
"แม้ผู้เล่นอย่าง กาเอล กลีชี่ กับ แอชลี่ย์ โคล จะโดดเด่น แต่ผมไม่คิดว่าจะมีแบ๊คซ้ายคนไหนที่ดีกว่าเอฟร่า ในพรีเมียร์ ลีก เขาอยู่คนละระดับแล้ว" พอล ปาร์คเกอร์ อดีตแบ๊คขวาของแมนฯ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ช่วงต้นทศวรรษ 90
มีชื่ออยู่ในตำแหน่งตัวจริงเสมอ อย่างเดียวที่ไม่ให้เอฟร่าได้ลงโลดแล่นทางฝั่งซ้ายของสนามได้ก็คือโทษแบน และอาการบาดเจ็บเท่านั้น
จากเริ่มจนจบฤดูกาล : เอฟร่าลงสนามให้ทีมตลอดช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน แต่ใบเหลืองในเกมดาร์บี้ แมตช์ กับแมนฯ ซิตี้ ก็ทำให้เขาติดโทษแบน ในเกมเสมอกับสเปอร์ส 0-0 ในเดือนธันวาคม เป็นการพลาดเกมลีกครั้งแรกในฤดูกาล 2008/09 โทษแบนอีกครั้งหนึ่งมาจากเหตุการณ์หลังเกมที่เชลซี ในวันที่ 26 เมษายน 2008 ทางเอฟเอ ลงโทษเอฟร่า จากการประตัวไม่เหมาะสม ลงโทษปรับ 15,000 ปอนด์ แล้วแบนเกมในอังกฤษอีก 4 นัด ช่วงนั้นเขาก็มีอาการบาดเจ็บที่เท้าด้วย แต่พอฟิตกลับมา เอฟร่าก็ยึดตำแหน่งคืนจนจบฤดูกาล
ตำแหน่ง : เหมือนกับเดนิส เออร์วิน ในฤดูกาล 1993/94 เอฟร่ายึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างสม่ำเสมอในแผงหลัง โฆษกสนามประกาศชื่อ "เอฟร่า" ถึง 48 ครั้งในปีนี้ เขายังติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมของลีกอีกด้วย
ไฮไลท์ของฤดูกาล : นอกจากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาทั้งสองเกมกับอาร์เซนอล ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรอง ที่จัดการธีโอ วัลคอตต์ ได้อย่างอยู่หมัด อีก 66 นาทีในเกมกับเชลซี แม้จะต้องออกจากสนามไปด้วยอาการบาดเจ็บ แต่การเล่นนัดนั้น รวมทั้งการมีส่วนร่วมกับประตูที่สองที่เปิดไปให้รูนี่ย์ยิง ก็เป็นหนึ่งชั่วโมงอันยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลของเขา
จังหวะสำคัญ : หนึ่งในจังหวะที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง แต่จังหวะตัดลูกของวิลล่า ในขณะที่เกมเสมออยู่ 2-2 ช่วยให้มาเชด้า ได้ทำประตูชัยก็เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์
จุดตกต่ำ : โทษแบนของเขา "ทุกอย่างที่เอฟเอ ทำกับสโมสรนี้ตลอดทั้งปี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ผมแทบจะไม่เชื่อเลย" เซอร์ อเลกซ์ พูดถึงบทลงโทษจากเอฟเอ