ผู้ชมในสนาม 74,500 คน
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
เวลา 01.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556
ผู้ตัดสิน บาส นิจฮุยส์�
โพสต์ by ผีแดง แมนยู.
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สานต่อการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากเอาชนะเรียล โซเซียดัด ไปได้ 1-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยได้ประตูชัยจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อินิโก้ มาร์ติเนซ
หลังจากที่เจ็บปวดกับการพลาดท่าเสมอเซาแธมป์ตันมาเมื่อสุดสัปดาห์ เดวิด มอยส์ ก็ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น 4 คนลงเล่นในเกมนี้ โดย ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ และ ชินจิ คากาวะ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และลูกทีมของเขาก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเวทียุโรป เพียงแค่ประตูเดียวก็เพียงพอสำหรับชัยชนะของทีมปีศาจแดง
เริ่มเกมขึ้นมาได้ไม่ถึง 2 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำ เวย์น รูนี่ย์ ลากบอลผ่านกองหลัง 3 คนตัดเข้าในมาแบบสุดสวย ก่อนที่จะปั่นโค้งชนเสาไกลกระดอนออกมา อินิโก้ มาร์ติเนซ เป็นคนแรกที่เข้าถึงบอล แต่กลับสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป ถือเป็นประตูที่เร็วที่สุดในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก จนถึงขณะนี้
เกมนี้เสียงเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ดังกระหึ่ม เนื่องจากว่ามีการเปิดทดลองใช้โซนสำหรับให้แฟนๆ เข้ามาร้องเพลงเชียร์โดยเฉพาะ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ในครึ่งแรก แต่ทีมเยือนก็เกือบตีเสมอได้จากจังหวะยิงไกลของ ฮาริส เซเฟโรวิช ยังดีที่ ดาบิด เด เคอา ปัดออกหลังไปได้
จากนั้นโซเซียดัดก็มาได้ลุ้นอีกครั้งก่อนจบครึ่งแรก เมื่อ อองตวน กรีซมันน์ ยิงลูกฟรีคิกไปชนตรงมุมระหว่างเสา และคานไปอย่างน่าเสียดาย
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังเป็นทางด้านทีมเยือนที่เล่นได้ดีขึ้น และก็มายิงชนกรอบประตูกันอีกครั้ง คราวนี้มาจากจังหวะของ อัลแบร์โต้ เด เล เบลล่า จากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เกือบยิงทิ้งห่างออกไปอีก เมื่อ ชินจิ คากาวะ จ่ายบอลมาให้ ฟิล โจนส์ ขึ้นโขกไปเข้ามือของ เคลาดิโอ บราโว่ แบบได้เสียว
อันโตนิโอ วาเลนเซีย มาได้จังหวะสับไกบ้างในนาทีที่ 64 แต่บอลกลับพุ่งเรียดไปชนเสาเต็มๆ อย่างน่าเสียดาย และจากนั้นไม่นานวาเลนเซียก็มาจ่ายบอลให้คากาวะลองยิง แต่บอลก็ไปติดบล็อคแนวรับทีมเยือน
นาทีที่ 71 เวย์น รูนี่ย์ ที่วันนี้ได้โอกาสยิงมากมายเกือบจะทำประตูได้สำเร็จ วาเลนเซียโขกบอลยาวต่อขึ้นหน้ามาให้ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษหลุดเข้ากรอบเขตโทษทางด้านขวา แต่กลับยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
โชคดีที่เกมนี้ไม่จบลงในแบบที่เจอกับทีมนักบุญเมื่อสุดสัปดาห์ เมื่อโซเซียดัดไม่สามารถควานหาประตูตีเสมอได้ จึงเป็นทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะไปได้ 1-0 คว้า 7 คะแนนจากการลงเตะ 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม ผงาดนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเออยู่ในขณะนี้
สถิติ
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เรียล โซเซียดัด |
| อินิโก้ มาร์ติเนซ ทำเข้าประตูตัวเอง น.2 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เรียล โซเซียดัด |
| 18(5) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 12(1) |
| 19 | ฟาวล์ | 14 |
| 6 | เตะมุม | 4 |
| 6 | ล้ำหน้า | 1 |
| 2 | ใบเหลือง | 3 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 55% | การครองบอล | 45% |
ตารางคะแนน
| Pld | W | D | L | F | A | +/- | Pts | |||
 |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 3 | 2 | 1 | 0 | 6 | 3 | 3 | 7 | |
 |
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น | 3 | 2 | 0 | 1 | 8 | 5 | 3 | 6 | |
 |
ชักซ์ตาร์ โดเน็ตสค์ | 3 | 1 | 1 | 1 | 3 | 5 | -2 | 4 | |
 |
เรียล โซเซียดัด | 3 | 0 | 0 | 3 | 1 | 5 | -4 | 0 | |
