
ฟอสเตอร์ วัย 26 ปี กลายเป็นผู้รักษาประตูมือสามในทีมแชมป์พรีเมียร์ ลีก และเขาสารภาพว่าตกใจที่ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ฟาบิโอ คาเปลโล ยังให้โอกาสเขาในการลงสนามปะทะบราซิล
เขากล่าวว่า "ผมไม่ได้ลงเล่นที่ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้มันยากลำบากมากสำหรับผม มันทำให้ผมหมดกำลังใจ"
"ความจริงแล้วผมต้องได้ลงเล่นจึงจะติดทีมชาติ แต่ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษก็ยังให้โอกาสผม"
"ผมขอบคุณจริงๆ สำหรับโอกาสที่ได้รับ และเมื่อผมได้รับโอกาส ผมก็ต้องการแสดงสิ่งที่ผมสามารถทำได้ และหวังว่านั่นจะทำให้ผมติดชาติ"
"มันยากมากที่จะแย่งตำแหน่งของเอดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ยูไนเต็ด เขาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก บอกตามความจริงมันเป็นความลำบากที่คุณต้องยอมรับ ผมได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกแต่ไม่อาจคาดหวังได้ว่าจะติดทีมชาติไปฟุตบอลโลก แต่ผมคิดว่าผมทำได้ดีในการฝึกซ้อม และต้องขอบคุณผู้จัดการทีมที่เชื่อมั่นในตัวผมด้วย"
"ตอนนี้ผมเป็นตัวเลือกที่สามสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังลงสนามให้ประเทศของผมด้วย ผมไม่สามารถบอกได้ว่าผมต้องการจะจากไปหรืออะไรแบบนั้น คงต้องดูกันต่อไปคุณไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเกมฟุตบอล"
ฟอสเตอร์เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยการลงเป็นมือหนึ่งเพราะฟาน เดอร์ ซาร์ ได้รับบาดเจ็บที่มือ เขาลงสนามพบเชลซี, อาร์เซนอล, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเริ่มต้นฤดูแต่หลังจากนั้นเขากลายเป็นตัวสำรองตามหลังโทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค
ฟอสเตอร์เล่นให้อังกฤษนรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก นัดที่ชนะเบลารุส 3 - 0 และได้ลงทำหน้าที่อีกครั้งเมื่อวันเสาร์
เขาโชคดีได้รับเพียงใบเหลืองเมื่อทำฟาล์ว นิลมาร์ และเสียไปประตูเดียวจากลูกโหม่งของปีกจากบีร์ยารีล
แต่เขายอมรับว่าคาเปลโลช่วยไม่ให้เขาล้มคว่ำลงด้วยการเรียกเขาติดทีมชาติ เขากล่าวว่า "ผมไม่ได้นั่งม้านั่งสำรองนานนัก และคุณก็ต้องยืดอกเชิดหน้า และทำงานอย่างหนักในการฝึกซ้อม และผมขอบคุณฟาบิโอ คาเปลโล จริงๆ ที่ให้โอกาสผม"
"ฟุตบอลโลกเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ นักฟุตบอลทุกคนอยากไปฟุตบอลโลก เป็นเรื่องธรรมดา ผมคิดว่าปีนี้ผมเริ่มต้นได้ดีที่ยูไนเต็ด มีแค่สองหรือสามเกมเท่านั้นที่ผมทำผิดพลาด มันเป็นเกมที่เจอแมนฯ ซิตี้ ไม่กี่วันหลังจากเราเล่นกับซันเดอร์แลนด์ และผู้คนตำหนิผมในลูกที่สองที่เสียให้ซันเดอร์แลนด์"
"ในความคิดของผม ผมทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว ผมผิดหวังที่โดนถอดจากทีม ก่อนหน้านั้นผมคิดว่าผมทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี คุณไม่สามารถปล่อยให้เรื่องแบบนี้ทำให้คุณท้อแท้ คุณต้องได้ลงเล่นบ้าง แต่ว่าถ้าหากคุณปล่อยให้มันค้างคาอยู่ในใจของคุณแล้วมันจะมีผลต่อคุณ"
เขายอมรับว่าโชคดีที่ไม่ถูกไล่ออกในนัดพบบราซิล "ผมคิดว่าผมต้องโดนไล่ออกแน่ แต่ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นนัดกระชับมิตรผมเลยยังได้เล่นต่อ เรารู้ว่านี่เป็นแมทช์ที่ยาก และอากาศก็ร้อน และชื้นยากที่จะหายใจ"
"ทีมจากอเมริกาใต้จะคุ้นเคยกับอากาศมากกว่าแต่เราก็ทำหน้าที่ได้ดี เรามีทีมที่ไม่สมบูรณ์ และผมไม่คิดว่าผลแข่งที่แพ้ 1-0 จะกดดันเรามากนัก พวกเขาครองบอลได้มากกว่าแต่สร้างสรรค์โอกาสไม่ได้มากนัก"