
สิงหาคม
เชลซี เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการคว้าตัวนักเตะดังอย่าง อังเดร เชฟเชนโก้ และ ไมเคิล บัลลัค และเริ่มเกมแรกได้สวยโดยการเอาชนะแมนเชลเตอร์ ซิตี้ 3 - 0 แต่กลับพลาดในเกมที่สองโดยพ่ายต่อมิดเดิ้ลสโบรซ์ และเกมที่สามบุกไปเอาแบล็คเบิร์น ได้ ในขณะที่ฤดูกาลที่แล้ว ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเล่นถึง 11 นัดถึงจะพบความพ่ายแพ้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มฤดูกาลด้วยการคว้า ไมเคิล คาร์ริค มาเสริมทีมและขาย รุด ฟาน นิสเตลรอย ออกไปในขณะที่อนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังไม่แน่นอนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในฟุตบอลโลก 2006 กับ เวย์น รูนี่ย์ เพื่อนร่วมทีมของเขา แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มเดือนสิงหาคมได้ดีทีเดียว นัดแรกชนะฟูแล่ม ในบ้าน 5 - 1 ตามด้วยชัยชนะเหนือชาร์ลตัน และวัตฟอร์ด
31 สิงหาคม 2006
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 3 นัด ชนะ 3 นัด มี 9 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 5 แข่ง 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 มี 6 คะแนน
กันยายน
เหตุการณ์สำคัญที่สุดในเดือนนี้เกิดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน โดยเชลซี ชนะลิเวอร์พูล ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายต่ออาร์เซน่อล 1 - 0 นอกจากนั้นยังบุกไปเสมอกับเรดดิ้ง ส่วนเชลซี เก็บชัยชนะได้อีก 3 นัดและเสมอ 1 นัด ทำให้เชลซี ขึ้นเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ในช่วงสิ้นเดือนนี้
30 กันยายน 2006
เชลซี อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 7 นัด ชนะ 5 นัด เสมอ 1 แพ้ 1 มี 16 คะแนน
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 3 แข่ง 6 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 1 แพ้ 1 มี 13 คะแนน
ตุลาคม
เกมพรีเมียร์ ลีก เริ่มเล่นกันวันที่ 14 ตุลาคม เนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นต้องหลีกทางให้กับฟุตบอลทีมชาติ ทั้ง 2 ทีมกลับมาเล่นดีทั้งคู่ เชลซี ชนะเรดดิ้ง ปอร์ทสมัธ และเชฟฟิลด์ ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะวีแกน ลิเวอร์พูล และโบลตัน
แต่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อเชลซี ต้องเสียผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม ปีเตอร์ เช็ค ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่กะโหลกศีรษะต้องหามออกจากสนามในนัดที่พบกับเรดดิ้ง ทำให้เขาต้องพักยาวหลายเดือน
ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันแต่แมนฯ ยูไนเต็ด มีประตูที่ดีกว่าคือทำได้ 25 ประตู ส่วนเชลซี ทำได้ 17 ประตู
31 ตุลาคม 2006
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 10 นัด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 25 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 10 นัด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 25 คะแนน
พฤศจิกายน
ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน การแย่งแชมป์เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น โดยระยะห่างระหว่างอันดับที่ 2 และ 3 เริ่มห่างมากขึ้น โดย เปเป้ เรย์น่า ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล ก็ออกมายอมรับตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนว่า "การคว้าแชมป์อาจไกลเกินไปสำหรับเราเพราะถ้าลองคำนวณดูแล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี มีสิทธิแย่งแชมป์กันแค่ 2 ทีม"
ในเดือนนี้ เชลซี เดินทางไปเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด พบกับแมนฯ ยูไนเต็ด และผลก็จบลงด้วยการเสมอกันไป 1 - 1 แต่นัดอื่นๆ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะได้ทั้ง 4 นัด ส่วนเชลซี กลับไปพ่ายต่อสเปอร์ส
30 พฤศจิกายน 2006
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 15 นัด ชนะ 12 เสมอ 2 แพ้ 1 มี 38 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 15 นัด ชนะ 11 เสมอ 2 แพ้ 2 มี 35 คะแนน
ธันวาคม
เชลซียังพลาดเก็บแต้มอีกครั้งและทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่างเป็น 8 แต้มเมื่อพวกเขาเสมอกับอาร์เซน่อล ในบ้านตัวเอง และมูรินโญ่ ก็เริ่มหงุดหงิด แต่ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์เตือนเฟอร์กี้ ว่า "ถ้าเฟอร์กูสัน คิดว่าเกมจบแล้วเขาก็จะพบปัญหาแน่ เพราะว่าจริงๆ แล้วเกมมันยังไม่จบ"
นอกจากนี้ มิคาเอล เอสเซียง ก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "ทีมของเราดีกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก"
"มันก็แค่เรื่องนิดๆ หน่อยๆ ระหว่างทางที่เราจะขึ้นนำ ผมได้ลองคำนวณดูแล้วและเราก็มีสิทธินำแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึง 5 แต้ม"
แต่แล้วแมนฯ ยูไนเต็ด ก็หยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 12 เกมเมื่อพ่ายต่อเวสต์ แฮม 1 - 0 ในขณะที่ในวันเดียวกันเชลซี เอาชนะเอฟเวอร์ตัน ได้ 3 - 2 แต่อย่างไรก็ดี เชลซี ก็เจอข่าวร้ายอีกครั้งเมื่อ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมได้รับบาดเจ็บที่หลังต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวอีก 1 คน
ช่วงที่มีเกมติดๆ กันตั้งแต่ก่อนคริสต์มาส ไปจนถึงปีใหม่เชลซี ที่ไม่มีเทอร์รี่ ทำได้ไม่ดีเลย เมื่อทั้ง 4 นัดเสียนัดละ 2 ประตู ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ฉลองคริสต์มาส อย่างสนุกสนานด้วยชัยชนะ 3 นัด
31 ธันวาคม 2006
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 21 นัด ชนะ 17 เสมอ 2 แพ้ 2 มี 53 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 21 นัด ชนะ 14 เสมอ 5 แพ้ 2 มี 47 คะแนน
มกราคม
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เซ็นสัญญายืมตัว เฮนริก ลาร์สสัน มาจากเฮลซิงบอร์ก เป็นเวลา 3 เดือน ทางด้านเชลซี ยังคงมีปัญหาเนื่องจากไม่มีนักเตะกองหลังที่จะมาทดแทนเทอร์รี่ ได้ หลังจากที่พวกเขาขาย โรเบิร์ต ฮูธ และ วิลเลี่ยม กัลลาส ไปแล้วในช่วงซัมเมอร์ ทำให้มีข่าวลือตามมาอีกหนาหูว่า มูรินโญ่จะอยู่กับเชลซี เพียงแค่หมดฤดูกาลนี้เท่านั้น เนื่องจากการคุมทีมที่ล้มเหลวของเขาสร้างความไม่พอใจต่อบอร์ดบริหาร แต่อย่างไรก็ดี ปีเตอร์ เคนย่อน ก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่าข่าวดังกล่าวไร้สาระทั้งเพ
แม้เชลซี จะมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ แต่มูรินโญ่ ก็ยังไม่วายออกมาแขวะเฟอร์กูสันว่า "ลองคิดถึงปัญหาของเชลซี สิ ที่จริงแล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะทำคะแนนทิ้งเราเป็น 10, 12 หรือ 14 คะแนนด้วยซ้ำ แต่พวกเขาทำไม่ได้ และผมก็พอใจกับคะแนนที่ห่างเพียง 6 แต้มนี้"
แต่ช่วงเวลาย่ำแย่ของเชลซี ก็ยังคงดำเนินต่อไปเมื่อไปพ่ายต่อลิเวอร์พูล 2 - 0 ทั้งๆ ที่พวกเขาได้เช็ค กลับมาเฝ้าเสาแล้วก็ตาม ซึ่งต้องขอบคุณเชลซี เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด เองก็ไปพ่ายต่ออาร์เซน่อล เช่นกัน
31 มกราคม 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 25 นัด ชนะ 19 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 60 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 25 นัด ชนะ 16 เสมอ 6 แพ้ 3 มี 54 คะแนน
กุมภาพันธ์
เชลซี ได้เทอร์รี่ กลับมาตั้งแต่ต้นเดือน และเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัดในเดือนนี้ นอกจากนี้พวกเขายังคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลไปได้ เมื่อเอาชนะอาร์เซน่อล ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ
ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งแข่งมากกว่า 1 นัดเนื่องจากไม่มีเกมฟุตบอลถ้วยก็เก็บชัยชนะได้ทั้ง 3 นัด นำห่างเชลซี เป็น 9 แต้มแล้ว
28 กุมภาพันธ์ 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 28 นัด ชนะ 22 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 69 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 27 นัด ชนะ 18 เสมอ 6 แพ้ 3 มี 60 คะแนน
มีนาคม
จากการที่เชลซีได้ทั้ง เช็ค และเทอร์รี่ กลับมาทำให้พวกเขาเก็บชัยชนะได้ทั้ง 4 นัดด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังทำได้ดีเมื่อเอาชนะลิเวอร์พูล ไปได้ 1 - 0 จากประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของจอห์น โอเชีย และก็ยังเก็บชัยชนะได้อีก 2 นัดที่เหลือ แต่พวกเขาก็ต้องพบข่าวร้ายเมื่อกองหลังตัวสำคัญของทีมได้รับบาดเจ็บถึง 2 คนคือแกรี่ เนวิลล์ และเนมานย่า วิดิช
31 มีนาคม 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 31 นัด ชนะ 25 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 78 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 31 นัด ชนะ 22 เสมอ 6 แพ้ 3 มี 72 คะแนน
เมษายน
เชลซี เริ่มเดือนเมษายนด้วยชัยชนะนัดที่ 8 และ 9 ติดต่อกัน แต่แมนฯ ยูไนเต็ด กลับพ่ายต่อปอร์ทสมัธ ตั้งแต่ต้นเดือน ผลการแข่งขันนี้ทำให้ตำแหน่งแชมป์ยังคงเปิดกว้าง นอกจากนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพลาดอีกครั้งเมื่อทำได้แค่เสมอกับมิดเดิ้ลสโบรซ์ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1 - 1 และเฟอร์กี้ ก็ออกมายอมรับหลังเกมว่า "ตำแหน่งแชมป์เปิดกว้างขึ้นแล้ว"
แล้วแมนฯ ยูไนเต็ด ก็พบข่าวร้ายอีกเมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้รับบาดเจ็บระหว่างเกมกับเดอะ โบโร่ ต้องพักอย่างน้อย 2 สัปดาห์
เชลซีได้โอกาสที่จะเก็บแต้มเข้าใกล้แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือเพียง 1 แต้มแต่พวกเขากลับทำไม่ได้เมื่อทำได้แค่เสมอกับนิวคาสเซิ่ล 0 - 0
หลังจากนั้น มูรินโญ่เริ่มให้สัมภาษณ์กล่าวหาแมนฯ ยูไนเต็ดว่า "มีกฎฟุตบอลใหม่เกิดขึ้น คือ ห้ามผู้ตัดสินคนใดเป่าให้จุดโทษกับทีมคู่แข่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
ในวันที่ 28 เมษายนทั้งเชลซีและแมนฯ ยูไนเต็ด ต่างก็ลงแข่งพร้อมกันในเวลาเที่ยง เมื่อหมดครึ่งแรกเชลซี นำโบลตันอยู่ 2 - 1 ส่วนเอฟเวอร์ตัน นำแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ 1 - 0 แต่แล้วเมื่อหมดเวลาเกมกลับพลิกเมื่อเชลซี ทำได้แค่เสมอกับโบลตัน 2 - 2 ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะได้ 2 - 4 จบเกมเฟอร์กูสัน ยิ้มร่าด้วยความดีใจในกูดิสัน ปาร์ค ส่วนเหตุการณ์ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ กลับเงียบเหงา แต่มูรินโญ่ ก็ยังบอกว่าการแย่งแชมป์ยังไม่จบ เมื่อยังเหลืออีก 3 นัดและระยะห่าง 5 แต้ม ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้
30 เมษายน 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 35 นัด ชนะ 27 เสมอ 4 แพ้ 4 มี 85 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 35 นัด ชนะ 24 เสมอ 8 แพ้ 3 มี 80 คะแนน
พฤษภาคม
เริ่มเดือนพฤษภาคม ทั้งสองทีมมีเกมรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องลงแข่ง และพวกเขาก็ตกรอบนี้ทั้งสองทีม โดยแมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายต่อเอซี มิลาน ด้วยประตูรวม 5 - 3 ส่วนเชลซี พ่ายต่อลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษเมื่อจบเกมเสมอกันอยู่ 1 - 1
กลับมาในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ได้ 0 - 1 ในขณะที่เชลซี บุกไปทำได้แค่เสมอกับอาร์เซน่อล 1 - 1 ทำให้สรุปคะแนนในขณะนี้
6 พฤษภาคม 2007
แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 1 แข่ง 36 นัด ชนะ 28 เสมอ 4 แพ้ 4 มี 88 คะแนน
เชลซี อยู่อันดับที่ 2 แข่ง 36 นัด ชนะ 24 เสมอ 9 แพ้ 3 มี 81 คะแนน
เหลือเกมการแข่งขันอีกเพียง 2 นัด นั่นก็หมายความว่าแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ไปครองได้เป็นสมัยที่ 9 เป็นที่แน่นอนแล้ว