ผู้ชมในสนาม 75,331 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 20.30 น. วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2557
ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะสุดยิ่งใหญ่เหนือคู่อริตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูลด้วยสกอร์ 3-0 พร้อมทำสถิติชนะติดต่อกันเป็นเกมที่ 6
ประตูจาก เวย์น รูนี่ย์ และ ฮวน มาต้า ช่วยให้ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ออกนำไปก่อน 2 ลูกในครึ่งหลัง ก่อนที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะมาบวกเพิ่มอีกในครึ่งหลังช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนเต็มไปครอง
อย่างไรก็ตาม เป็นอีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องพึ่งฟอร์มการเซฟของ ดาบิด เด เคอา ที่ช่วยเหลือทีมเอาไว้หลายครั้งก่อนที่รูนี่ย์จะมาซัดประตูแรก จากนั้นในครึ่งหลังเขาก็ปฏิเสธลูกยิงของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่น่าเป็นประตูมากๆ ไปชนคาน เรียกได้ว่าเกมนี้เขาใช้ทั้งมือ และเท้าในการสกัดจังหวะยิงของทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์
อาการบาดเจ็บของ คริส สมอลลิ่ง กับ มาร์กอส โรโฮ ทำให้ฟาน กัลตัดสินใจเปลี่ยนแผงกองหลังมาใช้งาน ไมเคิล คาร์ริค, ฟิล โจนส์ และ จอนนี่ อีแวนส์ ขณะที่ลิเวอร์พูลมาแปลกโดยไม่มีกองหน้าลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง ส่วนในตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น แบรด โจนส์ ที่ได้ลงเล่นแทน ซิมง มิโญเลต์ โดยในแนวรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่งเอา เจมส์ วิลสัน ลงเล่นเป็นตัวจริงด้วย
เกมเริ่มต้นโดยที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตกเป็นฝ่ายตั้งรับไปก่อน เวย์น รูนี่ย์ ต้องมาสกัดลูกโขกของ มาร์ติน สเคอร์เทล จากนั้น มารูยาน เฟลไลนี่ มาถูกจดชื่อเป็นคนแรกอย่างรวดเร็ว
ราฮีม สเตอร์ลิง ทิ้งโอกาสทองไปในเกมนี้จากจังหวะดวลเดี่ยวกับเด เคอา แต่เขาก็ยิงไปตรงตัวนายทวารเจ้าถิ่น กลายเป็นว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มาได้ประตูขึ้นนำ อันโตนิโอ วาเลนเซีย แตะลอดขา โจ อัลเลน ทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะจ่ายตัดหลังกลับมาให้กัปตันทีมปีศาจแดงซัดผ่านมือโจนส์ที่พุ่งผิดทางเข้าประตูไป โดยประตูนี้ถือเป็นลูกที่ 6 แล้วที่รูนี่ย์ทำได้ในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูลพยายามทวงประตูคืนทันควัน แต่จังหวะยิงของสเตอร์ลิงก็ยังไปติดเซฟของเด เคอาอีก จากนั้นผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ก็มาแจกใบเหลืองให้กับโจนส์, อีแวนส์, รูนี่ย์ และอัลเลน ทั้งที่จังหวะเข้าปะทะไม่ได้ดูรุนแรงสักเท่าไหร่นัก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาบวกประตูเพิ่มได้ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนพักครึ่ง คราวนี้มาจากการขึ้นเกมที่อีกข้างของสนาม แอชลี่ย์ ยัง ที่ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งซ้ายเปิดบอลเข้ามาที่เสาไกลให้มาต้าโขกเข้าไปโล่งๆ ในจังหวะนี้ดูเหมือนว่าบอลไปโดนศีรษะฟาน เพอร์ซี่ก่อน และนั่นจะทำให้มาต้าถูกจับล้ำหน้าทันที แต่สุดท้ายมันก็เป็นประตู และแฟนๆ ทั่วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ได้ฉลองกัน
ทีมเยือนส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาล่าตาข่ายในครึ่งหลัง ซึ่งเริ่มเตะกันมาไม่กี่นาที เด เคอาก็ต้องสวมบทฮีโร่อีกครั้ง สเตอร์ลิงได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษจากการจ่ายคืนหลังที่ผิดพลาดของแนวรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผู้รักษาประตูชาวสเปนก็ยังอุตส่าห์ปิดมุมยิง และบล็อคเอาไว้ได้อีกครั้งอย่างน่าเหลือเชื่อ
รูนี่ย์มายิงให้โจนส์ต้องออกแรงเซฟบ้าง และวิลสันก็ได้ลองยิงไกลออกหลัง ฟาน เพอร์ซี่ได้ลองแปหลุดเสาออกไปนิดเดียวด้วยเช่นกัน จากนั้นก็เป็นอีกครั้งที่เด เคอาต้องปฏิเสธการยิงของลิเวอร์พูล คราวนี้เขาปัดลูกยิงโล่งๆ ของบาโลเตลลี่ไปชนคานกระดอนพ้นอันตรายไปได้
ด้วยฟอร์มอันเหนียวหนึบของผู้รักษาประตูรายนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงรักษาช่วงห่างของสกอร์นำนี้ไว้ได้ จนกระทั่งมาทิ้งห่างออกไปอีกในขณะที่เหลือเวลาอีก 20 นาที จากจังหวะสวนกลับเร็ว เดยาน ลอฟเรน เคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทางมาต้าที่จ่ายต่อไปให้ฟาน เพอร์ซี่ยิงสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ เข้าไป
เด เคอามาตอกย้ำเกมอันยอดเยี่ยมนี้อีกด้วยจังหวะเซฟ 2 ครั้งในช่วงท้ายเกมจากการยิงของบาโลเตลลี่ ขณะที่โจนส์ก็ต้องออกแรงปัดลูกยิงของอาร์วีพีข้ามคานไปด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้วเกมจบลงที่สกอร์ 3-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ลิเวอร์พูล |
| เวย์น รูนี่ย์ น.12 ฮวน มาต้า น.40 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.71 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ลิเวอร์พูล |
| 11(6) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 19(9) |
| 13 | ฟาวล์ | 14 |
| 2 | เตะมุม | 7 |
| 1 | ล้ำหน้า | 2 |
| 4 | ใบเหลือง | 3 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 55% | การครองบอล | 45% |
