
"ผมรักที่สวมเสื้อของปีศาจแดงครับ" คีแรน ริชาร์ดสัน
นี่เป็นฤดูกาลที่สองในทีมของริชาร์ดสัน หลังกลับจากการลงเล่นแบบยืมตัวที่เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน และหมวกทีมชาติใบแรกเมื่อปี 2005 คีแรน ริชาร์ดสัน อาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงในทีมไว้ได้ แต่เหรียญแชมป์ลีกที่ได้มาในปีนี้จะทำให้เขามีความมุ่งมั่นในการแย่งตำแหน่งมากกว่าเดิมแน่ๆ
ฤดูกาลที่ผ่านมา ริชาร์ดสันออกสตาร์ทตัวจริงในลีกไปแปดนัด และได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองอีกเจ็ดครั้งด้วยกัน เพิ่มสถิติลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด เป็น 41 เกม
ริชาร์ดสัน เริ่มต้นฤดูกาลบนม้านั่งสำรอง และลงสัมผัสเกมครั้งแรกในการเป็นตัวสำรองแทนไรอัน กิ้กส์ ในเกมบุกไปชนะวัตฟอร์ด 2 - 1 จากนั้นเขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับเรดดิ้ง และสเปอร์ส แต่ด้วยการกลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งของปีกพ่อมดชาวเวลส์ ทำให้โอกาสในการลงสนามของเขานั้นน้อยลงไปด้วย ริชาร์ดสันยิงประตูในเกมยุโรปกับเอฟซี โคเปนเฮเก้น ในเดือนตุลาคม และมีส่วนร่วมในทีมที่ลงเล่นคาร์ลิ่ง คัพ ในนัดที่เจอกับครูว อเลกซานดร้า และเซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด
แต่หลังจากนั้นโอกาสการลงสนามในเกมลีกของเขาก็มีนานๆ ครั้ง ริชาร์ดสัน ลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งเป็นเกมพบกับเอฟเวอร์ตัน ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเดือนพฤศจิกายน แล้วอีกครั้งหนึ่งคือนัดที่เจอกับวัตฟอร์ด ตอนเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีฟอร์มที่น่าประทับใจในถ้วยเอฟเอ คัพ ริชาร์ดสันก็กลับมาเป็นตัวเลือกในแผนของเซอร์ อเล็กซ์ อีกครั้งและจบฤดูกาลด้วยการมีส่วนร่วมมากขึ้น เขาลงเล่นในเกมถ้วยกับทั้งเรดดิ้ง และมิดเดิ้ลสโบรห์ และทำประตูได้ในเกมกับวัตฟอร์ด ในรอบรองชนะเลิศ จากนั้นก็ได้โอกาสลง
เป็นตัวจริงในเกมกับปอร์ทสมัธ และมิดเดิ้ลสโบรห์ ซึ่งเขาก็ทำประตูแรกในลีกของฤดูกาลนี้ได้ การแตะลูกก่อนเวย์น รูนี่ย์ ทำลายกับดักล้ำหน้าของโบโร่ลงได้
หลังจากลูกยิงในเกมเอฟเอ คัพ ประตูที่สองในรอบสัปดาห์ก็ช่วยให้เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าเกมลีกนัดสุดท้ายกับเวสต์ แฮม จะจบลงด้วยการพ่ายแพ้ แต่การลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งปีกซ้าย ก็น่าจะเป็นความหวังว่าในฤดูกาลหน้าคงจะได้มีส่วนร่วมกับทีมได้มากกว่านี้
ช่วงเวลามหัศจรรย์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 - มิดเดิ้ลสโบรห์ 1
21 เมษายน 2007, โอดล์ แทรฟฟอร์ด
หลังจากได้ลงสนามมาต่อเนื่องระยะหนึ่ง ริชาร์ดสันก็มีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับโบโร่ และเขาก็ตอบแทนความไว้วางใจของเซอร์ อเล็กซ์ ด้วยการยิงประตูให้ทีมขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่สาม รูนี่ย์วิ่งไปรับบอลจากลูกเปิดของพอล สโคลส์ และแตะอ้อมตัวผู้รักษาประตู เหลือเพียงประตู โล่งๆ ให้ริชาร์ดสันจิ้มเข้าไปง่ายๆ