สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 74,944 คน
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เวลา 01.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2551
ผู้ตัดสิน โวล์ฟกัง สตาร์ค
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม คืนวันพุธที่ 17 กันยายน ระหว่างแชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับบีญาร์เรียล จากสเปน แต่เกมก็น่าผิดหวังสำหรับแฟนทีมปีศาจแดง เมื่อบีญาร์เรียลเล่นไสยเวทย์ใช้คาถามหาอุดยันจนจบเกมแบบไม่มีประตู
งานนี้ทั้งสองทีมต่างก็ทำอะไรกันไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงแม้ว่าทางปีศาจแดงจะเปลี่ยนตัวเอา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาลงสนามเป็นแรงกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม เสริมทัพหวังเจาะตาข่ายสเปนิช แต่ก็ไม่เป็นผล
จากนัดเมื่อวันเสาร์ ที่พ่ายให้แก่ลิเวอร์พูลในแอนฟิลด์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดตราทัพใหม่ โดยเปลี่ยนตัวผู้เล่น 6 ตำแหน่ง มีทัพหลังเป็นจอนนี่ อีแวนส์ กับ แกรี่ เนวิลล์ แทน เนมานย่า วิดิช และ เวส บราวน์ ส่วน 4 กองกลาง จัดพาร์ค จีซุง, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และนานี่
ทีมปีศาจแดงจัดทีมในระบบ 4-4-2 ให้คู่หัวหอกอย่าง เวย์น รูนี่ย์ เล่นคู่กับคาร์ลอส เตเบซ โดยมีศูนย์หน้าตัวใหม่อย่างดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างสนามเพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า จากการปะทะ ในนัดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แต่ถึงแม้จะยกเครื่องผู้เล่นใหม่ ยูไนเต็ดก็ยังคงโชว์ฟอร์มบุกอย่างร้อนแรงตั้งแต่เปิดเกมเช่นเดิม ผ่านไปแค่ 8 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทอง จากลูกเตะมุมทางซ้าย ฮาร์กรีฟส์ ปั่นโค้งสวยงามมาหน้าประตู ดิเอโก้ โลเปซ ประตูชาวสเปนิช ออกมาปัดไว้ได้ ส่วนทางริโอ เฟอร์ดินานด์ ตั้งตัวไม่ทัน เลยได้แค่แปผ่านๆ
เตเบซ มีโอกาสส่องระยะไกล 25 หลา แต่ดิเอโก้ โลเปซ สามารถพุ่งปัดออกไปได้ อีกทั้งโชคยังเข้าข้างทีมเยือน เมื่อพาร์ค จีซุง ถูกแซะล้มในกรอบ ถึง 2 ครั้งแต่กรรมการก็ปฏิเสธที่จะให้จุดโทษแก่เจ้าบ้าน ท้ายเกมก่อนหมดครึ่งแรก รูนี่ย์ พยายามบุกจากเส้นครึ่งสนามอีก แต่ก็ยังไม่เป็นผล ยิ่งทวีความอึดอัด อึมครึม น่าหงุดหงิด ให้อบอวลไปทั่วสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนอย่างบีญาร์เรียล ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ ผนึกเกมรับอย่างหนาแน่น และยังไม่ยอมรุก จนมาได้โอกาสน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุด เมื่อฟรังโก้ ได้บอล ดีดขึ้นหลังโล่งๆ แต่บอลพุ่งชนเสา หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสเปลี่ยนตัวรวดเดียวสองคนส่ง โรนัลโด้ และ แอนเดอร์สัน ลงมากระตุ้นเกมบุก
เกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด วูบวาบขึ้นมาให้สาวกผีแดงได้ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อโรนัลโด้ ได้โอกาสจ่ายบอลลอดช่องให้ รูนี่ย์ ปาดไปที่เสาสอง ให้เตเบซ เฉียดทำประตู แต่กอนซาโล่ โรดริเกซ เตะสกัดออกจากเส้นไป
10 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด โหมเกมรุกอย่างหนัก โรนัลโด้ เกือบจะได้จารึกการกลับมาลงสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งด้วยชัยชนะก่อนจบเกม แต่ก็ได้แค่มอง นานี่ส่งบอลโค้งเข้ามาหน้าประตูทางปีกซ้าย จอนนี่ อีแวนส์ พุ่งโหม่งเน้นๆ แต่ก็ได้แค่เสียบโคนเสา
และนั่นได้พิสูจน์ไปแล้วเรียบร้อยว่ามันเคี่ยวจนหยดสุดท้ายจริงๆ กับผลการแข่งขันที่คงสกอร์ไว้ที่ 0 - 0 และผลที่พ่ายต่อทีมสองยักษ์ใหญ่ อย่าง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และลิเวอร์พูล แต่มันก็ยังคงยังห่างไกลอยู่กับการป้องกันตำแหน่งแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก บรรยายเกมโดย โอปอล
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
ปาทริซ เอฟร่า 3
แกรี่ เนวิลล์ 2
จอนนี่ อีแวนส์ 23
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 4
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พาร์ค จีซุง 13
หลุยส์ นานี่ 17
เวย์น รูนี่ย์ 10
คาร์ลอส เตเบซ 32 (

สำรอง
เบน ฟอสเตอร์ 12
แอนเดอร์สัน 8


จอห์น โอเชีย 22
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7


เนมานย่า วิดิช 15
เวส บราวน์ 6
ไรอัน กิ๊กส์ 11


บีญาร์เรียล
ดิเอโก้ โลเปซ 13 (

กอนซาโล่ 2
โจอัน แคปเดบิล่า 5
อังเกล โลเปซ 18
ดิเอโก้ โกดิน 4
มาติอัส เฟอร์นานเดซ 14
เซบาสเตียน เอกูเรน 6
เอ็ดมิลสัน 3
กานี่ 10
โรแบร์ ปิแรส 7
กิลเยร์โม่ ฟรังโก้ 9 (

สำรอง
เซบาสเตียน วิเอร่า 1
โฆเซบา ลอเรนเต้ 16


อาเรียล อิบากาซ่า 11 (



ฟาบริซิโอ ฟูเอนเตส 20
ซานติ กาซอร์ล่า 8


มาร์กอส เซนน่า 19
ฆาบี เบนต้า 17
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 0, ยิง 20 เข้ากรอบ 4, ฟาวล์ 15, เตะมุม 5, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 1, การครองบอล 57%
บีญาร์เรียล ประตู 0, ยิง 5 เข้ากรอบ 1, ฟาวล์ 14, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 3, การครองบอล 43%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, ปาทริซ เอฟร่า 7, แกรี่ เนวิลล์ 7, จอนนี่ อีแวนส์ 6, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ 6, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7, พาร์ค จีซุง 7, หลุยส์ นานี่ 7, เวย์น รูนี่ย์ 6, คาร์ลอส เตเบซ 7
สำรอง แอนเดอร์สัน 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7, ไรอัน กิ๊กส์ 6
บีญาร์เรียล ดิเอโก้ โลเปซ 7, กอนซาโล่ 7, โจอัน แคปเดบิล่า 6, อังเกล โลเปซ 7, ดิเอโก้ โกดิน 6, มาติอัส เฟอร์นานเดซ 7, เซบาสเตียน เอกูเรน 6, เอ็ดมิลสัน 6, กานี่ 6, โรแบร์ ปิแรส 7, กิลเยร์โม่ ฟรังโก้ 7
สำรอง โฆเซบา ลอเรนเต้ 6, อาเรียล อิบากาซ่า 6, ซานติ กาซอร์ล่า 6