เวย์น รูนี่ย์ เหลืออีกเพียงแค่ 3 ประตูก็จะทาบสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กับทีมชาติอังกฤษ หลังจากที่ยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ทีมของเขาเอาชนะสก็อตแลนด์ไป 3-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โขกผ่านมือ เคร้ก กอร์ดอน ผู้รักษาประตูชาวสก็อตได้ตั้งแต่นาทีที่ 2 หลังพักครึ่ง โดยจังหวะก่อนหน้าเป็น แจ็ค วิลเชียร์ มิดฟิลด์อาร์เซนอลที่พาบอลลุยไปในกรอบเขตโทษ รูนี่ย์มายิงประตูที่ 3 ให้กับทีมสิงโตคำราม หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 2 นาที สก็อตแลนด์มายิงประตูตีไข่แตก
อังกฤษเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนในเกมนี้ 1-0 ที่สนามเซลติก พาร์ค โดยวิลเชียร์จ่ายให้เพื่อนร่วมสโมสร อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โขกเข้าไปหลังผ่านครึ่งชั่วโมงมาไม่นาน
รูนี่ย์ถือเป็นหนึ่งใน 3 นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ร่วมกับ คริส สมอลลิ่ง และ ลุค ชอว์ ในช่วงที่สกอร์ 2-0 นักเตะปีศาจแดงอีกคนคือ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน สก็อตต์ บราวน์ ในฐานะกัปตันทีมชาติสก็อตแลนด์ด้วย ชอว์ถูกถอดออกในนาทีที่ 66 เป็น คีแรน กิ๊บบ์ส จากอาร์เซนอลที่ได้ลงเล่นแทนในฐานะแบ็คซ้าย
เฟล็ทเชอร์ลงมาช่วยเกมให้กับเจ้าถิ่นได้เยอะในแผงมิดฟิลด์ เกมของสก็อตแลนด์ดูดีขึ้นมากจนกระทั่งมาได้ประตูตีตื้น เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จากฮัลล์ ซิตี้ ที่เป็นคนยิงประตูผ่านมือ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เข้าไป
อังกฤษตอบสนองทันทีด้วยลูกยิงจากรูนี่ย์ และก็เป็นชัยชนะ 3-1 ถือเป็นการคว้าชัยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 วันสำหรับทีมชาติอังกฤษของ รอย ฮ็อดจ์สัน
