ลาร์เนลล์ โคล
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
รายการ พรีเมียร์ ลีก ยู-21
เวลา 01.00 น. วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2556
ผู้ทำประตู แมนยูไนเต็ด ลาร์เนลล์ โคล (จุดโทษ น.19, 26) น.70
นักเตะหนุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระหน่ำยิงเอาชนะลิเวอร์พูล ไป 3 - 0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพรีเมียร์ ลีก ยู-21 โดยในเกมนี้ ลาร์เนลล์ โคลล์ ซัดแฮตทริคได้ด้วย
ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ออกอาการไม่พอใจเล็กน้อยในการตัดสินที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเขาต้องการ พร้อมกับตั้งคำถามจากการที่ จอน ฟลานาแกน โดนไล่ออกไปในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่ได้มีข้อสงสัยใดๆ กับลูกจุดโทษทั้ง 2 ลูก ซึ่งโคลเป็นคนยิงเข้าไป
ด้วยการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากกว่า โคลก็จัดการซัดลูกที่ 3 ของตัวเขาเองเป็นการปิดท้ายต่อหน้าแฟนๆ เจ้าถิ่นที่เข้ามาชมเกมในสนามเกือบ 3,000 คน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามานั่งชมเกมนี้ และทีมปีศาจแดงก็ทำผลงานได้ดีตั้งแต่ต้นเกม แต่ในช่วง 15 นาทีแรกก็มีจังหวะที่ต้องป้องกันด้วยเหมือนกัน กัปตัน ทอม ธอร์ป ต้องบล็อคจังหวะสำคัญถึง 2 ครั้ง และต้องจับคู่กับ ไมเคิล คีน ตั้งเกมรับด้วยกันอย่างแน่นหนา
ลูกจ่ายอันสุดยอดของ แอดนาน ยานูซาย พุ่งตรงจากเท้าซ้ายของเขาไปยัง ทอม ลอว์เรนซ์ นั่นเป็นการสร้างสรรค์โอกาสเบิกสกอร์แรก เมื่อ สตีเฟ่น ซาม่า ไปสอยเอานักเตะหนุ่มเวลส์ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซาม่าได้รับเพียงแค่ใบเหลืองไป รอดพ้นจากการโดนไล่ออกเป็นครั้งที่ 2 ในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในลีกฤดูกาลนี้ และโคลก็นิ่งพอที่จะไม่สนใจการก่อกวนประสาทจาก อดัม มอร์แกน เขายิงลูกจุดโทษเข้าไป โดยที่ แดนนี่ วอร์ด พุ่งผิดทาง
7 นาทีต่อมา ผู้ตัดสินปล่อยให้เป็นจังหวะได้เปรียบ หลังจากที่ คอเนอร์ โคดี้ ไปทำฟาวล์ ชาร์นี่ เอกานเกเมเน่ แต่กลายเป็นว่า จอน ฟลานาแกน ไปผลักใส่ลอว์เรนซ์ล้มลงในกรอบเขตโทษอีก โคลรับหน้าที่ยิงลูกโทษจากระยะ 12 หลาอีกครั้ง แม้ว่า เจสซี่ ลินการ์ด จะขออาสายิงให้ก็ตาม เขายิงลูกนี้เข้าไปเสียบมุมตาข่ายด้วยความเยือกเย็น
มันมีโอกาสทำประตูกันมากมายจากลูกโอเพ่นเพลย์ในครึ่งแรก มอร์แกนได้จังหวะยิงหลุดกรอบออกไป โดยก่อนหน้านี้โคดี้ก็เกือบถูกจดชื่อไปอีกคน หลังจากไปพุ่งเสียบ 2 เท้าใส่ธอร์ป แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีขึ้นหลังกลับมาเตะกันในครึ่งหลัง แต่ทางด้าน คริสเตียน อดอร์จาน ก็พลาดจังหวะที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกมนี้ไป เมื่อเขายิงลูกจ่ายจาก จอร์แดน อิเบ้ ข้ามคาน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสร้างความปั่นป่วนได้แบบเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า แม้จะครองบอลได้น้อยกว่าก็ตาม ซาม่าไปผลักยานูซายล้มลง แต่ลูกนี้ก็ยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะเป็นจุดโทษลูกที่ 3 จากนั้นลินการ์ดก็ประสานงานอย่างยอดเยี่ยมกับลอว์เรนซ์ ก่อนที่จะยิงให้วอร์ดต้องออกแรงปัดข้านคานออกไป
ไม่มีอะไรต้องประหลาดใจเมื่อโคลสามารถทำแฮตทริคได้ในที่สุด โดยมาจากการฉกฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังถูกเบี่ยงเบนความสนใจกันอยู่ จากลูกเตะมุมของยานูซาย เหมือนกับว่าซาม่านั้นทำแฮนด์บอล แต่ธอร์ปก็ไม่สนใจ ก่อนจะจ่ายบอลไปให้โคลสำเร็จโทษ
2 นาทีต่อมา สถานการณ์ของทีมเยือนเลวร้ายลงไปอีก เทเซร่าโดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองข้อหาเข้าปะทะหนักใส่ยานูซาย แถมฟลานาแกนยังต้องมาโดนใบแดง เนื่องจากไปเตะบอลอัดใส่ดาวรุ่งชาวเบลเยี่ยมที่กำลังนอนอยู่ที่พื้น ทุกอย่างที่เป็นไปในวันนี้ทำให้ยานูซายได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้เล่นที่สร้างความปั่นป่วนให้กับนักเตะลิเวอร์พูลมากที่สุดตลอดทั้งเกม
โคลโชคไม่ดีพอที่จะเพิ่มประตูที่ 4 สำหรับตัวเขา เมื่อลูกยิงแฉลบหลุดกรอบออกไป และลินการ์ดก็มีจังหวะร้องเอาลูกจุดโทษอีกลูก ขณะที่ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ก็ได้เล่นลูกเซ็ตพีซ 2 - 3 ครั้งเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ เบน เอมอส ต้องหนักใจเลยแม้แต่น้อย
3 นักเตะจากทีมชุดยู-18 เบน เพียร์สัน ซึ่งทำพัฒนาฝีเท้าของตนเองอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้ง เลียม กริมชอว์ และ อันเดรียส เปเรร่า ได้โอกาสลงมาสัมผัสเกม และสุดท้ายลูกทีมของ วาร์เรน จอยซ์ ก็เก็บชัยชนะอันสวยหรูในครั้งนี้ไปได้ โดยจะกลับมาเตะกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะพบกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบน เอมอส; มาร์นิค เฟอร์มิจ์ล, ทอม ธอร์ป, ไมเคิล คีน, รีซ เจมส์; ลาร์เนลล์ โคล (อันเดรียส เปเรร่า น.84), ชาร์นี่ เอกานเกเมเน่, ไรอัน ตันนิคลิฟฟ์, แอดนาน ยานูซาย (เลียม กริมชอว์ น.80), เจสซี่ ลินการ์ด; ทอม ลอว์เรนซ์ (เบน เพียร์สัน น.75)
สำรองไม่ได้ใช้งาน จอนนี่ ซัตเตอร์แลนด์, เจมส์ วิลสัน
