นี่คือ5 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเสมอซีเอสเคเอ มอสโกว 1-1 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ...
ฟาน กัลไม่ได้จัดทีมเพื่อเก็บตัวสำหรับเกมดาร์บี้มากนัก
อันที่จริง หลุยส์ ฟาน กัล น่าจะส่ง ไมเคิล คาร์ริค ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ในเกมกับซีเอสเคเอ มอสโกวมากกว่า หากเขาต้องการเน้นไปที่เกมดาร์บี้วันอาทิตย์นี้ โดยชไวนี่นั้นเป็นนักเตะที่เหมาะสำหรับเกมใหญ่ และเขาก็น่าจะได้ลงเล่นในเกมที่จะเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ในเมื่อฟาน กัลจัดทีมแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่มิดฟิลด์ชาวเยอรมันจะต้องลงเล่นถึง 3 เกมในรอบ 8 วัน นั่นแสดงให้เห็นว่ากุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้มองว่าเกมดาร์บี้สำคัญมากไปกว่าเกมที่รัสเซียเลย
การส่งมาร์กซิอัลเล่นริมเส้นอาจมีความเสี่ยง
การส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล เล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายนั้นอาจช่วยให้ทีมได้ประโยชน์จากการวิ่งในพื้นที่ว่างของเขา แต่ในแง่ของเกมรับแล้วก็ถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร เพราะว่าเขาต้องถอยลงมาช่วยทีมด้วยในขณะที่โดนบุกเข้าใส่ และในเกมนี้เขาก็พลาดทำให้ทีมต้องเสียจุดโทษด้วย แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดแบบเฟอะฟะ แต่คุณก็ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากอยู่แล้ว หากจะให้ศูนย์หน้าลงมาเล่นเกมรับแบบนี้
แต่มาร์กซิอัลก็ยังเป็นตัวอันตรายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เขาเพิ่งอายุแค่ 19 ปี และก็เพิ่งอยู่กับสโมสรมาได้ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่ตอนนี้มาร์กซิอัลก็กลายเป็นตัวอันตรายที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปแล้ว เราอาจให้เครดิตกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้อย่างสุดสวยในจังหวะตีเสมอ แต่ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับการวิ่งหาช่องจากฝั่งซ้ายของมาร์กซิอัลด้วยเช่นกัน การวิ่งฉีกตัวประกบแบบนั้นมันสมบูรณ์แบบมาก แถมจังหวะจบสกอร์ก็ไม่เลวเลย เพราะบอลพุ่งเข้าเสียบเสาไกลเข้าไปในแบบที่ผู้รักษาประตูไม่สามารถทำอะไรได้
วาเลนเซียครอสบอลแบบหวังผลได้
โดยปกติแล้ววาเลนเซียมักจะครอสบอลแบบหวังพึ่งไม่ค่อยได้ และผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่ในวันนี้ เขาประสานงานกับ อันเดร์ เอร์เรร่า ได้ดีทางกราบขวา ก่อนที่จะครอสบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายให้มาร์กซิอัลจบสกอร์ ถือเป็นการเรียกความทรงจำดีๆ จากตัวของเขาเมื่อปี 2012 กลับมาได้บ้าง ซึ่งในปีนั้นลูกครอสของเขาน้อยครั้งที่จะไปติดกองหลังฝั่งตรงข้ามตั้งแต่จังหวะแรก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีโอกาสที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ทุกอย่างยังเกิดขึ้นได้ในกลุ่มบี แต่จากการเก็บได้ 1 คะแนนที่มอสโกวก็เท่ากับว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะสามารถเก็บได้ถึง 10 คะแนน หากกว่าชนะรวดในอีก 2 เกมที่จะได้เล่นในบ้านกับซีเอสเคเอ มอสโกว และพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งนั่นก็น่าจะเพียงพอที่จะส่งให้ทีมปีศาจแดงผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรจะต้องจบอันดับด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับทีมวางในรอบถัดไป
