ในปี 2001 มีการทำลายสถิติค่าตัวนักเตะของสหราชอาณาจักรขึ้นสำหรับ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีการทำลายสถิติสโมสรด้วยการคว้าตัว ฮวน มาต้า จากเชลซีเข้ามาด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัวขนาดนั้นจะประสบความสำเร็จกับทีมเสมอไป มีหลายคนเลยที่มาพร้อมความหวัง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นฝันร้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเงินพร้อมทุ่มอยู่ตลอดเวลาก็จริง แต่เมื่อมันลงเอยแบบนี้ก็ถือว่าน่าเสียดายไม่น้อย
และนี่ก็คือ 10 นักเตะค่าตัวแพงที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...

10. อลัน บราซิล (625,000 ปอนด์)
ย้อนไปในปี 1984 ค่าตัว 625,000 ปอนด์ถือว่าสูงมากสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการคว้าตัว อลัน บราซิล จากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เข้ามาร่วมทีม
ในตอนนั้นมันอาจจะดูเหมือนค่าตัวเหมาะสมดีแล้ว หลังจากที่บราซิลโชว์ฟอร์มได้ดีกับสโมสรเก่าอย่างอิปสวิช ทาวน์ ยิงได้ 70 ประตู จากการลงเล่น 154 เกม ระหว่างปี 1977 ถึง 1983
อย่างไรก็ตาม มันก็มีสัญญาณเตือนอยู่บ้างว่าการค้าแข้งของเขากับทีมปีศาจแดงจะไม่ประสบความสำเร็จ บราซิลไปร่วมทีมสเปอร์สในปี 1983 และทำประตูไปได้เพียงแค่ 9 ลูกเท่านั้นเองก่อนย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เมื่อเขาทำประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แค่ 8 ลูก จากการลงเล่น 31 เกม ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับโคเวนทรีในอีก 2 ปีต่อมา
หากเทียบค่าเงินกับในสมัยนี้ ค่าตัวของบราซิลคงอยู่ราวๆ 13,650,000 ปอนด์ ซึ่งนั่นเพียงพอจะทำให้เขามีชื่อติดเข้ามาในลิสต์นี้ของเรา

9. หลุยส์ ซาฮา (12 ล้านปอนด์)
เหมือนกับ อลัน บราซิล ไม่มีผิด หลุยส์ ซาฮา ดูยอดเยี่ยมมากก่อนย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2004 ดาวยิงรายนี้โด่งดังขึ้นมากับฟูแล่ม โดยทำประตูไป 53 ลูก จากการลงเล่น 117 เกม โดยในฤดูกาล 2000/01 นั้นเขายิงไปถึง 27 ประตูเลยทีเดียว
ซาฮาค้าแข้งในถิ่นคราเวน ค็อตเทจ 3 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ โดยในครึ่งฤดูกาลแรกกับทีมปีศาจแดงของเขานั้นเป็นไปได้สวย เขาทำประตูได้ 7 ลูก จากการลงเล่น 12 เกม
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็แย่ลงทันทีเมื่อเขามีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ารบกวนอยู่ตลอด เขาได้ลงเล่นแค่ 14 และ 19 เกมเท่านั้นในฤดูกาล 2004/05 และ 2005/06 ตามลำดับ และก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงเป็นการถาวรได้เลย
ซาฮาถูกขายให้กับเอฟเวอร์ตันในปี 2008 ด้วยสัญญาแบบจ่ายตามจำนวนเกมที่ลงเล่นตลอดระยะเวลา 2 ปี นั่นทำให้เขากลายเป็นอีกคนที่มีชื่อติดเข้ามาในลิสต์นี้

8. ปีเตอร์ ดาเวนพอร์ท (750,000 ปอนด์)
เมื่อ มาร์ค ฮิวจ์ส ย้ายออกจากทีมไปเล่นกับบาร์เซโลน่าในปี 1986 รอน แอตกินสัน ก็ไม่รอช้าที่จะหานักเตะที่เข้ามาแทนที่เขาทันที และคนนั้นก็คือ ปีเตอร์ ดาเวนพอร์ท ดาวยิงน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ทำประตูให้กับทีมไป 54 ลูก เขามาพร้อมกับความคาดหวัง แต่ทุกอย่างก็ไปได้ไม่ดีเลย
หลังย้ายเข้ามาในปี 1986 ด้วยค่าตัว 750,000 ปอนด์ ซึ่งเทียบเป็นค่าเงินทุกวันนี้ก็ราวๆ 16 ล้านปอนด์ ดาเวนพอร์ทดูเหมือนว่าจะทำผลงานได้ดี ในฤดูกาล 1986/87 เขาเป็นดาวซัลโวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวน 16 ประตู
อย่างไรก็ตาม อาชีพค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของเขาก็พลิกผันเมื่อสโมสรมีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีม เป็น อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับแผนการทำทีมของเขาเอง
ฮิวจ์สถูกคว้าตัวกลับมาเล่นให้กับสโมสรอีกครั้ง นั่นทำให้โอกาสของดาเวนพอร์ทลดน้อยลงไปอย่างช่วยไม่ได้ เขาถูกขายให้กับมิดเดิ้ลสโบรช์ในปี 1988 หลังจากค้าแข้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปได้แค่ 2 ปีเท่านั้นเอง

7. แดนนี่ วอลเลซ (1,200,000 ปอนด์)
ในปี 1989 แดนนี่ วอลเลซ ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไล่ล่าคว้าแชมป์แรกกับสโมสร ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ที่จ่ายให้กับเซาแธมป์ตัน ทำให้วอลเลซกลายเป็นตัวความหวังในตำแหน่งปีกซ้าย หลังจากที่ เจสเปอร์ โอลเซ่น ย้ายออกจากทีมไป
วอลเลซดูเหมือนว่าจะทำได้ดีเมื่อดูจากสถิติ 64 ประตู จากการลงเล่น 253 เกมให้กับทีมนักบุญ ตอนนั้นเขาเป็นปีกที่ไม่ว่าทีมไหนก็อยากได้ตัวไปเล่นด้วย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เฟอร์กูสันยอมทุ่มเงินที่เทียบเป็นมูลค่าในปัจจุบันก็ราวๆ 17 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม วอลเลซก็ทำได้ดีที่สุดคือการเป็นตัวสำรองค่าตัวแพงเท่านั้น ลี ชาร์ป กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี และก็ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ ทำให้โอกาสลงเล่นของวอลเลซมีอย่างจำกัด แถมในเวลาต่อมายังมีดาวรุ่งแจ้งเกิดที่ชื่อ ไรอัน กิ๊กส์ อีกต่างหาก และมาในฤดูกาล 1991/92 วอลเลซก็ได้ลงเล่นในลีกไปเพียงเกมเดียวเท่านั้นเอง
เขาถูกขายให้กับเบอร์มิงแฮม ซิตี้ หลังจากที่ถูกส่งยืมตัวไปเล่นกับมิลล์วอลล์มาก่อนหน้านี้ สิ่งเดียวที่ทำให้เขาพอดูคุ้มค่าตัวขึ้นมาหน่อยกับทีมปีศาจแดงก็คือการยิงได้ 1 ลูก และทำแอสซิสต์อีก 2 ในเกมที่ถล่มเอาชนะอาร์เซนอล 6-2 ในลีก คัพ รอบ 4 เมื่อปี 1990

6. หลุยส์ นานี่ (17 ล้านปอนด์)
หลุยส์ นานี่ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนในลิสต์นี้ที่ยังค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในปัจจุบัน แม้ว่ามันอาจจะถึงจุดสิ้นสุดเร็วๆ นี้แล้วก็ตาม
นานี่ถูกคว้าตัวเข้ามาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ในปี 2007 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ และหลังจากผ่านไป 7 ฤดูกาลในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มันก็ยังมองไม่เห็นเลยว่าเขาจะเล่นคุ้มค่าตัวได้อย่างไร
นักเตะทีมชาติโปรตุเกสรายนี้มีปัญหาทั้งเรื่องฟอร์มการเล่น และสภาพความฟิต ทำให้เขาลงเล่นในลีกไปเพียงแค่ 22 เกมเท่านั้นนับตั้งแต่จบฤดูกาลในปี 2012 โดยยิงประตูได้เพียงแค่ 4 ลูกรวมทุกรายการในช่วงเวลาดังกล่าว
เขาทำให้แฟนบอลผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าจากลูกเซ็ตพีซที่ไร้ประโยชน์ และการยิงประตูที่มักจะหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น แม้ว่าจะพอมีลูกยิงไกลสวยๆ จากนานี่ให้เห็นอยู่บ้าง แต่นั่นมันก็นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง
ปีกรายนี้เพิ่งต่อสัญญากับทีมออกไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แต่มันก็มีข่าวออกมาอยู่เหมือนกันว่าเขาอาจย้ายไปเล่นกับฟิออเรนติน่า และก็เชื่อว่ามีแฟนๆ ปีศาจแดงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้สึกเสียดายเมื่อเขาจากทีมไป

5. อันแดร์สัน (20 ล้านปอนด์)
อันแดร์สัน ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากลีกโปรตุเกสเช่นเดียวกับนานี่ในปี 2007 และก็เช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถสร้างความประทับใจในเวทีพรีเมียร์ ลีก ได้เลย
ด้วยจำนวนแค่ 5 ประตู จากการลงเล่น 104 เกม ทำให้ทางสโมสรหมดความอดทนที่จะรอเขาพัฒนาฟอร์มอีกต่อไป และในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักเตะวัย 26 ปีก็ถูกส่งยืมตัวกับฟิออเรนติน่า ซึ่งเขาก็ยังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่อีกด้วยการลงเล่นแค่ 7 เกม และทำประตูไม่ได้เลย
อันแดร์สันจะกลับมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่แฟนบอลปีศาจแดงหลายคนก็อยากให้เขาอยู่ที่อิตาลีต่อไป หลังจากผ่านมาแล้ว 7 ฤดูกาลในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด และยังไม่ได้แสดงอะไรดีๆ ให้พวกเขาได้เห็นเลย

4. มารูยาน เฟลไลนี่ (27 ล้านปอนด์)
อาจจะเร็วไปหน่อยในการนำชื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ ใส่เข้ามาในลิสต์นี้ หลังจากที่เขาเพิ่งเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว แต่เมื่อดูจากค่าตัว 27 ล้านปอนด์ เขาก็ควรที่จะทำอะไรดีๆ ให้กับทีมได้มากกว่านี้
เขาผ่าน 1 ฤดูกาลในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาในแบบที่เรียกได้ว่าไม่มีอะไรน่าจดจำเลย เป็นที่วิจารณ์กันว่าเขาถูกซื้อตัวเข้ามาในแบบที่เรียกว่าแพนิค บาย ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายโดย เดวิด มอยส์
เฟลไลนี่ได้เป็นดาวซัลโวให้กับเอฟเวอร์ตันในฤดูกาล 2012/13 ด้วยจำนวน 11 ประตู เขาทำหน้าที่ได้ดีในแดนกลาง และก็ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ประเภทวิ่งขึ้นลงที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ ลีก
แต่กับทีมปีศาจแดงนั้น นักเตะชาวเบลเยียมยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้สักที แถมฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ด้วย
เฟลไลนี่ยังมีเวลาในการพิสูจน์ตัวเองอยู่ แต่เมื่อมองในตอนนี้ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ที่เขาจะมีชื่อเข้ามาในลิสต์นี้ แฟนๆ ปีศาจแดงเองก็คงหวังว่าเขาจะสามารถทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ในฤดูกาลหน้า

3. แกร์รี่ เบอร์เทิลส์ (1,250,000 ปอนด์)
เขาคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 และแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ มาได้กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ เดฟ เซ็กส์ตัน ยอมทุ่มเงินเป็นล้านปอนด์ให้กับ แกร์รี่ เบอร์เทิลส์ ในปี 1980 ซึ่งหากเทียบกับปัจจุบันก็สูงถึง 27 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
เบอร์เทิลส์ยิงประตูได้ 32 ลูก จากการลงเล่น 87 เกมกับฟอเรสต์ แต่เมื่อย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาก็ประสบปัญหาในแบบเดียวกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส โดยศูนย์หน้าตัวเป้ารายนี้ล่าตาข่ายไม่ได้เลยตลอดฤดูกาล 1980/81 พูดอีกอย่างก็คือลงเล่นไป 25 เกม ทำได้ 0 ประตู
นักเตะชาวอังกฤษทำได้ดีขึ้นในฤดูกาลต่อมา โดยยิงได้ 11 ลูกในฤดูกาล 1981/82 แต่ฟอร์มโดยรวมก็ยังถือว่าย่ำแย่ สุดท้ายทีมปีศาจแดงจึงส่งตัวเขากลับไปยังน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และก็ดูเหมือนว่าเขาจะควานหาสัญชาตญาณนักล่าเจออีกครั้ง ในช่วงที่ค้าแข้งกับทีมเจ้าป่าเป็นสมัยที่ 2 เขาทำประตูได้ 38 ลูก จากการลงเล่น 125 ครั้ง

2. เท็ด แม็คโดกัลล์ (200,000 ปอนด์)
แม้จะเริ่มต้นอาชีพกับลิเวอร์พูล แต่ก็เป็นกับบอร์นมัธที่ เท็ด แม็คโดกัลล์ เริ่มสร้างชื่อขึ้นมา เขาถล่มประตูในดิวิชั่น 4 และ 3 ได้เป็นว่าเล่นในสมัยนั้น
แม็คโดกัลล์ซัดประตูได้ราวกับ ลิโอเนล เมสซี่ ในช่วงที่ค้าแข้งกับทีมเชอร์รี่ส์ เขาทำประตูไปทั้งหมด 103 ลูก จากการลงเล่น 146 เกม จึงไม่แปลกใจเลยที่ทีมใหญ่จะดึงตัวเขาไปเล่นด้วย และนั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1972
ด้วยค่าตัวมหาศาล 200,000 ปอนด์ในตอนนั้น ซึ่งหากเทียบในปัจจุบันแล้วก็ราว 29 ล้านปอนด์ แม็คโดกัลล์จึงมาพร้อมกับความคาดหวังสูงว่าจะมาทดแทนตำแหน่งของ เดนิส ลอว์ หรือ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ได้ แต่ว่านั่นก็ไม่เกิดขึ้น
อดีตนักเตะลิเวอร์พูลทำประตูได้เพียงแค่ 5 ลูกเท่านั้นจากการลงเล่น 18 เกมให้กับทีมปีศาจแดง และเมื่อ ทอมมี่ โดเฮอร์ตี้ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมต่อจาก แฟร้งค์ โอฟาร์เรลล์ ในปี 1971 แม็คโดกัลล์ก็ได้กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปในทันที หลังจากนั้นเขาก็ถูกขายไปให้กับเวสต์ แฮม

1. ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (28.1 ล้านปอนด์)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยกล่าววาทะอันโด่งดังเอาไว้เกี่ยวกับ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน เอาไว้ว่า "เขาน่ะแม่งโคตรเก่งเลย และพวกคุณก็โคตรงี่เง่า" แต่เมื่อดูจากผลงานในสนามก็คงต้องบอกว่าคราวนี้เฟอร์กี้ผิดเต็มๆ และเวรอนก็มีชื่อติดเข้ามาเป็นอันดับ 1 ในลิสต์นี้
เขาถูกคว้าตัวเข้ามาจากลาซิโอในปี 2001 ด้วยค่าตัวมหาศาล 28 ล้านปอนด์ ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงสุดบนเกาะอังกฤษในเวลานั้น เวรอนต้องเข้ามาแย่งตำแหน่งในแดนกลางจากทั้ง รอย คีน, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์ และ เดวิด เบ็คแฮม แต่สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันตลอดเวลา 2 ปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ดาวเตะชาวอาร์เจนตินาปรับตัวเข้ากับเกมอันรวดเร็วในพรีเมียร์ ลีก ไม่ได้ เขาไม่มีเวลา และพื้นที่มากนักในการเล่นบอลเหมือนกับสมัยที่ค้าแข้งอยู่ที่อิตาลี
ในที่สุดเขาก็ถูกขายทิ้งไปให้เชลซี หลังจากผ่านไปได้แค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น ก่อนที่จะย้ายกลับไปค้าแข้งกับสโมสรแรกของเขาคือเอสตูเดียนเตส ทีมที่เขาเพิ่งจะแขวนสตั๊ดด้วยเมื่อเร็วๆ นี้