เมื่อวันก่อนผมได้จังหวะเข้าเวบ redarmyfc ของเราหลังจากที่ถูกภารกิจเพื่อความมั่นคงของชีวิตรุมเร้าแบบไม่มีโอกาสแม้กระทั่งเปิดอินเตอร์เน็ต แล้วก็ไปสะดุดตรงที่พ่อหนุ่มซาอุดรฯ เปิดบันทึกวันแดงเดือดเอาไว้ว่าเสียดายที่ไม่เจอผม ... จะบอกว่าเราเจอกันแล้วที่หน้าไทเกอร์โดม เลยด้วยซ้ำ เพียงแต่จังหวะนั้นชาวเราทั้งหลายกำลังวุ่นๆ อยู่เรื่องจะไม่ได้เข้าโดมเพราะอายุไม่ถึงเกณฑ์ แถมยังต้องถ่ายรูปออกทีวีอีก จังหวะนั้นเองลางสังหรณ์ของผมที่เตือนสติว่าถ้าไม่รีบเข้าโดมคุณนายที่หนีแม่มาดูบอลกับผมจะงอแงเพราะไม่มีที่นั่ง ทำให้ผมตัดสินใจขอตั๋วจากเจ๊ย์เบ็คแก้วเอาดื้อๆ ด้วยอารมณ์ประมาณใจหมาหน้าด้านซะอย่างนั้น
พอผมเข้าโดมสภาพก็เป็นแบบที่คาดไว้เป๊ะ - - โต๊ะเต็มตลอดแต่ยังโชคดีที่สแตนด์เชียร์ยังพอมีที่ว่าง พวกเราเลยตรงดิ่งไปหาที่หย่อนบั้นท้ายกันทันที แต่พอไปถึงที่หมายผมก็ต้องกระพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นโลโก้นกกระเด้าลมเต็มพรึ่บทั้งสองอัฒจรรย์ ... แล้วตูจะนั่งไหนกันเนี่ย ฉับพลันผมเห็นหนุ่มสาวคู่นึงสวมเสื้อที่มีตราปีศาจถือสามง่ามนั่งจ๋องอยู่แถวเกือบบนสุดก็เลยจูงมือกันขึ้นไปเป็นแนวร่วมด้วย
ห้านาทีต่อมาบุรุษร่างท้วมที่จัดตั้งตัวเองเป็นมัสคอทปีศาจแดง ก็เดินคู่มากับไม้เสียบผีเคลื่อนที่ในชุดนกกระยางตกเลือด คนเดียวกับที่เคยสวมชุดไก่หวัดนกสมัยที่ไทเกอร์โดม เปิดใหม่ๆ แล้วพลพรรคพวกเรานัดกันรวมพลครั้งแรก เกมนั้นผีแดง เราหักคอไก่ไปแบบไม่ยาก ถ้าจำไม่ผิดสองศูนย์หรือไงเนี่ย จังหวะนั้นเองผมกระซิบกับคุณนายยอดยาหยีของผมว่าสงสัยจะได้เฮ และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ปีศาจร่างท้วมแยกไปประจำการณ์ที่สแตนด์ฝั่งขวา ผมเลยพยักหน้ากับคุณนายให้ชวนปีศาจแดงวัยกระเตาะที่นั่งอยู่ข้างๆ เผื่อว่าตอนเฮจะได้เฮดังๆ ไม่ต้องมางุบงิบกันเฮท่ามกลางสาวกเดอะ คอป
แล้วเราสี่คนก็ย้ายที่พำนักมาชั้นสองจากข้างบนของสแตนด์ฝั่งขวาด้วยความหวังว่าจะได้รับไออุ่นจากมิตรสหายชาวอสูรแดง แต่ปรากฏว่าผมคิดผิดเพราะจังหวะที่พิธีกรบนเวทีขอเสียงชาวผีแดง ใครหลายคนที่ผมคิดว่า ใช่ พากันนั่งเงียบ ปล่อยให้พวกเราสี่คนเฮกันอยู่แบบเสียววาบเล็กน้อย เนื่องจากคณะพรรคที่นั่งอยู่แถวบนสุดเฮกันลั่นตอนเจ๊ย์เธอถามหาสาวกหงส์แดง แถมพวกเราต้องจ๋อยหนักเข้าไปอีกตอนที่รู้ว่าน้องน้ำตาลที่น่ารักได้ลงเซิ้งแข้งแทนเฟอร์ดี้ จังหวะนั้นเองผมได้ยินเสียงเฮฮาจากใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างบนประมาณว่า เสร็จแน่มรึงค์!!
ผมทำใจกล้าเงยหน้าไปดูว่าใครกันที่บังอาจเอ่ยคำผรุสวาทนี้ขึ้นมาแล้วก็ต้องอุทาน อุแม่เจ้า!! ในใจเมื่อเห็นบุรุษร่างยักษ์ที่คะเนน้ำหนักแล้วไม่ต่ำกว่า 120 กิโลกรัม หน้าตาประมาณ น้องเอ๋อเหรอ นั่งอยู่ข้างหลังพอดีทำเอาความหวังจะได้เฮเต็มๆ หดวูบไปอยู่ในรูทวารหนักทันที คือถ้าน้องเอ๋อเหรอคนนี้แกล้งเป็นลมล้มทับลงมานี่ คาดว่าพวกผมคงต้องไปดูศึกแดงเดือดในห้องไอซียูแทนแน่ๆ
พอบอลเริ่มพวกเราก็นั่งดูกันแบบเจียมเนื้อเจียมตัวจนกระทั่งสุกรโลกันต์ตนนั้นส่งลูกบอลเข้าไปก้นตาข่าย ใครหลายคนที่นั่งอยู่รอบๆ ผมพากันเฮสนั่นจนผมเกิดคำถามขึ้นในใจว่าเมื่อตะกี้ทำไมไม่ช่วยกันเฮนะปล่อยให้นั่งจ๋องกันตั้งครึ่งชั่วโมง หรือพวกคุณไม่มีความภูมิใจที่เป็นเด็กผีเลยหรือไง ทั้งนี้เพราะตัวผมเองจะยืดอกตอบเต็มเสียงทุกครั้งที่มีคนถามว่าคุณเชียร์ทีมอะไร แต่ก็ช่างเถอะคนไทยเราไม่ค่อยกล้าแสดงออกอยู่แล้ว เอาเป็นว่าหลังจากนั้นการเชียร์ของพวกเราก็ได้วี้ดวิ้วหลั่นล้ากันแบบที่หวังไว้ตั้งแต่แรก จะมีก็แต่ฝูงนกยักษ์พลัดถิ่นข้างบนเท่านั้นล่ะที่นั่งเงียบกันแทน
เรื่องรูปเกมนี่พูดกันตรงๆ ว่ากองทัพอสูรเราเหนือกว่านะ ขนาดน้องน้ำตาลหรือน้องฟิลยังเล่นแบบกองหลังระดับห้าดาว แม้แต่เจ้าหนูโด้ ที่ใครบางคนบ่นว่าเลี้ยงพร่ำเพรื่อยังสับซะสตีวี่จี - - ซุปเปอร์แมนของเดอะ คอป คนนั้นหลังหักลงไปกองกับพื้น แบบว่าจังหวะนั้นสะใจสุดๆ โดยเฉพาะคุณนายของผมงี้เฮซะไม่เกรงใจเจ้านกยักษ์ตัวที่นั่งข้างหลัง แถมยังสวมวิญญาณฮูลิแกนโห่มันทุกจังหวะที่นักเตะลิเวอร์พูลทำฟาล์ว เล่นเอาผมเสียววูบวาบแถวข้างหลังอยู่เรื่อย
พอเกมครึ่งหลังผ่านไปได้เสี้ยวนึงแบบที่สิบเอ็ดนักเตะแมนยู ของเราขึงเกมไว้หมดผมก็เริ่มได้ยินเสียงบ่นจากเจ้าเอ๋อเหรออีก ประมาณว่าใครเสียบอล ใครพลาดมันบอกจะขายทิ้งตลอด ฟังไปฟังมารู้สึกว่านักเตะลิเวอร์พูล ที่ไม่โดนจับขายจะเหลือแค่เจอร์ราร์ด คนเดียว (ว่าแต่จบฤดูกาลแล้วมันจะยังจมปลักอยู่ที่แอนฟิลด์ หรือเปล่าก็ไม่รู้) จังหวะนั้นผมก็ขำนะครับที่แฟนบอลหงส์แดง ไม่ชอบนักเตะทีมตัวเองซักคนเดียว แถมพูดยังกะสโมสรมีเสี่ยหมีโรมันจ่ายสตางค์ให้ถลุงซะงั้นนี่ หวังว่าแฟนผีเราจะไม่มีกบฏแอบแฝงอย่างนี้นะครับ แต่หมอนี่ก็ทำให้ผมยิ้มได้ตอนท้ายเกมด้วยวลีส่งท้าย เป็นแฟนหงส์ต้องอดทน - - ใช่ครับต้องอดทนจริงๆ เพราะคุณอดทนมานานแล้วและคงต้องอดทนไปอีกหลายปีเลยล่ะ
น่าเสียดายนิดๆ ที่พอผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาผมต้องรีบจรลีกลับเคหาสถานก่อนที่จะได้โยกหัวกับวงพาราด็อกซ์ จะมากระหึ่มฉลองชัยชนะให้ชาวเราทั้งหลาย ด้วยความเกรงใจ (ว่าที่) แม่ยายบังเกิดเกล้า เลยไม่ได้อยู่ทักทายชาวเราทั้งหลายที่กำลังดีดดิ้นกันอย่างเมามัน (เห็นแว่บๆ ว่ากองเชียร์หนุ่มกลัดมันของเราหลายคนกำลังจ้องมองพวกโคโยตี้สาวด้วยสายตาหื่นกระหายเลยเกรงใจไม่อยากขัดความสำราญ) จังหวะนั้นผมเลยปลีกตัวมาเงียบๆ ด้วยอารมณ์ประมาณ yess!! และก็คิดว่าหลายคนในตอนนั้นก็คงอารมณ์เดียวกัน
ตอนที่ผมเขียนถึงย่อหน้านี้เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเก้าสิบนาทีของเกมที่ลิเวอร์พูล ถูกนักบุญของพ่อลูกเรดแนพพ์ขย้ำไปสองศูนย์ หลังจากที่ถูกเจ้าตูบเบิร์นลี่ย์เขี่ยตกรอบเอฟเอ คัพ ไม่ถึงสามวัน วลี you will never walk alone ผุดขึ้นมาในหัวกบาลของผมทันที - - ไม่ได้เกิดอารมณ์สงสารอะไรหงส์แดง หรอกนะครับ แต่กำลังสงสัยว่าลิเวอร์พูล พ.ศ.นี้จะเดินตามทีมอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด - - สัตว์ปีกสีขาวที่เคยสถาปนาตัวเองเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเราไปเอนจอยในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ (ดิวิชั่นหนึ่ง) หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ เหอ เหอ