สนาม เจ เดวิดสัน สเตเดี้ยม
รายการ แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ รอบรองชนะเลิศ
วัน เสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2558
รอชเดลชนะจุดโทษ 5-3
ความหวังเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแลงคาเชียร์ เอฟเอ ซีเนียร์ คัพ 2015 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องพังทลายลงไป เมื่อลูกทีมของ วาร์เรน จอยซ์ ตกรอบด้วยการดวลจุดโทษที่สนามเจ เดวิดสัน สเตเดี้ยม ที่อัลทริงแคม เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทั้ง 2 ทีมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ในเกมที่มีรางวัลคือการผ่านเข้าไปเตะนัดชิงชนะเลิศกับบิวรี่ ที่เลย์แลนด์ ทั้งเกมมีโอกาสลุ้นประตูกันน้อยมาก โดยเฉพาะในครึ่งแรก จากนั้นเกมก็เริ่มสนุกขึ้นในครึ่งหลัง แต่ก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้นอยู่ดี ทำให้ต้องไปตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ
เอียน เฮนเดอร์สัน ทำประตูได้ในการยิงจุดโทษลูกแรกของรอชเดล แต่ เจมส์ เวียร์ ก็ไม่สามารถยิงตีเสมอ เมื่อผู้รักษาประตู จอช ลิลลิส เซฟเอาไว้ได้ จากนั้นอีก 7 คนที่ยิงจุดโทษของทั้ง 2 ทีมก็ไม่พลาดเป้าสักคน โดย โดนัลด์ เลิฟ, กิเยร์โม่ บาเรล่า และ โจชัว แฮร์ร็อป เป็นผู้ยิงให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถือเป็นธรรมเนียมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของรายการนี้จะมาเตะกันในช่วงพรีซีซั่น ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมาสำหรับทีมปีศาจแดงที่ร่วงตกรอบแค่รอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผ่านเข้าชิงชนะเลิศ มาตลอด 4 ปีก่อน โดยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาสามารถคว้าชัยชนะเหนือแอคคริงตัน สแตนลี่ย์ และแบล็คเบิร์น โรเวอร์สมาได้ ขณะที่รอชเดลเอาชนะ 2 สโมสรจากชายฝั่งไฟล์ดอย่างฟลีทวู้ด ทาวน์ และแบล็คพูล
ที่สนามเจ เดวิดสัน สเตเดี้ยม สนามเหย้าของอัลทริงแคม เอฟซี เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศของหนึ่งในรายการที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ แสงแดดสาดส่องเป็นการต้อนรับทั้ง 2 ทีมที่ลงสู่สนามด้วยชุดเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในชุดสีแดง และรอชเดลในชุดสีน้ำเงิน
นักเตะของจอยซ์จากเกมเสมอ 3-3 กับซัลฟอร์ด ซิตี้ต้องหายไป 2 คนคือ โจ รอธเวลล์ และ เบน เพียร์สัน หลังจากที่ทั้งคู่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมในลีก วันอย่างบาร์นสลี่ย์ ขณะที่เกมนี้รอชเดลมาได้โอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 12 เมื่อลูกยิงเลียดพื้นของ โจ บันนี่ย์ ไปติดเซฟ โจเอล เปเรร่า ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อย่างที่ได้กล่าวไปคือแทบไม่มีจังหวะลุ้นที่หน้าประตูของทั้ง 2 ฝั่ง แต่ทีมปีศาจแดงก็เกือบทำได้เหมือนกันในนาทีที่ 18 เมื่อ แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์ เกือบเข้าถึงลูกครอสจาก รีซ เจมส์ ทางฝั่งซ้าย เดมิทรี มิทเชลล์ มาวัดดวงด้วยลูกยิงไกลในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ก็แทบไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับลิลลิสที่ยืนคุมเส้นอยู่
จังหวะของเกมเริ่มเร็วขึ้นมาเล็กน้อยในครึ่งหลัง แต่โอกาสทำประตูก็ยังมีน้อยอยู่ดี ทั้ง เจมส์ ฮูเปอร์ ของรอชเดล และเวียร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างก็ได้ลองยิงกันทั้งคู่ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเจาะตาข่าย
บาเรล่าขึ้นเกมทางฝั่งขวาให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาลากผ่านผู้เล่นรอชเดลหลายคน ก่อนที่กองหลังชาวอุรุกวัยจะจ่ายบอลต่อไปให้กับแฮร์ร็อป แต่มิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้ก็พลาดโอกาสในการยิงประตูไป
บันนี่ย์เกือบจะยิงให้ทีมเยือนออกนำในนาทีที่ 74 เมื่อเขารับบอลจากการเตะยาวมาให้ของลิลลิส แต่เขาก็รีบยิงเกินไปจนบอลหลุดกรอบแบบไม่ได้ลุ้น
ในช่วงของการดวลจุดโทษ เปเรร่าไม่สามารถเซฟประตูได้เลยทั้ง 5 ครั้ง ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยิงพลาด 1 ลูกจากเวียร์ที่ไปติดเซฟลิลลิส ซึ่งนั่นก็ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องตกรอบนี้ไปในที่สุด
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โจเอล คาสโตร เปเรร่า; กิเยร์โม่ บาเรล่า, โดนัลด์ เลิฟ, คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน, รีซ เจมส์; เดมิทรี่ มิทเชลล์ (เดวอนเต้ เรดมอนด์), ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์, โจชัว แฮร์ร็อป, เจมส์ เวียร์; แมทธิว วิลล็อค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
สำรองไม่ได้ใช้งาน ดีน เฮนเดอร์สัน, โจ ไรลี่ย์