ไมเคิล คารร์ริก หวังจะลงลุยศึกชิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเชลซี สัปดาห์นี้แล้วส่งสัญญาณให้ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเห็นความสามารถของเขา
ไมเคิล คาร์ริก ได้รับคำชมเชยว่าเป็นกองกลางที่โชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงวาที่สุดในการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่สิบของปีศาจแดง
น่าแปลกที่เขายังคงไม่ติดทีมชาติอังกฤษ ของคาเปลโล่ ในแมทช์กระชับมิตร กับสหรัฐอเมริกา และตรินิแดด แอนด์โทเบโก
คาร์ริกวัยยี่สิบหกลงเล่นให้ทีมชาตินัดสุดท้าย ในนัดพบเยอรมัน เกือบๆ ปี และเก้านัดผ่านมาแล้ว และเขาก็รู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ สนใจใช้บริการของเขาอีกครั้ง ก็คือการเล่นในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเชลซี
เขายอมรับว่า "มันทำให้ผมผิดหวังนิดหน่อย ผมหวังว่าถ้าเล่นได้ดีผมจะได้รับโอกาส แต่ว่าช่วงนี้ผมมีเรื่องต่างๆ เข้ามาให้ต้องคิด ทั้งการล่าแชมป์พรีเมียร์ ลีก แล้วตอนนี้ก็การเตะนัดชิงกับเชลซี การลงเล่นให้อังกฤษจึงเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คิดถึงมากนัก บางทีผมอาจจะคิดถึงมันมากขึ้นตอนที่ผ่านนัดชิงไปแล้ว แต่ว่านัดชิงนีแหละเป็นเวทีสำคัญที่สุดที่ผมจะแสดงให้เห็น ว่าผมสามารถทำอะไรให้ทีมชาติได้บ้าง ถ้าคุณเล่นได้ดีในนัดชิงแชมเปียนส์ ลีก สนามไหนสถานการณ์ไหนคุณก็สามารถเล่นได้ดีเช่นกัน"
สองปีที่แล้วคาร์ริก เคยได้ลิ้มรสการเล่นในทัวร์นาเมนท์ใหญ่ด้วยการติดทีมชาติชุดฟุตบอลโลก ปี 2006 ที่เยอรมัน ตอนนี้เขาหวังจะได้ติดธงภายใต้การคุมทีมของคาเปลโล่ อีกครั้ง
"ผมเคยได้ติดทีมไปฟุตบอลโลก และลงเล่นหนึ่งนัด มันเหมือนฝันที่เป็นจริง มันน่ามหัศจรรย์มาก และเมื่อมันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งคุณก็ปรารถนาจะให้มันเกิดขึ้นอีก ผมหวังว่าฟุตบอลโลกคราวหน้าผมจะได้ไปเล่นอีก"
"ผมรู้สึกว่าผมพัฒนาฝีเท้าขึ้นตลอดเวลาที่ยูไนเต็ด ผมมาอยู่ที่นี่ได้สองปีแล้ว ที่นี่เป็นที่ที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ปีนี้เป็นปีที่ดีแล้วก็ดีขึ้นดีขึ้น ตอนนี้ผมหวังว่าเราจะจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งสูงสุด"
"ตอนนี้เราเหลือลงเตะนัดชิงอีกนัดเดียว เรามีความเชื่อมั่น สโมสรเป็นที่ที่เรามีความสุข เมื่อเริ่มเกม สิ่งที่เราคาดหวังก็จะกลายเป็นอดีต ผมไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พวกเรามีทีมเวิร์คที่ดีมีสปิริต และหวังว่าเราจะเริ่มเกมได้ดี เราและเชลซีต่างก็รู้เชิงกันดี มีผู้เล่นระดับโลกมากมายในสนาม และมันคงเป็นเกมที่สนุกแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันไม่สำคัญว่าเราเล่นอย่างไรเมื่อเราเป็นฝ่ายที่ได้แชมป์ คุณต้องคว้าโอกาสที่มาถึงให้ได้ และให้แน่ใจว่าคุณคือคนส่วนใหญ่ที่จะทำได้"
