แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์, จอช แฮร์ร็อป
รายการ แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ
เวลา 01.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2558
ผู้ทำประตูให้รอชเดล อเลสซานดร้า น.45, โรส จุดโทษ น.63
ผู้ทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฟล็ทเชอร์ น.10, 18, จุดโทษ น.47
แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์ ซัดแฮตทริคช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ ด้วยชัยชนะเหนือรอชเดล 3-2
ศูนย์หน้ารายนี้จบสกอร์ลูกที่ 3 ด้วยการซัดจุดโทษช่วงต้นครึ่งหลัง แม้ว่า ลูอิส อเลสซานดร้า และ ไมเคิล โรส จะยิงประตูตีตื้นให้กับรอชเดลได้ แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ก็โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบเซฟสวยๆ หลายครั้งช่วยให้ทีมรักษาสกอร์ขึ้นนำเอาไว้ได้สำเร็จ
11 ตัวจริงของ วาร์เรน จอยซ์ ในเกมนี้มีนักเตะจากชุดยู-18 ถึง 5 คนด้วยกัน เจมส์ เวียร์ ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่เกมเริ่มต้นมาได้ไม่นาน ไรส์ เบนเน็ตต์ ก็มาบาดเจ็บ ทำให้เจ้าถิ่นต้องปรับทัพกันอย่างรวดเร็ว เฟล็ทเชอร์มาฟ้องเอาจุดโทษ หลังจากที่เขาปะทะกับ สก็อตต์ แทนเซอร์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ
แต่หลังจากนั้นเขาก็มาทำประตูขึ้นนำให้กับทีมปีศาจแดงได้ ต้องขอบคุณจังหวะบีบเกมของ ฌอน กอสส์ บอลมาเข้าทางเฟล็ทเชอร์ และเขาก็ยิงเลียดเข้าสู่มุมประตูเข้าไป เวียร์ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสจากการลื่นล้มของ โจนาธาน ดิบา ได้ แต่ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นก็มาโดนยิงเข้าไปอีกจนได้เมื่อเฟล็ทเชอร์จับบอลจากการจ่ายยาวมาให้ของกอสส์ และดาวรุ่งผู้เกิดที่ดีอาร์ คองโกก็สับไกยิงเข้าสู่ก้นตาข่าย
ด้วยขุนพลนักเตะที่มากประสบการณ์ เจ้าถิ่นก็มาโหมบุกหนักในช่วงก่อนจบครึ่งแรก โดนัลด์ เลิฟ สกัดบอลจากการยิงไกลของ นาธาเนียล เมนเดซ-เลง ออกหลัง และ คัลลัม แคมพ์ส ก็มายิงหลุดกรอบ ก่อนที่เฮนเดอร์สันจะปัดลูกยิงของอเลสซานดร้า
อดีตศูนย์หน้าพลีมัธ อาร์ไจล์มาซัดประตูจนได้ในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก เขาทำชิ่งหนึ่ง-สองกับแคมพ์ส ก่อนที่จะยิงด้วยเท้าซ้ายผ่านมือเฮนเดอร์สันเข้าไป ด้วยประตูนี้อาจส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจของลูกทีมจอยซ์ แต่กลายเป็นว่าครึ่งหลังเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เริ่มเกมอย่างกระฉับกระเฉง คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน ถูกทำฟาวล์เป็นลูกจุดโทษในนาทีแรก เฟล็ทเชอร์รับหน้าที่สังหารอย่างใจเย็นเข้าสู่กลางประตูเป็นการทำแฮตทริคของเขาในเกมนี้
เฮนเดอร์สันปฏิเสธจังหวะของโรส ก่อนที่อเลสซานดร้าจะมายิงออกข้าง รอชเดลพยายามอย่างหนักที่จะทวงประตูคืน แต่ จอช แฮร์ร็อป และเวียร์ก็แพ็คเกมในแดนกลางได้อย่างเหนียวแน่น ลูกครอสสุดอันตรายจากกอสส์น่าจะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบวกเพิ่มเป็นลูกที่ 4 ได้ แต่ทีมเยือนก็พลาดไป
เมนเดซ-เลงเติมเกมรุกขึ้นมา เขาไปปะทะกับ กิเยร์โม่ บาเรล่า และ เอ็กเซล ทวนเซเบ้ ทำให้มีจุดโทษที่ 2 ในเกมเกิดขึ้น และโรสก็รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทำให้สกอร์ไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 เมนเดซ-เลงยิงไปตรงตัวเฮนเดอร์สัน และผู้รักษาประตูปีศาจแดงก็มาเซฟครั้งสำคัญจากการยิงจ่อๆ ของ โจ บันนี่ย์ ถือว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรอดพ้นจากการโหมบุกหนักของเจ้าถิ่นมาได้สำเร็จ
เฟล็ทเชอร์แตะบอลผ่านมูซังกูไปได้แล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะหาโอกาสจบสกอร์ที่ 4 โรสก็เข้ามาแย่งบอลไปได้ จากนั้นช่วงท้ายเกมก็เป็นเฮนเดอร์สันที่งานชุก ตัวสำรอง บิลลี่ แฮสเลอร์-เคร็กก์ ได้ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ก็ถูกยกธงล้ำหน้าไปก่อน โรสได้มายิงฟรีคิกไปเข้ามือเฮนเดอร์สัน และนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ต้องการปัดป้องจังหวะของแคมพ์สอีก ขณะที่เกมเหลืออีก 3 นาที นักเตะปีศาจแดงหมายเลข 1 ก็มาทำให้แคมพ์สต้องผิดหวังอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการปัดลูกยิงของอเลสซานดร้าข้ามคานออกไป
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีน เฮนเดอร์สัน; กิเยร์โม่ บาเรล่า, เอ็กเซล ทวนเซเบ้, โดนัลด์ เลิฟ, คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน; โจ ไรลี่ย์ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.68), เดวอนเต้ เร้ดมอนด์, ฌอน กอสส์, จอช แฮร์ร็อป (ซาดิก เอล ฟิตูรี่ น.77), เจมส์ เวียร์; แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์
สำรองไม่ได้ใช้งาน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, โอลิเวอร์ ราธโบน
