
สนาม ซัลฟอร์ด ซิตี้ สเตเดี้ยม, เอคเคิ่ลส์
รายการ พรีเมียร์ ลีก ยู-21
เวลา 01.00 น. วันอังคารที่ 16 เมษายน 2556
ผู้ทำประตู ไรอัน ตันนิคลิฟฟ์ น.56
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมการเล่นในสนามซัลฟอร์ด ซิตี้ สเตเดี้ยม ได้อย่างน่าประทับใจ พวกเขากลับมาได้หลังเกิดเหตุการณ์ไฟดับในครึ่งแรก เก็บชัยชนะอันล้ำค่าเหนือทีมจ่าฝูงท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไป 1 - 0
แม้ว่าคะแนนยังคงห่างอยู่มากหลังชัยชนะครั้งนี้ แต่ก็นับว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจสำหรับทีมของ วาร์เรน จอยซ์ โดย แอดนาน ยานูซาย กับ เจสซี่ ลินการ์ด ช่วยกันทำทางให้ ไรอัน ตันนิคลิฟฟ์ ซัดประตูโทนของเกมนี้ไป ก่อนที่จะฉลองประตูกันด้วยท่าทางที่น่าจดจำ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเกมโดยส่ง รีซ เจมส์ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวริมเส้น การที่ไม่มีชื่อของ นิค พาวล์ ทำให้ตันนิคลิฟฟ์ ถูกดันสูงขึ้นเพื่อเล่นร่วมกับยานูซาย มีเหตุให้ต้องปรับแผนกันเล็กน้อยตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ เฟรเดริค เวเซลี่ เกิดอาการกล้ามเนื้อตึงจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป จากจังหวะวิ่งไล่กวดบอลที่จ่ายมาโดย ลาร์เนลล์ โคล
ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นแทนดาวรุ่งสวิสรายนี้ในตำแหน่งมิดฟิลด์ฝั่งขวาตั้งแต่นาฬิกาเพิ่งจะเดินไปได้ 10 นาทีเท่านั้น สเปอร์สเกือบพังประตูขึ้นนำได้ก่อน แต่ทาง เบน เอมอส ก็โชว์ลูกเซฟแบบสุดสวย จากการยิงของ คริสเตียน คาเบลลอส ที่ฉวยโอกาสฉกบอลมาได้จาก มิเคเล่ ฟอร์นาเซียร์
ทีมปีศาจแดงเริ่มสร้างความกดดันได้มากขึ้นจากลูกยิงของทั้งลินการ์ด และยานูซาย ที่หลุดกรอบทางขวามือของ ลอว์เรนซ์ วิโกโรซ์ ไปนิดเดียว ลินการ์ดเก็บบอลมาได้จากการทำทางขึ้นมาของยานูซาย และตันนิคลิฟฟ์ แต่ลูกยิงของเขาก็หลุดกรอบไปแบบเฉียวฉิว 3 นาทีต่อมา ยานูซายก็ได้ลองส่องบ้าง หลังจากที่ ชาร์นี่ เอกานเกเมเน่ แย่งบอลในแดนกลางขึ้นมาให้
ฟอร์มการเซฟของวิโกโรซ์ยังคงทำให้เขาปฏิเสธลูกยิงจากทั้งตันนิคลิฟฟ์ และลินการ์ด ของทางฝั่งวาร์เรน จอยซ์ ได้อีก แต่สเปอร์สเองก็มาได้ลุ้นบ้างเหมือนกันจากลูกยิงออกข้างของ ลาสเต้ ดอมบักซ์ ที่ได้โอกาสจากความผิดพลาดแบบนานๆ ครั้งของกัปตัน ทอม ธอร์ป จากนั้นเอมอส ก็ต้องออกแรงปัดลูกฟรีคิกของ ยูเนส กาบูล ออกหลังไป
ก่อนจบครึ่งแรกไม่นานไฟสนามก็เกิดขัดข้องเล็กน้อย ผู้ตัดสินให้เล่นต่อแบบไร้แสงไฟไปสักพัก ก่อนจะตัดสินใจให้หยุดเกมชั่วคราว โชคดีที่ระบบไฟฟ้ากลับมาทำงานได้เป็นปกติหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งความจริงแล้วเหตุขัดข้องนี้ได้เกิดขึ้นไปทั่วทั้งพื้นที่ ไม่เพียงแต่แค่สนามแข่งนี้เท่านั้น
ทีมจากลอนดอนเหนือต้องเสียกาบูล ที่เดินกระเผลกออกไปหลังกลับมาลงเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน แต่พวกเขาก็มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกของคาเบลลอส ที่ยิงไปตกใส่ด้านบนของคานออกหลังไป และสเปอร์สก็ต้องเสียดายโอกาสนี้ในภายหลัง เมื่อในจังหวะต่อมากลายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปลดล็อคยิงประตูขึ้นนำไปได้ก่อน
ยานูซายจ่ายบอลทะลุช่องขึ้นไปให้กับลินการ์ด แต่เขาก็ถูกวิโกโรซ์ บล็อคเอาไว้ได้ก่อนในการดวลกันแบบตัวต่อตัว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตันนิคลิฟฟ์ก็มาซัดประตูได้จากการทำทางกันอย่างสวยงามของเจมส์ กับลินการ์ด เขาเอาชนะอดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีมอย่าง เซกี้ ฟรายเออร์ส ไปได้ ก่อนที่จะยิงสวนตัววิโกโรซ์ เข้าประตูไป
แม้ว่าทีมเยือนจะได้ลุ้นบ้างจากการยิงไปติดเซฟเอมอส ของ ชาควิล คอลเธิสต์ แต่ทีมปีศาจแดงก็ยังคงเล่นได้อย่างไหลลื่น และเกือบบวกประตูเพิ่มได้อีกลาร์เนลล์ โคล เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในแดนกลาง ก่อนจะจ่ายไปให้กับลินการ์ด เหลือเพียงวิโกโรซ์ เท่านั้นที่ยืนขวางเขาอยู่ โคลกระชากบอลผ่านตัวเขาไป ก่อนตัดสินใจเสี่ยงยิงทันที และลูกก็หลุดออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
ยังคงไม่มีประตูเพิ่ม ตันนิคลิฟฟ์จ่ายบอลให้กับโคลได้จังหวะยิงอีกครั้ง แม้เขาจะเลือกช็อตยิงอย่างถูกต้องด้วยการชิพแล้ว แต่ขาก็ยังกะน้ำหนักได้ไม่ดีพอ ทำให้วิโกโรซ์ สามารถเซฟได้อย่างสบาย ยานูซายมีจังหวะที่เขารู้สึกว่าน่าจะได้ลูกจุดโทษ หลังตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาตอนต้นเกมอย่างแบล็คเก็ตต์ ถูกเข้าบอลอย่างหนักจนมีอาการบาดเจ็บ
จากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็รักษาสกอร์ขึ้นนำเหนือสเปอร์ส และเก็บคลีนชีทไปได้อีกครั้ง พวกเขาทำคะแนนแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง มีคะแนนห่างจากทีมเมืองหลวง 5 แต้ม โดยที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
สำหรับโปรแกรมต่อไปที่เดิมจะเตะในวันศุกร์ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับทีมจากเมอร์ซี่ไซด์ ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากลิเวอร์พูลติดโปรแกรมลงแข่งในรายการ เอฟเอ ยูธ คัพ
ทั้งนี้ผู้ชมที่เข้ามาในสนาม 2,183 คนน่าจะรู้สึกประทับใจกับผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมปีศาจแดงชุดเล็กนี้ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เข้ามาดูฟอร์มของนักเตะอยู่บนสแตนด์ด้วยเช่นกัน
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบน เอมอส; เฟรเดริค เวเซลี่ (ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ น.10, ทอม ลอว์เรนซ์ น.84), ทอม ธอร์ป, มิเคเล่ ฟอร์นาเซียร์, มาร์นิค เฟอร์มิจ์ล; เจสซี่ ลินการ์ด, ชาร์นี่ เอกานเกเมเน่, ลาร์เนลล์ โคล, รีซ เจมส์; ไรอัน ตันนิคลิฟฟ์; แอดนาน ยานูซาย
สำรองไม่ได้ใช้งาน จอนนี่ ซัทเตอร์แลนด์, ลุค เฮนดรี่, กิลเลียโน่ ฟาน เฟลเซ่น