
1. เอริค คันโตน่า (ลีดส์ ยูไนเต็ด - 27/11/1992, 1.2 ล้านปอนด์)
หลายคนมองว่ามันเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และมันก็มีที่มาแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือด้วย เริ่มต้นที่ บิลล์ ฟอร์เธอร์บี้ ประธานสโมสรลีดส์โทรศัพท์มาหา มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส เพื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการซื้อตัว เดนิส เออร์วิน ที่จริงมันควรจะเป็นการซื้อตัวนักเตะแนวรับในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดเสียมากกว่า แต่กุนซือปีศาจแดงที่อยู่ใกล้ๆ เอ็ดเวิร์ดสก็ยื่นกระดาษที่เขียนข้อความว่า 'แล้วคันโตน่าล่ะ?' มาให้ คำถามนั้นถูกถามออกไป ซึ่งปลายสายก็ดันตอบรับเสียด้วย หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นประวัติศาสตร์

2. แอนดี้ โคล (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด - 12/01/1995, 6 ล้านปอนด์ + คีธ กิลเลสพี)
ถือเป็นการซื้อตัวครั้งใหญ่ในตอนนั้น แน่นอนว่า เควิน คีแกน กุนซือนิวคาสเซิลในตอนนั้นไม่มีความคิดที่จะปล่อยตัวจอมถล่มประตูในถิ่นไทน์ไซด์ออกไปเลย แต่เฟอร์กูสันก็โน้มน้าวให้ดีลนี้ประสบความสำเร็จจนได้ด้วยมูลค่ารวม 7 ล้านปอนด์ โดยในดีลมีการแถมปีกดาวรุ่งของทีมอย่าง คีธ กิลเลสพี บวกเข้าไปกับเงิน 6 ล้านปอนด์ นั่นถือเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดของอังกฤษในตอนนั้น เอาชนะค่าตัว 5 ล้านปอนด์ที่แบล็คเบิร์น โรเวอร์สจ่ายให้กับนอริช ซิตี้สำหรับ คริส ซัตตัน และนับจากนั้นเป็นต้นมา ค่าตัวนักเตะในวงการฟุตบอลทั่วโลกก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน

3. เท็ดดี้ เชอริงแฮม (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ - 27/06/1997, 3.5 ล้านปอนด์)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังหาตัวแทนของคันโตน่าที่ประกาศแขวนสตั๊ดไปแบบสุดช็อค เบื้องหลังการย้ายทีมของเชอริงแฮมในตอนนั้นมีที่มาจากความขัดแย้งกับประธานสโมสรท็อตแน่มอย่าง อลัน ชูการ์ ทำให้เขาขอขึ้นบัญชีย้ายทีม "ก่อนหน้านั้นยูไนเต็ดเคยมีข่าวกับผม ซึ่ง มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส ก็ได้ปฏิเสธโดยบอกว่าผมแก่เกินไป และมีค่าตัวแพงเกินไป" ศูนย์หน้าชาวอังกฤษเคยพูดเอาไว้ "จากนั้นผมก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายมาเล่นให้กับที่นี่เลย แต่เมื่อผมได้ยินว่าพวกเขาให้ความสนใจในตัวผมอย่างจริงจัง มันก็ใช้เวลาไม่นานที่ผมจะตัดสินใจย้ายไป"

4. แอนดี้ โกแรม (มาเธอร์เวลล์ - 22/03/2001, 100,000 ปอนด์)
ถือเป็นเรื่องน่าแปลกที่มีการเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูวัยไม้ใกล้ฝั่งถึง 36 ปีจากมาเธอร์เวลล์เข้ามา มันยังมีเรื่องแปลกยิ่งกว่านั้นอีก เมื่อนักเตะระดับตำนานของเรนเจอร์สรายนี้สบถด่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผ่านทางโทรศัพท์ด้วย เพราะคิดว่าเพื่อนซี้อย่าง แอลลี่ แม็คคอยส์ โทรมาอำเขา ตอนนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากยูฟ่าให้ซื้อผู้รักษาประตูเข้ามาเสริมทีมหลังปิดตลาดไปแล้ว เนื่องจากทั้ง ฟาเบียง บาร์กเตซ กับ ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว ต่างประสบปัญหาบาดเจ็บอย่างหนัก

5. ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (ลาซิโอ - 21/07/2001, 28 ล้านปอนด์)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้พิสูจน์ว่าเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของโลกด้วยการเซ็นผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสในช่วงพีคเข้ามาเสริมทีม "ผมไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง วันที่ผมต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้านักเตะสักคนเข้ามา" เซอร์ อเล็กซ์ ยอมรับ "แต่นี่ก็คือสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องทำ" เพลย์เมคเกอร์จากลาซิโอเคยถูกจับตามองจากเรอัล มาดริดมาก่อนด้วยในช่วงที่เขากำลังจะย้ายออกจากอิตาลี "คุณอาจจะพูดถึงสโมสรอื่นๆ ก็ได้ในแง่ของการทุ่มเงินมหาศาล แต่เราก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหมือนกัน" เขาให้ความเห็น

6. อลัน สมิธ (ลีดส์ ยูไนเต็ด - 26/05/2004, 7 ล้านปอนด์)
เป็นการย้ายทีมที่แฟนบอลในถิ่นเอลแลนด์ โร้ดไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น เมื่อนักเตะที่มีความเป็นลีดส์เข้าเส้นอย่าง อลัน สมิธ ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มันเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมยูงทองแห่งยอร์คเชียร์ตกชั้น และก็มีข่าวลือออกมาว่าเซอร์ อเล็กซ์ต้องการตัวสมิธไปเสิรมทีม "ผมนำเรื่องของอลันมาขอความเห็นกับทีมโค้ชของผม และเราก็สรุปตรงกันว่า 'เขาเป็นเด็กลีดส์ และเขาคงไม่มีวันย้ายมาที่นี่'" เขายอมรับ "เมื่อลีดส์ตกชั้น มันก็ชัดเจนเลยว่านักเตะคุณภาพระดับเขาคงไม่สามารถอยู่ที่นั่นต่อได้ วันหนึ่งผมได้รับข่าวมาว่าเขาต้องการมาเล่นให้เรา และเขาไม่สนใจเรื่องในอดีต ผมก็คิดในใจเลยว่า 'เด็กคนนี้มันได้ใจผมเลย' เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญเหลือเกิน"

7. เฮนริก ลาร์สสัน (เฮลซิงบอร์กส - 01/01/2007, ยืมตัว)
จอมเก๋าอย่างลาร์สสันย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอร์ดแบบสุดช็อคในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมด้วยสัญญายืมตัว แม้ว่าเขาจะยังมีความสุขดีกับสโมสรบ้านเกิดอย่างเฮลซิงบอร์กส แต่นักเตะวัย 35 ปีก็ตอบตกลงย้ายมาเล่นที่นี่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ด้วยดีลมูลค่าราว 360,000 ปอนด์ เซอร์ อเล็กซ์จำได้ดีว่าลาร์สสันทำผลงานได้สุดยอดแค่ไหนสมัยค้าแข้งที่สก็อตแลนด์กับเซลติก และการยืมตัวในครั้งนี้ก็จะไม่มีการเจรจาขยายสัญญาใดๆ ออกไปเพื่อเป็นการให้เกียรติกับต้นสังกัดที่แท้จริงของลาร์สสันที่อนุญาตให้เขามาเล่นที่อังกฤษในครั้งนี้ "เขาอาจจะมาเล่นกับเราไม่นานนัก แต่เขาก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ ในฤดูกาลนั้นของสโมสร" ผู้จัดการทีมชาวสก็อตกล่าว

8. ไมเคิล โอเว่น (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด - 03/07/2009, ไม่มีค่าตัว)
นี่คือนักเตะที่มาสวมเสื้อหมายเลข 7 ต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แถมเขายังเป็นอดีตสตาร์ดังของลิเวอร์พูลด้วย หลังหมดสัญญากับนิวคาสเซิล อดีตกองหน้าเรอัล มาดริดรายนี้ก็ประสบปัญหาในการหาต้นสังกัดใหม่ จนกระทั่งเซอร์ อเล็กซ์มอบโอกาสให้เขามาเซ็นสัญญากับทีมท่ามกลางความประหลาดใจจากทุกๆ คน "เราจับตามองสถานการณ์ของไมเคิลมาหลายเดือน และในที่สุดมันก็ได้ข้อสรุป" กุนซือปีศาจแดงยอมรับ "ไมเคิลเองก็รู้ดี เขารู้ว่าสัญญาของเขากำลังจะหมดลง และผมเองก็ต้องการนักเตะเข้ามาเสริมทีม เราสับสนมากกับการรอการตัดสินใจของ คาร์ลอส เตเวซ เรารอกันมานานมากพอแล้ว เราพยายามที่จะซื้อตัว คาริม เบนเซม่า แต่ในเมื่อมันไม่ประสบความสำเร็จ เราก็เลยไปคว้าตัวไมเคิลแทน"

9. ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชีวาส เด กัวลาดาฮาร่า - 01/07/2010, 7 ล้านปอนด์)
ถือเป็นการซื้อตัวผู้เล่นที่เงียบเชียบที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้แต่คนในครอบครัวของศูนย์หน้าชาวเม็กซิกันยังมาทราบข่าวเอาตอนที่มีการย้ายทีมไปแล้ว ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทีมปีศาจแดงถูกบาเยิร์น มิวนิคเขี่ยตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีกมาไม่นาน ที่จริงเจ้าของฉายาชิชาริโต้ก็ได้ไปอยู่ในสนามวันนั้นด้วย เขาเผยว่า "ผมอยากจะกระโดดลงไปในสนามและลงเล่นเหลือเกิน" แม้จะมีการประกาศข่าวการซื้อตัวตั้งแต่เดือนเมษายน แต่กว่าที่เอร์นานเดซจะได้เป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการก็ต้องรอจนถึงเดือนกรกฏาคม ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติเม็กซิโก โดยทำประตูได้ด้วยในเกมที่พบกับฝรั่งเศสและอาร์เจนตินา

10. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (อาร์เซนอล - 17/08/12, 22.5 ล้านปอนด์)
ที่ผ่านมาจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่คอยฉกผู้เล่นอาร์เซนอลไปร่วมทีมอยู่เสมอๆ ไล่มาตั้งแต่ กาแอล กลิชี่, โคโล่ ตูเร่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ ซามีร์ นาสรี่ ในตอนนั้นสัญญากับทีมปืนใหญ่ของฟาน เพอร์ซี่เหลืออยู่อีกแค่ปีเดียว ทางสโมสรมีทางเลือก 2 อย่างคือขายกัปตันทีมออกไป หรือปล่อยให้เขาอยู่ต่อกับทีมไปจนหมดสัญญา จากนั้นก็ปล่อยเขาไปแบบฟรีๆ ในปี 2013 ที่จริงอาร์เซนอลเกือบจะขายเขาให้กับยูเวนตุสแล้วด้วย แต่ฟาน เพอร์ซี่ก็ยังอยากไล่ล่าถ้วยแชมป์ต่อที่อังกฤษ และเขาก็ได้ย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเซอร์ อเล็กซ์เป็นคนติดต่อเรื่องนี้โดยตรงกับ อาร์แซน เวนเกอร์ เพื่อหาข้อตกลงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด "โรบินเป็นศูนย์หน้าระดับโลก พิสูจน์ได้จากสถิติของเขาในอังกฤษและเวทียุโรป" เซอร์ อเล็กซ์กล่าวหลังจากที่ได้ตัวเขามาร่วมทีม "ความสามารถของเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาแนะนำให้กับแฟนๆ ของเราเลย"