สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 41,794 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 02.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2550
ผู้ตัดสิน เกรแฮม โพลล์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์พรีเมียร์ ลีก สดๆ ร้อนๆ ได้เดินทางไปเยือนเชลซี ทีมรองแชมป์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาที่สแตมฟอร์ด และเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0 - 0
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซี ต่างก็ส่งนักเตะตัวสำรองลงเล่นในนัดนี้ เพื่อเก็บผู้เล่นหลักๆ ของทีมลงสู้ศึกกันในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในวันเสาร์หน้า
เกมโดยรวมเชลซี น่าจะเป็นผู้ชนะได้ เนื่องจากครองเกมได้มากกว่าและได้บุกมากกว่า แต่แม้ว่าโทมัสซ์ คุสซ์แซค จะลุกลี้ลุกลนอยู่บ้างแต่ก็สามารถป้องกันประตูไว้ได้หลายครั้ง รวมทั้งคีแรน ลี กองหลังดาวรุ่งของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ช่วยเคลียร์บอลในจังหวะที่ เบน ซาห์ร ศูนย์หน้าดาวรุ่งของเชลซี ได้ยิง
ในการเดินลงสู่สนามของนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งนำโดยกาเบรียล ไฮน์เซ่ กัปตันทีมในนัดนี้ ก็ได้รับการตั้งแถวปรบมือต้อนรับจากนักเตะเชลซี อย่างดีซึ่งนำโดยจอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี
เนื่องจากเกมนี้ไม่มีผลใดๆ ต่อการคว้าแชมป์ ทำให้เกมผ่านไปอย่างเนือยๆ และน่าเบื่อ น้อยครั้งที่ทั้งสองทีมจะบุกถึงหน้าประตูของฝั่งตรงข้าม และก็เป็นเชลซี ที่ครองเกมบุกได้มากกว่า โดยพวกเขามีโอกาสได้ประตูตั้งแต่นาทีที่ 6 เมื่อ มิเกล ดีดบอลต่อให้กับ ไรท์ ฟิลลิปส์ ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ โทมัสซ์ คุสซ์แซค ก็ป้องกันไว้ได้
เกมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากเริ่มคึกคักขึ้นเมื่อ จอห์น โอบี มิเกล ไม่พอใจในจังหวะที่อลัน สมิธเข้าสกัดเขาตรงกลางสนาม ทำให้จังหวะต่อมาเขาก็มาเอาคืน โดยเข้าสกัดสมิธ ทำให้ผู้ตัดสิน เกรแฮม โพลล์ ไม่ลังเลที่จะให้ใบเหลืองกับเขา
แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสลุ้นทำประตูบ้างในนาทีที่ 37 เมื่ออลัน สมิธ เปิดบอลให้กับกาเบรียล ไฮน์เซ่ ซึ่งได้วิ่งไปรอชาร์จในกรอบเขตโทษ แต่เขากลับจิ้มบอลหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกเกมไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก และทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0 - 0
เริ่มครึ่งหลัง เชลซีปรับเกมก่อนโดยส่ง โจ โคล ลงเล่นแทน มิเกล
แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้จุดโทษอย่างเห็นได้ชัดในจังหวะที่ มิคาเอล เอสเซียง เข้าไปสกัด อีเกิ้ลส์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้เป็นจุดโทษ ทำให้ อีเกิ้ลส์ ไม่พอใจพุ่งเข้าเสียบ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ในจังหวะถัดมาทำให้ได้รับใบเหลืองไป
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มปรับเกมบ้างโดยส่งไมเคิล คาร์ริค ลงเล่นแทนไฮน์เซ่
เชลซีได้กดดันแมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้งในนาทีที่ 68 จากลูกยิงของ ไรท์ ฟิลลิปส์ แต่บอลก็ไปตรงตัวคุสซ์ แซค ตามด้วยลูกยิงของซาโลม่อน กาลู แต่คุสซ์แซค ก็ป้องกันไว้ได้อีกครั้ง
ตง ฟางโจว ซึ่งโชว์ฟอร์มไม่ออกในเกมนี้ ซึ่งเป็นเกมแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ จึงถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 73 และเฟอร์กี้ก็ส่งเวย์น รูนี่ย์ ลงเล่นแทน
เชลซี ยังคงครองเกมได้มากกว่าและได้บุกหวาดเสียวในช่วงท้ายเกมเมื่อ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ได้ยิงไกล แต่คุสซ์แซค ก็ยังป้องกันไว้ได้ แต่หลังจากนั้นเชลซี ก็ได้ลูกเตะมุม คุสซ์แซค ก็ต้องเจอกับงานหนักในจังหวะชุลมุนกันหน้าประตู แต่ก็โชคดีที่เขายังป้องกันลูกโหม่งของจอห์น เทอร์รี่ ไว้ได้ แต่เกมบุกของเชลซี ยังไม่จบแค่นี้ เมื่อพวกเขาได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง ริชาร์ดสัน สกัดบอลไปชนตัว กาลู กระดอนกลับมาหน้าประตู แต่คุสซ์แซค ก็ยังคว้าบอลไว้ได้
หลังจากนั้นเบน ซาห์ร ก็มีโอกาสยิง แต่คีแรน ลี ของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ช่วยเคลียร์บอลออกไปได้ จบเกมทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไป 0 - 0 (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผูเล่นของทั้งสองทีม
เชลซี
คาร์โล คูดิชินี่ 23
เปาโล เฟร์ไรร่า 20
จอห์น เทอร์รี่ 26
เวย์น บริดจ์ 18
ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 19 (

โคล้ด มาเกเลเล่ 4
ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ 24
มิคาเอล เอสเซียง 5 (

จอห์น โอบี มิเกล 12 (

ซาโลม่อน กาลู 21
สกอตต์ ซินแคลร์ 49
สำรอง
เฮนริเก้ ฮิลาริโอ 40
นูโน่ โมเรส 33


โจ โคล 10


เฌเรมี่ 14
เบน ซาห์ร 47


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
คีแรน ลี 35 (

เวส บราวน์ 6 (

จอห์น โอเชีย 22
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4 (

คริส อีเกิ้ลส์ 33 (

ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
อลัน สมิธ 14
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
ตง ฟางโจว 21
สำรอง
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
ไมเคิล คาร์ริค 16


พอล สโคลส์ 18
เวย์น รูนี่ย์ 8


สถิติของเกม
เชลซี ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 8, ยิงหลุดกรอบ 6, โดนบล็อค 9, เตะมุม 7, ฟาวล์ 18, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 3, การครองบอล 59.9%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 1, ยิงหลุดกรอบ 6, เตะมุม 1, ฟาวล์ 21, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 4, การครองบอล 40.1%
คะแนนความสามารถ
เชลซี คาร์โล คูดิชินี่ 6, เปาโล เฟร์ไรร่า 6, จอห์น เทอร์รี่ 7, เวย์น บริดจ์ 6, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า 7, โคล้ด มาเกเลเล่ 6, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ 8, มิคาเอล เอสเซียง 7, จอห์น โอบี มิเกล 6, ซาโลม่อน กาลู 7, สกอตต์ ซินแคลร์ 6, นูโน่ โมเรส (สำรอง) 6, โจ โคล (สำรอง) 10, เบน ซาห์ร (สำรอง) 7
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 5, คีแรน ลี 6, เวส บราวน์ 8, จอห์น โอเชีย 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 6, คริส อีเกิ้ลส์ 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, คีแรน ริชาร์ดสัน 5, อลัน สมิธ 7, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 5, ตง ฟางโจว 5, ไมเคิล คาร์ริค (สำรอง) 6, เวย์น รูนี่ย์ (สำรอง) 8