โอลด์ แทรฟฟอร์ด เตรียมเปลี่ยนพื้นสนามหญ้าเทียมผสม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมทุ่มเงิน 800,000 ปอนด์ ปรับสภาพพื้นผิวสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ใหม่หมดในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยจะเปลี่ยนไปใช้พื้นสนามแบบหญ้าเทียมผสม กระบวนการทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากจบแมตช์ตำนานระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเรอัล มาดริด

เดสโซ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นสนามซึ่งเป็นคนจัดการเรื่องนี้ที่สนามเวมบลีย์ถูกจ้างมารับงานในครั้งนี้ โดยจะเป็นการผสมผสานระหว่างหญ้าจริงกับวัสดุที่เป็นหญ้าเทียม

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมปีศาจแดงเคยออกมาบ่นถึงสภาพสนามที่ย่ำแย่ในเดือนธันวาคม หลังจากที่มีฝนตกหนัก แต่กับพื้นผิวสนามแบบใหม่นี้ มันจะพร้อมรับทุกสภาพอากาศในเมืองแมนเชสเตอร์ได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะไม่มีปัญหากับเรื่องนี้แต่อย่างใด เห็นได้จากผลงานในฤดูกาลแรกกับสโมสรของเขา ด้วยจำนวน 26 ประตูในเกมลีก รวมกับอีกส่วนหนึ่งจากถ้วยยุโรป และในเอฟเอ คัพ ทำให้เขาสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจแฟนบอลได้อย่างรวดเร็วหลังจากย้ายมาจากอาร์เซนอล

รุ่นพี่ชาวดัตช์ของเขาอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ออกมากล่าวคำยกย่องว่าดาวยิงวัย 29 ปีรายนี้คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ชูถ้วยแชมป์

"โรบินเข้ามามีส่วนสำคัญกับทีมได้ในฤดูกาลแรกของเขา" ฟาน นิสเตลรอย กล่าว

"ตั้งแต่ตอนต้นๆ แล้วที่เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม และเขาก็มาตอกย้ำไปอีกในตอนจบฤดูกาลด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีก"

"เขาเข้ามาเพิ่มมิติในแนวรุกให้กับทีม และเขาก็สมควรจะภูมิใจไปกับเหรียญรางวัลชนะเลิศพรีเมียร์ ลีก เหรียญแรกที่เขาคว้ามาครอง"

ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งยิงไปทั้งหมด 150 ประตูให้กับทีมปีศาจแดงตลอดช่วงเวลา 5 ปีกับสโมสรยังเชื่อว่า ฟาน เพอร์ซี่ นั้นมีประโยชน์กับทีมมากกว่าแค่การทำประตู

"เขาเป็นสุดยอดนักเตะในทุกๆ ด้าน" อดีตดาวเตะเสริม

"เขายิงประตูได้เยอะก็จริง แต่นอกเหนือจากนั้น เกือบทุกประตูที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ เขาก็มีส่วนร่วมกับมันด้วย ไม่ว่าจะมาจากแอสซิสต์หรืออะไรก็ตามแต่"

"ผมว่าเขาคือตัวอย่างของศูนย์หน้าที่สามารถทำหน้าที่ของนักเตะหมายเลข 9 และหมายเลข 10 รวมอยู่ในคนเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์"

"เขาทั้งยิงประตูเองและสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้มากมาย ผมคิดว่านักเตะที่มีฝีเท้าระดับนี้ค่อนข้างหาได้ยากนะ เขาเป็นนักเตะท็อปคลาสจริงๆ"

ฟาน นิสเตลรอย ยังเผยอีกด้วยว่าเขาอยากเห็น เวย์น รูนี่ย์ ลงเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลางบ่อยครั้งกว่านี้