
รายการ เอฟเอ ยูธ คัพ รอบ 3
วัน อังคารที่ 22 ธันวาคม 2558
ผู้ทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วีแลน น.64, แรชฟอร์ด จุดโทษ น.93
ผู้ทำประตูให้ ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส อัลฟา น.77
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ผ่านเข้ารอบเอฟเอ ยูธ คัพได้สำเร็จ หลังจากต่อเวลาพิเศษ โดยจะไปพบกับเชลซีในรอบที่ 4 ต่อไป
เกมนี้ต้องเตะๆ หยุดๆ กันอยู่ตลอด เนื่องจากผู้เล่นของทีมจากลอนดอนได้รับบาดเจ็บกันบ่อยครั้ง ตัวสำรองของเรนเจอร์สอย่าง โอดิสซิอุส อัลฟา มายิงตีเสมอประตูขึ้นนำในครึ่งหลังของ คอลลัม วีแลน ได้ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษกันไปอีก 30 นาที
ดาวซัลโว มาร์คัส แรชฟอร์ด มาซัดประตูชัยได้ หลังจากถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษโดยผู้รักษาประตู มาร์ซิน เบอร์โซซอฟสกี้ ในขณะที่ทั้ง 2 ทีมดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงท้ายเกม
ทีมเยือนได้เปิดเกมเข้ากดดันมากกว่าในช่วงแรกๆ ของเกมนี้ แต่ก็แทบไม่มีจังหวะให้ต้องเหนื่อยมากนักสำหรับผู้รักษาประตูทั้ง 2 ฝั่ง โอกาสแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาถึงในนาทีที่ 26 เมื่อ ทิม โฟซู-เมนซาห์ ยิงจากลูกจ่ายของแรชฟอร์ดออกข้าง
โรเมโอ อาคิโนล่า มายิงให้ โอลิเวอร์ เบิร์น ต้องออกแรงเซฟ ขณะที่เบอร์โซซอฟสกี้ก็ต้องปฏิเสธลูกยิงฟรีคิกของ คอลลัม กริบบิน ด้วยเช่นกันที่อีกฝั่งของสนาม จากนั้นโอกาสจะแจ้งครั้งแรกก็มาถึงในนาทีที่ 35 เมื่อโฟซู-เมนซาห์ทำชิ่งกับกริบบิน ก่อนที่จะหลุดไปหน้าประตู อย่างไรก็ตาม การจบสกอร์ของนักเตะดัตช์ก็ขาดความเฉียบคม และบอลก็ถากเสาซ้ายมือของเบอร์โซซอฟสกี้ออกไป
แดเนี่ยล ดาร์บี้เชียร์ ได้ยิงจากลูกจ่ายของ จานนี่ คริชโลว์ หลุดกรอบ ซึ่งเป็นโอกาสแรกของคิวพีอาร์ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็มาปิดฉากครึ่งแรกได้อย่างแข็งแกร่ง โฟซู-เมนซาห์ประสานงานได้ดีกับแรชฟอร์ด แต่ลูกยิงของเขาก็ไปติดบล็อค และ ชาร์ลี สก็อตต์ ก็มีจังหวะบังคับให้เบอร์โซซอฟสกี้ต้องงัดฟอร์มเซฟ
ทีมของ พอล แม็คกินเนสส์ เริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีกว่า และประตูขึ้นนำก็เกือบมาถึงหลังจากบุกกดดันทีมจากลอนดอนตะวันตกอยู่นาน แรชฟอร์ดได้ยิงปั่นโค้งให้เบอร์โซซอฟสกี้ต้องปัดทิ้ง และวีแลนก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
คิวพีอาร์เริ่มสร้างความอันตรายได้บ้าง และคริชโลว์ก็มายิงให้เบิร์นต้องพุ่งปัด แต่สุดท้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ยังเป็นฝ่ายที่ได้ลุ้นมากกว่า กริบบินพลาดเข้าถึงลูกครอสของ ไทเรลล์ วาร์เรน อย่างไรก็ตาม ประตูปลดล็อคก็มาถึงจนได้เมื่อกริบบินเปิดลูกเตะมุมผ่านมือเบอร์โซซอฟสกี้ที่ออกลูกลังเล บอลมาถึงวีแลนที่ได้ยิงโล่งๆ ข้ามเส้นประตูเข้าไป
ทีมเยือนดูเหนื่อยล้า และ อังเคล โกเมส ก็ได้ลงมาวาดลวดลายทางริมเส้น ทีมปีศาจแดงดูเหมือนว่าจะยิงเพิ่มได้อีก แต่กลับกลายเป็นว่าตัวสำรองของคิวพีอาร์มายิงตีเสมอได้ จอช โบว์เลอร์ แตะผ่าน เอธาน แฮมิลตัน ก่อนที่จะครอสมาให้อัลฟายิงจ่อๆ เข้าไป แม้ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินจะยกธงขึ้นมา แต่ผู้ตัดสินชี้ขาดก็กลับคำตัดสิน และปล่อยให้เป็นประตู
แรชฟอร์ดเกือบที่จะช่วยให้ทีมกลับมานำอีกครั้ง หลังจากได้ลูกจ่ายมาจากโกเมส แม้เขาจะถูกปะทะในกรอบเขตโทษ แต่เขาก็ยังหาจังหวะสับไกได้ น่าเสียดายที่บอลไปชนคานเต็มๆ
6 นาทีของการทดเวลาบาดเจ็บ ทั้ง 2 ฝั่งพยายามอย่างมากที่จะทำประตูชัยให้ได้ แบรนดอน อดัมส์ ได้ดวลเดี่ยวหนึ่งต่อหนึ่งกับเบิร์น แต่บอลก็ไปติดตัวผู้รักษาประตู และกระดอนมาเข้าทาง เอ็กเซล ทวนเซเบ้ ซึ่งนับว่าโชคดีกับทีมปีศาจแดง เพราะว่าบอลสามารถพุ่งไปทางไหนก็ได้ในจังหวะนั้น
อดัมส์มาได้ยิงติดเซฟเบิร์นในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่โอกาสที่ได้ลุ้นที่สุดก็มาจากทีมปีศาจแดง วีแลนแทงทะลุช่องให้แรชฟอร์ด เขาแตะบอลหลบเบอร์โซซอฟสกี้ ก่อนที่นายทวารชาวโปแลนด์จะไปกวาดเขาล้มลงในกรอบเขตโทษจนโดนใบเหลือง และก็เป็นแรชฟอร์ดเองที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด
อดัมส์ซึ่งเล่นได้น่ากลัวได้ลองยิงเลียดถากเสาออกไปนิดเดียว แต่ทีมของวาร์เรนก็เกือบจะบวกประตูเพิ่มได้เช่นกัน ลูกครอสแฉลบมาเข้าศรีษะแรชฟอร์ด เขาโขกต่อไปให้กริบบินซัดหลุดกรอบ แรชฟอร์ดเองก็มาได้ยิงอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นประตู ซึ่งที่จริงจังหวะนี้เขาสามารถเลือกจ่ายให้กับโกเมสที่ยืนอยู่โล่งๆ ก็ได้ด้วย
การพลาดจังหวะดังกล่าวเกือบส่งผลร้ายต่อทีม เมื่อคริชโลว์ได้ยิงให้เบิร์นต้องเซฟในช่วงท้ายเกม แต่สุดท้ายก็เป็นทีมปีศาจแดงที่สามารถคว้าชัยชนะในบ้านไว้ได้ และจะไปเจอกับเชลซีในรอบต่อไป
รายชื่อผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบิร์น; วาร์เรน, วิลเลี่ยมส์, ทวนเซเบ้, แฮมิลตัน; สก็อตต์, โฟซู-เมนซาห์; วีแลน, กริบบิน, เคนยอน (โกเมส น.65); แรชฟอร์ด
สำรองไม่ได้ใช้งาน มูธา-เซ็บตาอุย, ดันน์, บูเน่น, แทนเนอร์