10. ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 0 นอตต์ส เคาน์ตี้
17 สิงหาคม 1991
ยักษ์เดนส์เซ็นสัญญาย้ายมาจากบรอนด์บี้ ในลีกเดนมาร์ก ตอนหน้าร้อนปี 1991 และลงเล่นนัดแรกในนัดเปิดฤดูกาล 1991/1992 ในการพบกับ นอตต์ส เคาน์ตี้ รูปเกมนั้นเป็นฝ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกอยู่ข้างเดียว และเอาชนะไปสบาย 2 0 จากลูกยิงของ สปาร์คกี้ มาร์ค ฮิวจส์ และ กัปตันมาร์เวล ไบรอัน รอบสัน
แม้นอตต์ส เคาน์ตี้ จะเล่นเกมรับกันใช้ได้ แต่ก็ไม่มีเกมบุกมาทดสอบฝีมือผู้รักษาประตูคนใหม่ ว่าคุ้มค่าตัวหรือไม่ แต่แฟนบอลในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ได้เห็นลูกขว้างยาว ในการบุกสวนกลับ ซึ่งต่อมาก็เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเทพพิทักษ์จากเดนมาร์ก คนนี้
ถึงจะไม่ได้โชว์ฟอร์มมากนักในนัดนั้น แต่การลงเล่นก็สร้างความประทับใจให้ผู้รักษาประตูร่างยักษ์ได้มากทีเดียว การลงเล่นท่ามกลางแฟนบอลกว่า 46,000 คนช่างเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อจริงๆ ชไมเคิ่ลเขียนในชีวประวัติของเขา มันเป็นแรงผลักดันให้ผมฝันถึงการประสบความสำเร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ลีก และเขาก็ไม่ต้องรอนานเลยจริงๆ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลนั้นด้วยการคว้าแชมป์)
9. เรย์ วิลกิ้นส์
เซาแธมป์ตัน 1 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
18 สิงหาคม 1979
เดฟ เซ็กซ์ตัน ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมิดฟิลด์คนนี้มาจาก สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ตอนเดือนสิงหาคม 1979 และก็เป็นหนึ่งหัวข้อในการกล่าวถึงในช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ บ็อบ วิลสัน จากนิตยสาร Football Focus บอกว่า ตอนนี้เขา(เรย์)หลุดพ้นจากความกดดันที่เชลซี แล้ว เราหวังว่าเขาจะรีดฟอร์มออกมาได้ แต่ในแมตช์ เปิดตัวกลับเป็นมิดฟิลด์อีกคนหนึ่งของ นักบุญ เซาแธมป์ตัน ชาร์ลี จอร์จ ที่แย่งความเด่นไป จากการนำไปสู่จุดโทษจากการฟาลว์ของกอร์ดอน แมคควีน ปราการหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่แมคควีนจะแก้ตัวด้วยการยิงตีเสมอก่อนหมดครึ่งแรก และสุดท้ายก็จบเกมไปด้วยการเสมอกัน
วันถัดมา นสพ. Sunday Mirror กล่าวถึงเรย์ว่า ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็เป็นนัดที่น่าพอใจ ส่วนตัวของเรย์บอกว่า ผมตื่นเต้นก่อนเกม และคงต้องลงเล่นอีกสักสองสามเกมจึงจะปรับตัวได้
8. รอย คีน
นอริช ซิตี้ 0 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
15 สิงหาคม 1993
หลังจากย้ายตัวด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสร 3.75 ล้านปอนด์ จาก เจ้าป่า นอตติ้งแฮมฟอเรสต์ คีโน่ก็ประเดิมสนามให้กับทีมใหม่ในฤดูกาลใหม่ ด้วยการเผชิญหน้ากับคู่ปรับแย่งแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง นกขมิ้น นอริช ซิตี้
แต่คีนก็ลงเล่นอบ่างปราศจากความกดดัน อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญให้แมนยูเก็บชัยชนะในนัดนี้ได้ด้วย เริ่มจากนาทีที่ 25 ที่คีนโหม่งลูกเตะมุมของเออร์วินไปให้มาร์ค ฮิวจ์ยิงไปติดตัวผู้รักษาประตู ก่อนที่ลูกจะไหลไปเข้าทางไรอัน กิ้กส์สังหารจ่อๆเข้าไป
หลังจากนัดนั้นอีกสามวัน คีโน่ก็จัดการคนเดียวสองลูกในนัดที่แมนยูถล่ม ดาบคู่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 3 0 มันเป็นการเริ่มต้นที่สุดยอดจริง อนาคตกัปตันปีศาจแดงบอก
7. ชาร์ลี มิตเท่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 กริมสบี้ ทาวน์
31 สิงหาคม 1946
สงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเหตุให้ปีกซ้ายร่างเล็กคนนี้ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีในการประเดิมสนามให้ทีมที่เขาเซ็นสัญญาตอนอายุ 15 เหมือนปี 1936 จากการเข้าร่วมสงครามและเป็นนักเตะรับเชิญให้กับทีมเชลซี, วูลฟ์ส หรือเซาแธมป์ตัน ในที่สุดชาร์ลี ก็ลงเล่นในแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดเปิดฤดูกาลฟุตบอลลีกครั้งแรกหลังจากสงครามสงบลง
ชาร์ลี ทำ 1 ประตูในชัยชนะเหนือกริมสบี้ ทาวน์ 2-1 ก่อนจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมแมตต์ บัสบี้ ที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1948
แต่หลังจากนั้นชีวิตของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีปัญหา หลังจากตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมในลีกโคลัมเบียอย่าง ซานต้า เอฟซี ขณะที่ทีมออกทัวร์สหรัฐอเมริกา ทำให้แมตต์ บัสบี้ โกรธมากจนเมื่อย้ายกลับมาในอีกหนึ่งปีให้หลังชาร์ลี โดนแบนห้ามเล่นไป 6 เดือน โดนปรับไปอีก 250 ปอนด์ สุดท้ายก็โดนปล่อยให้ฟูแล่ม ด้วยค่าตัว 20,000 ปอนด์
6. กอร์ดอน สตรัคคั่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 - 1 วัตฟอร์ด
25 สิงหาคม 1984
เซ็นสัญญาโดยรอน แอตคินสัน จากทีมอเบอร์ดีน ที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมอยู่ตอนนั้น ด้วยค่าตัว 600,000 ปอนด์ นักเตะผมแดงชาวสกอตต์คนนี้ก็ลงสนามนัดเปิดตัวพร้อมกับนักเตะใหม่อีกสองคนคือปีกเดนส์ เจสเปอร์ โอลด์เซ่น และนักเตะบราซิลคนแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อลัน บราซิล ในนัดเปิดสนามฤดูกาล 1984/85 พบกับ แตนอาละวาด วัตฟอร์ด
ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดวันนั้นก็คือนักเตะสกอตต์ผมแดงคนนี้นี่เอง หลังจากไล่เก็บบอลลูกเคลียร์ไม่ขาดของวัตฟอร์ด และพาบอลไปถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ และลุกขึ้นมาสังหารประตูพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 0
แม้เกมที่เหลือจะเป็นไปอย่างตื่นเต้นและใกล้จบลงด้วยชนะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ลูกวอลเล่ย์นาทีสุดท้ายจากปีกวัตฟอร์ด ไนเจล คัลลาเก้น กระชากสองแต้มให้หลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย
5. เดนิส เออร์วิน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 0 โคเวนทรี
25 สิงหาคม 1990
ผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 90 ที่อิตาลี ทำให้กระแสความคลั่งไคล้ในฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษสูงขึ้นกว่าเดิมเมื่อเริ่มฤดูกาล 1990/91 โดยเฉพาะที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ที่แฟนบอลเข้าแถวรอเข้าสนามก่อนเกมจะเริ่มถึง 7 ชั่วโมง
แต่การรอคอยก็คุ้มค่า เมื่อได้เห็นการประเดิมสนามของแบ๊คซ้ายตัวใหม่ที่ย้ายจากทีมโอลด์แฮม แอธเลติก และเมื่อจบเกมชื่อของเดนิส เออร์วิน ก็เป็นที่ติดปากแฟนบอล จากผลงานการเปิดบอลให้ทีมทำประตูทั้งสองประตูในชัยชนะเหนือ ช้างกระทืบโรง โคเวนทรี ซิตี้
ลูกแรกในนาทีที่ 51 เออร์วิน ซึ่งโชว์ฟอร์มโดดเด่นทางฝั่งซ้าย โยนบอลให้สตีฟ บรู๊ซ โหม่งเป็นประตูขึ้นนำให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก่อนที่จะหมดเวลา 19 นาที ก็หยอดลูกไปหน้าประตูให้ นีล เวบบ์ พุ่งโหม่งปิดฉากเข้าไป
4. นีล เวบบ์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 อาร์เซนอล
19 สิงหาคม 1989
กองกลางทีมชาติอังกฤษ ซึ่งย้ายจากทีม เจ้าป่า นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ ประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่อย่างสวยหรูด้วยการถล่มแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนอย่าง ไอปืนใหญ่ อาร์เซนอล ยับเยิน
เกมดำเนินไปอย่างสูสี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อนเพียงสองนาทีแรกจากบรู๊ซที่โขกลูกเตะมุมของลี ชาร์ป เข้าไป แต่เดวิด โรเซนทาล ก็ยิงตีเสมอให้กับแชมป์เก่าได้ ก่อนจะหมดครึ่งแรกด้วยการเสมอกันอยู่ 1-1 กลับมาในครึ่งหลัง เป็นมาร์ค ฮิวจ์ส ที่ยิงประตูคลายความกดดันให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ จนกระทั่งนาทีที่ 80 เวบบ์ ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และก็ประเดิมประตูแรกให้กับต้นสังกัดด้วยการชิพบอลผ่านจอห์น ลูคิก เข้าไป และสองนาทีถัดมา ก็เป็นไบรอัน แมคแคลร์ ยิงให้ปิดฉากในชัยชนะสมบูรณ์แบบ
แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเวบบ์ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และฟอร์มตก จนทำให้ไม่มีส่วนร่วมกับทีมมากนัก
3. รุด ฟาน นิสเตลรอย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 2 ฟูแล่ม
19 สิงหาคม 2001
รุด ฟาน นิสเตลรอย ประเดิมสนามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล 19 ล้านปอนด์จากทีมพีเอสวี ไฮนด์โอเฟ่น ในฮอลแลนด์ ด้วยการเผชิญหน้ากับอนาคตเพื่อนร่วมทีมอย่างเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หรือหลุยส์ ซาฮา ของ เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้ไม่ดีนัก แม้จะขึ้นนำไปก่อนจากลูกฟรีคิกของเดวิด เบคแฮม แต่หลุยส์ ซาฮา ก็ซัด 2 ประตูพาทีมเยือนจากลอนดอนขึ้นนำเป็น 2-1 จนหมดครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 51 รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็จัดการประตูแรกของตัวเองในลีกอังกฤษสำเร็จ โดยรับลูกเปิดจากแอนดี้ คิง โคล ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรอง สังหารผ่านฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไป จากนั้นอีกเพียงสองนาที รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็จัดการลูกที่สองของตัวเองเป็นประตูชัยจากลูกโยนของเบคแฮม ที่มิเกล ซิลแวสตร์ สะบัดต่อไปให้เขาจัดการที่เสาไกลเข้าประตูไป
จบเกมแม้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะตำหนิแนวรับ แต่กระแสความสนใจก็ไปอยู่ที่การประเดิมสนามอันสวยงามมากกว่า แฮรี่ แฮร์ริส จาก Daily Mirror บอกว่า เป็นการเพิ่มมิติในเกมรุกให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนเดวิด ลาคีย์ จาก The Guardian ก็บอกว่า รุดมีสัญชาติญาณในการสังหารประตูที่ยอดเยี่ยม พาให้นึกถึงเดนิส ลอว์ เลยทีเดียว
2. เดนิส ลอว์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 2 เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
18 สิงหาคม 1962
การย้ายทีมของ ราชันย์สตั้ดเหินหาว เดนิส ลอว์ จากทีม กระทิงหิน โตริโน่ ในอิตาลี สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1962 นั้นเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะนอกจากค่าตัว 170,000 ปอนด์จะเป็นสถิติสูงสุดของเกาะอังกฤษขณะนั้นแล้ว ลอว์ยังเป็นอดีตนักเตะของคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย
ลอว์ ประเดิมสนามเพียง 7 นาที ก็สามารถยิงประตูแรก ด้วยลูกยิงที่นสพ.The Times บรรยายว่า รวดเร็ว และมีสไตล์ ขณะที่ The Thunderer เขียนถึงฟอร์มในครึ่งแรกของลอว์ ว่า แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันล้นเหลือ วิ่งพล่านทุกที่ในสนาม หาโอกาสยิงประตูอยู่ ครู่เดียวก็ลงมาช่วยเกมรับอยู่หน้าประตู
มาครึ่งหลังฟอร์มของลอว์ ก็คลายลงไปหน่อย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นนัดเปิดตัวที่น่าประทับใจ
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
16 สิงหาคม 2003
การลงเล่นเพียง 29 นาทีช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นำอยู่เพียง 1-0 กลับมาถล่มไป 4-0 และด้วยการหลอกล่อ จังหวะการสับเท้า และเทคนิคการเลี้ยงบอลอันแสนตื่นเต้น ก็ทำให้ชื่อของปีกดาวรุ่งชาวโปรตุเกสคนนี้ดังสะท้านเกาะอังกฤษเลยทีเดียว
ผู้สื่อข่าวจาก The Independent เจมส์ ลอว์ตัน และนักข่าวอีกหลายคนพร้อมใจกันยกย่องหนูโด้ เหมือนไรอัน กิ้กส์ คนใหม่ หรือคันโตน่า คนใหม่ แม้กระทั่งเป็นตัวแทนของจอร์จ เบสต์
ดูเหมือนแฟนๆ จะมีฮีโร่คนใหม่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาสนับสนุน มันเป็นการประเดิมสนามที่ยอดเยี่ยมมาก ผมเชื่อว่าเด็กคนนี้จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทีมของเราเลยทีเดียว
