เรียล มาดริด 1 - 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สนาม มิชิแกน สเตเดี้ยม, สหรัฐอเมริกา
ผู้ชมในสนาม 109,318 คน
รายการ ทัวร์ 2014
เวลา 03.06 น. วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2557
ผู้ทำประตูให้เรียล มาดริด เบล จุดโทษ น.37
ผู้ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยัง น.21, 37, ชิชาริโต้ น.80

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ได้สำเร็จ หลังเอาชนะเรียล มาดริด ไป 1-3 ต่อหน้าแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมฟุตบอลมากที่สุดในประวัตศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

เกมนี้มีแฟนๆ แห่กันเข้ามาในมิชิแกน สเตเดี้ยม ถึง 109,318 คน เป็นเกมที่ 2 สโมสรยักษ์ใหญ่ของโลกโคจรมาพบกัน และผู้ชมก็ไม่ได้ผิดหวังเลยจากเกมนี้ แอชลี่ย์ ยัง เหมาคนเดียว 2 ลูกในครึ่งแรก จากนั้นในครึ่งหลังก็เป็น ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ตัวสำรองที่ลงมายิงเพิ่ม

หลุยส์ ฟาน กัล เลือกใช้ทีมชุดที่ดีที่สุดลงปะทะกับแชมป์ยุโรปซึ่งมี แกเร็ธ เบล นำทัพ ขณะที่สตาร์ดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั่งอยู่ที่ข้างสนาม ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้สวมบทกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง และนักเตะชาวสก็อตก็เกือบที่จะทำประตูให้กับทีมได้ แต่ลูกยิงของเขาก็หลุดเสาสองออกไปหวุดหวิด

ทีมปีศาจแดงเริ่มต้นเกมได้อย่างน่ากลัว และจากลูกจ่ายขึ้นหน้าของเฟล็ตเชอร์ก็นำมาซึ่งประตูแรกในนาทีที่ 21 เขาทำชิ่งหนึ่งสองกับ เวย์น รูนี่ย์ บริเวณกรอบเขตโทษ บอลมาเข้าทาง แดนนี่ เวลเบ็ค ที่จ่ายต่อไปให้ แอชลี่ย์ ยัง ที่เสาไกล เขาจัดการยิงผ่านมือ อิเคร์ กาซีญาส เข้าไปให้ทีมของ ฟาน กัล ขึ้นนำทันที

ประตูขึ้นนำนั้นคงอยู่ได้แค่ 6 นาทีเท่านั้น เบลพาบอลกระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะทะลุเข้ากรอบเขตโทษ และไปโดน ไมเคิล คีน ดึงล้มลง เป็นเบลเองที่ลุกขึ้นมายิงจุดโทษผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ที่พุ่งผิดทางเข้าประตูไป

รูนี่ย์มาได้ยิงตรงตัวกาซีญาส ก่อนที่เบลจะโชว์ลูกยิงจักรยานอากาศ แต่ เด เคอา ก็ยังรับเอาไว้ได้ ถึงตรงนี้แทบไม่มีเวลาให้หยุดหายใจ และทีมปีศาจแดงก็ขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 37 ยังที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเปิดบอลโค้งเข้าไปจะให้รูนี่ย์ในกรอบเขตโทษ บอลสูงเกินไปสำหรับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ แต่ก็ยังโชคดีที่มันพุ่งโค้งเสียบเสาไกลเข้าไป

หลังจากที่ แดนนี่ เวลเบ็ค ที่มีอาการบาดเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออกให้ วิลเฟรด ซาฮา ลงไปเล่นแทน รูนี่ย์ก็ตักบอลจากจังหวะฟรีคิกให้ ฮวน มาต้า ที่วิ่งสอดขึ้นไป มิดฟิลด์ชาวสเปนยิงด้วยขวา แต่ก็ไม่สามารถควบคุมให้บอลตรงกรอบได้

ฟาน กัล เลือกส่ง ลุค ชอว์, ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ และ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลงมาเล่นแทน แอชลี่ย์ ยัง, จอนนี่ อีแวนส์ และ อันเดร์ เอร์เรร่า แต่กลายเป็นเรียล มาดริด ที่มาได้ลุ้นทำประตู เป็นเบลอีกครั้งที่เล่นได้อย่างน่ากลัวทางฝั่งซ้าย เขากระชากบอลผ่านคีนเข้าไปจ่ายให้ อิสโก้ ในกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของเขาก็ไปแฉลบ ฟิล โจนส์ ทำให้บอลไร้น้ำหนัก และ เด เคอา ก็รับติดมือเอาไว้ได้ จากนั้นเบลก็มีโอกาสเล่นงาน เด เคอา อีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จากจังหวะฟรีคิกระยะ 30 หลาในนาทีที่ 55

เปเป้ ได้โขกข้ามคานจากลูกเตะมุม จากนั้นเบลก็ได้ครอสให้ตัวสำรองอย่าง ราอูล เด โทมัส โขกข้ามคานจากระยะใกล้อีกครั้งเช่นกัน ขณะที่อีกฝั่งของสนาม ชอว์, ชินจิ คากาวะ และชิชาริโต้ประสานงานได้อย่างเยี่ยมยอด แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่สามารถเล่นงานกาซีญาสได้ โดยหลังจากนั้นเขาก็ต้องมาชกลูกยิงของเคลฟเวอร์ลี่ย์อีกจังหวะด้วย

แฟนๆ ในสนามส่งเสียงเชียร์อย่างกึกก้องเมื่อโรนัลโด้ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 74 แต่วันนี้ก็ยังเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ฉลอง เมื่อชิชาริโต้มายิงประตูปิดกล่องด้วยการโขกจากลูกครอสมาให้ของคากาวะ ทำให้ทีมปีศาจแดงผ่านเข้าไปเตะนัดชิงชนะเลิศกับคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูลที่ไมอามี่ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาบิด เด เคอา; ไมเคิล คีน, ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์ (ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ น.46); อันโตนิโอ วาเลนเซีย (เจสซี่ย์ ลินการ์ด น.62), อันเดร์ เอร์เรร่า (ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ น.46), ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, แอชลี่ย์ ยัง (ลุค ชอว์ น.46); ฮวน มาต้า (ชินจิ คากาวะ น.62); เวย์น รูนี่ย์ (ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.62), แดนนี่ เวลเบ็ค (วิลเฟรด ซาฮา น.41)

สำรองไม่ได้ใช้งาน อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, เบน เอมอส, แซม จอห์นสโตน, รีซ เจมส์, หลุยส์ นานี่, วิลล์ คีน