว ก็ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะมิดเดิ้ลสโบรซ์ และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ไปได้
โดยโรนัลโด้ ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษโดยโจนาธาน วู้ดเกต และเขาก็ลุกขึ้นมารับหน้าที่ยิงจุดโทษเอง ในขณะที่ก่อนหน้านั้นมาร์ค ซวาร์เซอร์ ก็โชว์การเซฟประตูที่ยอดเยี่ยมถึง 2 ครั้งจากเวย์น รูนี่ย์ เมื่อศูนย์หน้าทีมปีศาจแดงได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับซวาร์เซอร์ ตัวต่อตัวและผู้รักษาประตูเดอะโบโร่ก็ป้องกันไว้ได้ทั้งสองครั้ง
ในเกมนี้มีใบแดงเกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายเมื่อผู้เล่นของมิดเดิ้ลสโบรซ์ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่หลายคน และในที่สุดเจมส์ มอร์ริสัน ก็เข้าสกัดโรนัลโด้หนักทำให้ได้รับใบแดงไล่ออกไป
ทีมเจ้าบ้านลงเล่นนัดที่ 4 ในรอบ 10 วัน พวกเขาเริ่มเกมได้ดีเหมือนกับนัดแรกที่พวกเขาพบกัน และสามารถครองเกมไว้ได้โดยตลอด แต่ มิดเดิ้ลสโบรซ์ ก็สามารถบุกกลับได้เช่นกันและก็เป็นทีมเยือนที่ทักทายในจังหวะแรกก่อน เมื่อมาร์ค วิดูก้า ได้ยิงแต่บอลก็ข้ามคานไป
ในขณะที่ฝั่งกองหลังของมิดเดิ้ลสโบรซ์ ก็ต้องรับศึกหนักในการรับมือกับ โรนัลโด้ และรูนี่ย์ แต่วู้ดเกต ก็ยังคงรักษาเกมรับของเดอะโบโร่ไว้ได้ดี
แต่เกมรับของเดอะโบโร่ก็เกือบเสียประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อรูนี่ย์ เกือบทำประตูได้ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก โดยไรอัน กิ๊กส์ ได้จ่ายทะลุช่องอย่างสวยงามไปให้กับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ รูนี่ย์หลุดกับดักล้ำหน้าไปเจอกับ ซวาร์เซอร์ ตัวต่อตัว แต่ซวาร์เซอร์ ก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมออกมาคว้าบอลไว้ได้จากเท้ารูนี่ย์ ช่วยให้ทีมไม่ต้องเสียประตูตั้งแต่ครึ่งแรก
เริ่มเกมในครึ่งหลังมิดเดิ้ลสโบรซ์ เริ่มกลับมาบุกก่อนตั้งแต่ 10 นาทีแรก เมื่อวิดูก้า ได้ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายและเปิดต่อให้สจวร์ต ดาวนิ่ง ได้ยิงแต่เขากลับยิงออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้บุกบ้างจากจังหวะที่โรนัลโด้ ได้ยิงแต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
แต่แล้วโรนัลโด้ก็เป็นผู้ที่ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากจังหวะที่โรนัลโด้ ได้ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษ และวู้ดเกต เข้ามาสกัดโรนัลโด้ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที และโรนัลโด้ ก็ลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษไม่พลาด แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 - 0 ในนาทีที่ 76
หลังจากนั้นเกมก็เริ่มร้อนขึ้น จากจังหวะที่มีการทำฟาวล์กันหลายครั้ง อีกทั้งเดอะโบโร่ก็พยายามเร่งเกมเพื่อตามตีเสมอ จนกระทั่งในนาทีสุดท้ายมอร์ริสัน ก็พุ่งสกัดโรนัลโด้ น่าเกลียด ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะให้ใบแดง แต่แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็เกือบเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่อรูนี่ย์ ไม่พอใจที่มอร์ริสัน ทำฟาวล์โรนัลโด้ และเข้าไปคว้าคอมอร์ริสัน แต่ผู้ตัดสินก็ยังใจดี ไม่ไล่เขาออก จนกระทั่งจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ดก็เอาชนะไปได้ 1 - 0 อย่างหวุดหวิด (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
เวส บราวน์ 6
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 (
จุดโทษ น. 76)ไมเคิล คาร์ริค 16
ไรอัน กิ๊กส์ 11
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
อลัน สมิธ 14 (
น. 54)เวย์น รูนี่ย์ 8 (
น. 61)สำรอง
ทอม ฮีตั้น 38
จอห์น โอเชีย 22
น. 71
อลัน สมิธ 14เคร็ก แคธคาร์ท 32
คริส อีเกิ้ลส์ 33
พาร์ค จีซุง 13
น. 60 คีแรน ริชาร์ดสัน 23มิดเดิ้ลสโบรซ์
มาร์ค ซวาร์เซอร์ 1
อาเบล ซาเวียร์ 17 (
น. 35)โจนาธาน วู้ดเกต 8 (
น. 75)เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์ 12 (
น. 78)แอนดรูว์ เทยเลอร์ 33
ฮูลิโอ อาร์ก้า 3
ลี แคทเตอร์โมล 27
จอร์จ บัวเต็ง 7 (
น. 90)สจวร์ต ดาวนิ่ง 19
อาเย็คเบนี่ ยาคูบู 20
มาร์ค วิดูก้า 9
สำรอง
แบรดลี่ย์ โจนส์ 22
โรเบิร์ต ฮูธ 14
น. 88 แอนดรูว์ เทยเลอร์ 33ฟาบิโอ โรเชมบัค 10 (
น. 93) น. 69 ฮูลิโอ อาร์ก้า 3 เจมส์ มอร์ริสัน 25 (
น. 93) น. 62 ลี แคทเตอร์โมล 27ลี ดองกุ๊ก 18
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 5, ยิงหลุดกรอบ 6, โดนบล็อค 7, เตะมุม 11, ฟาวล์ 10, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 2, การครองบอล 56.7%
มิดเดิ้ลสโบรซ์ ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 9, โดนบล็อค 2, เตะมุม 1, ฟาวล์ 17, ใบเหลือง 5, ใบแดง 1, การครองบอล 43.3%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 6, เวส บราวน์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 7, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, ไมเคิล คาร์ริค 7, ไรอัน กิ๊กส์ 7, คีแรน ริชาร์ดสัน 5, อลัน สมิธ 6, เวย์น รูนี่ย์ 7, จอห์น โอเชีย (สำรอง) 6, พาร์ค จีซุง (สำรอง) 6
มิดเดิ้ลสโบรซ์ มาร์ค ซวาร์เซอร์ 8, อาเบล ซาเวียร์ 6, โจนาธาน วู้ดเกต 7, เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์ 7, แอนดรูว์ เทยเลอร์ 7, ฮูลิโอ อาร์ก้า 6, ลี แคทเตอร์โมล 5, จอร์จ บัวเต็ง 7, สจวร์ต ดาวนิ่ง 6, อาเย็คเบนี่ ยาคูบู 5, มาร์ค วิดูก้า 7, โรเบิร์ต ฮูธ (สำรอง) 6, ฟาบิโอ โรเชมบัค (สำรอง) 5, เจมส์ มอร์ริสัน (สำรอง) 4
