เดวิด มอยส์ กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับการย้ายทีมอันสุดบ้าคลั่งในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใหม่
การยกเครื่องครั้งใหญ่ของทีมแชมป์นั้นเกิดขึ้นจากเครื่องหมายคำถามในอนาคตของ หลุยส์ นานี่, แอนเดอร์สัน, พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด และแน่นอน ขาดเขาไม่ได้เลย เวย์น รูนี่ย์ นั่นเอง
แต่กุนซือเอฟเวอร์ตันที่จะเข้ามารับงานที่นี่เป็นเวลา 6 ปีตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมก็ทราบดีถึงนักเตะที่เป็นเป้าหมายสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือ เลห์ตัน เบนส์ และมิดฟิลด์อย่าง มารูยาน เฟลไลนี่
บางทีเขาอาจจะทำเงินได้มากถึง 30 ล้านปอนด์จากการขายรูนี่ย์ให้กับเชลซีหรือบาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่เขาเพิ่งออกมาบอกว่าอยากย้ายไปจากทีมปีศาจแดงอีกครั้ง
มอยส์เคยขายรูนี่ย์ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2004 ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ และทั้งคู่ก็ไม่ถูกกันจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ด้วยเหตุที่มาจากหนังสืออัตชีวประวัติของศูนย์หน้ารายนี้
ไม่ว่ารูนี่ย์จะอยู่หรือไปก็ตาม ดูเหมือนว่ามอยส์จะมีตัวเลือกมาแทนที่อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นเป้าหมายหลักของเซอร์ อเล็กซ์ อย่าง แกเร็ธ เบล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เชื่อกันว่าเซอร์ อเล็กซ์ มีส่วนสำคัญในการเลือกมอยส์มารับงานนี้ งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในวงการฟุตบอล แม้ว่า 15 ปีก่อนหน้านั้นเซอร์ อเล็กซ์ จะเคยคิดว่ารุ่นน้องร่วมชาติผู้นี้ยังไม่พร้อมสำหรับการเป็นมือขวาให้กับเขา เนื่องจากเป็นคนเอาจริงเอาจังมากเกินไปก็ตาม
เป็น สตีฟ แม็คคลาเรน ที่ได้เข้ามาทำงานแทน สำหรับการตัดสินใจในครั้งนั้น มอยส์บอกว่ามันเป็นการเดินมาถูกทางแล้ว เขาได้ไปรับงานผู้จัดการทีมเป็นครั้งแรกกับเปรสตัน และก็ทำได้ดีทีเดียว
"ตอนที่ผมเคยไปคุยกับเขาเกี่ยวกับการไปเป็นผู้ช่วยของเขาเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าผมดูเป็นคนเอาจริงเอาจังเกินไป" มอยส์กล่าวเมื่อปีที่แล้ว "แต่ผมจำได้เลยนะ ตอนนั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรองของเซลติก ผมเห็นเขาคุมทีมอเบอร์ดีนพร้อมกับตะโกนจนเส้นเลือดปูดออกมารอบคอเขาเลย!"
จึงอาจกล่าวได้ว่า เซอร์ อเล็กซ์ ได้เปิดโอกาสให้เขาไปฝึกปรือฝีมือการคุมทีมกับเปรสตัน ก่อนที่จะกลายมาเป็นชายผู้นำความสำเร็จมาสู่ทีมที่มีงบประมาณจำกัดอย่างเอฟเวอร์ตันในเวลาต่อมา
