ผู้ชมในสนาม 7,987 คน
รายการ เอฟเอ คัพ
เวลา 02.55 น. วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558
ผู้ตัดสิน คริส ฟอย
รีพอร์ต
การแข่งขันจำเป็นต้องไปวัดกันต่อในนัดรีเพลย์หลังจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอแบบไร้สกอร์กับทีมจากลีก ทู ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่สนามแอบบี้ย์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
ลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ครองเกมได้ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถหาจังหวะเล่นงานแนวรับเจ้าถิ่นที่เล่นกันได้อย่างเหนียวแน่น ทำเอาผู้จัดการทีมของพวกเขา ริชาร์ด มันนี่ ถึงกับต้องยกเครดิตให้
เวย์น รูนี่ย์ ไม่มีชื่อในเกมนี้ แต่ฟาน กัลก็ยังใช้ทีมชุดที่แข็งแกร่งลงสนามในระบบ 4-4-2 เจมส์ วิลสัน กับ แอดนาน ยานูซาย ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ขณะที่ มารูยาน เฟลไลนี่ ก็ได้ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์
เจ้าถิ่นครองเกมบุกได้ก่อนในช่วงแรกด้วยแรงฮึดจากเสียงเชียร์ของแฟนๆ แต่โอกาสแรกของเกมตกเป็นของ ดาลี่ย์ บลินด์ ในนาทีที่ 10 ลูกยิงเรียดพื้นของเขาจากมุมแคบไปติดเซฟของ คริส ดันน์ ออกไป ยานูซายซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนทำผลงานค่อนข้างใช้ได้ และเขาก็ได้โอกาสยิงฮาล์ฟวอลเล่ย์ไปตรงตัวผู้รักษาประตูในอีก 10 นาทีต่อมา
เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง ฟิล โจนส์ และ มาร์กอส โรโฮ ต้องเหนื่อยไม่น้อยในการรับมือกับแนวรุกของทีมจากลีก ทู ที่ดูไม่เกรงกลัวในการเข้าปะทะเลย พวกเขาพยายามทดสอบแนวรับของทีมปีศาจแดงอยู่ตลอด ลูกโขกของ ทอม แชมเปี้ยน มาถูกบล็อคจากเส้นโดยเพื่อนร่วมทีมด้วยกันเองอย่าง จอช โคลสัน ซึ่งเขาก็พยายามที่จะโขกบอลในจังหวะต่อเนื่องเข้าไป แต่ก็ข้ามคานท่ามกลางความโล่งอกที่ม้านั่งสำรองทีมเยือน
อังเคล ดิ มาเรีย ที่ถอยลงมาเล่นต่ำกว่าเกมกับคิวพีอาร์ได้ลองยิงจากระยะ 20 หลาไปเข้ามือผู้รักษาประตู ก่อนที่จะได้ยิงแฉลบอีกครั้งในนาทีที่ 41 นักเตะชาวอาร์เจนตินายังได้ปั่นฟรีคิกจากระยะ 25 หลาด้วย แต่บอลก็ยังข้ามคานออกไป และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้ายในครึ่งแรก
ทีมปีศาจแดงเริ่มต้นครึ่งหลังด้วยจังหวะยิงของยานูซายที่ยังไปติดเซฟ ถึงตรงนี้ลูกทีมของฟาน กัลเริ่มครองเกมได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นมากแล้ว ราดาเมล ฟัลเกา เกือบที่จะทำประตูได้จากลูกจ่ายทะลุช่องมาให้ของ ไมเคิล คาร์ริค แต่จังหวะยิงของเขาก็ยังไปติดผู้รักษาประตูออกหลังไปอีก
วิลสันถูกถอดออกมาให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงไปเล่นแทน ขณะที่เฟลไลนี่ก็ถูกแทนที่ด้วยฮีโร่จากรอบ 3 อย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า ศูนย์หน้าชาวดัตช์เกือบที่จะทำประตูได้ในทันทีจากลูกจ่ายโด่งมาให้ของดิ มาเรีย แต่เขาก็ยังยิงข้ามคานออกไปจากระยะราว 6 หลา
การลงสนามของเอร์เรร่าทำให้เกมในแดนกลางของทีมปีศาจแดงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเตะชาวสเปนมีส่วนร่วมกับเกมอยู่ตลอด ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 ทีมปีศาจแดงเกือบที่จะมาได้ประตูชัยจากการยิงของดิ มาเรีย แต่ก็ยังไปติดเซฟของดันน์อยู่ดี สุดท้ายสิ้นเสียงนกหวีดยาวก็ต้องไปวัดกันต่อในนัดรีเพลย์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
สถิติ
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| สถิติ | |
| เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| 5(0) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 15(5) |
| 5 | ฟาวล์ | 12 |
| 4 | เตะมุม | 7 |
| 1 | ล้ำหน้า | 1 |
| 1 | ใบเหลือง | 2 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 24% | การครองบอล | 76% |
