ผู้ชมในสนาม 27,426 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 19.45 น. วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2558
ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์
รีพอร์ต
ประตูจาก โบยาน เกร์กิช และ มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช เป็นการยัดเยียดความปราชัยในวันบ็อกซิ่ง เดย์ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นหมายความว่าทีมปีศาจแดงไม่พบกับชัยชนะมาแล้วถึง 7 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ
หลุยส์ ฟาน กัล ได้บอกเอาไว้ก่อนเกมที่บริตันเนีย สเตเดี้ยมว่ามันเป็นเกมที่ต้องชนะสถานเดียว แต่สุดท้ายทีมปีศาจแดงก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส อดีตศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาคุมทีมสโต๊ค ซิตี้เป็นฤดูกาลที่ 2 โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งมาก
เวย์น รูนี่ย์ เริ่มต้นเกมด้วยการนั่งเป็นตัวสำรอง หลังจากที่กุนซือชาวดัตช์ตัดสินใจใช้งาน อันเดร์ เอร์เรร่า แทนเขาด้วยเหตุผลทางด้านแท็คติค และก็เป็นนักเตะชาวสเปนที่ได้โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของเกม เป็นการยิงจากระยะ 20 หลาไปติดเซฟ แจ็ค บัตแลนด์
ท่ามกลางสภาพลมแรง ทำให้มีปัญหาเล็กน้อยในจังหวะเล่นลูกเตะมุม แต่ก็ไม่มีข้ออ้างในเรื่องนี้สำหรับจังหวะขึ้นนำของสโต๊ค ซิตี้ ในนาทีที่ 19 เมมฟิส เดปาย กำลังบังบอลที่กระดอนอยู่ตรงหน้า เขาพยายามที่จะโหม่งคืนให้กับ ดาบิด เด เคอา แต่กลับกลายเป็นว่าบอลขาดน้ำหนัก ทำให้ เกล็น จอห์นสัน ฉกไปจ่ายให้โบยานแปโล่งๆ ในกรอบเขตโทษเข้าประตูไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโดนยิงทิ้งห่างไปอีกใน 7 นาทีต่อมา แต่คราวนี้ทีมปีศาจแดงแทบทำอะไรได้ไม่มากเลยในการตั้งรับ ลูกฟรีคิกของโบยานไปชนกำแพงกระดอนไปเข้าทางอาร์เนาโตวิช เขาสับไกยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษพุ่งผ่านมือเด เคอาเข้าไปอย่างสุดสวย นักเตะชาวออสเตรียรายนี้ถือเป็นตัวอันตรายที่สุดของเจ้าถิ่นในครึ่งแรก และเขาก็น่าจะยิงเพิ่มได้อีกในนาทีที่ 35 ซึ่งบอลก็ถากเสาออกไป และนั่นก็คือโอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายของครึ่งเวลา แม้ว่าช่วงท้ายๆ ทีมเยือนในชุดสีดำจะได้โต้ตอบบ้างเล็กน้อยก็ตาม
ฟาน กัลส่งเอารูนี่ย์ลงมาเล่นแทนเมมฟิสในครึ่งหลัง และกัปตันก็ช่วยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้มีชีวิตชีวามากขึ้นในช่วงต้นครึ่งหลัง นักเตะวัย 30 ปีพยายามทุ่มเทอย่างหนักเพื่อพาทีมกลับมาให้ได้ แต่โอกาสลุ้นทำประตูก็ยังหาได้ยาก จนกระทั่งเกมผ่านมาครบชั่วโมง
โอกาสครั้งแรกของครึ่งหลังถูกสร้างสรรค์โดยรูนี่ย์ เขาเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่น 2 คนในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายให้ มารูยาน เฟลไลนี่ แต่นักเตะชาวเบลเยียมกลับยิงจ่อๆ ไปติดเซฟบัตแลนด์ ซึ่งนายทวารทีมชาติอังกฤษรายนี้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจมาตลอดฤดูกาล
เอริค ปิเอเตอร์ส ซึ่งเพิ่งจะต่อสัญญาระยะยาวออกไปในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์มายิงฟรีคิก 40 หลาข้ามคานออกไปในนาทีที่ 76 ถึงตรงนี้เจ้าถิ่นเองก็กำลังมองหาประตูที่ 3 อยู่ด้วยเช่นกัน โบยานได้บังคับให้เด เคอาต้องออกแรงเซฟหลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่อดีตศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่าง มาเม่ บิราม ดิยุฟ ก็สร้างปัญหาให้กับทีมปีศาจแดงได้เช่นกัน และตัวสำรองอีกคนอย่าง ชาร์ลี อดัม ก็มาได้ลองยิงไกล 2 ครั้ง
ฟาน กัลทำการเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 83 ส่งเอา อันเดรียส เปเรร่า ลงมาเล่นแทนเอร์เรร่า และนักเตะชาวบราซิลก็โดนจดชื่อไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นหลังสัมผัสผืนหญ้า ก่อนที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล และ ฮวน มาต้า จะได้ยิงให้บัตแลนด์ต้องเซฟ ทีมปีศาจแดงพยายามเต็มที่ในการยิงประตู แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้เลย สุดท้ายก็กลายเป็นความพ่ายแพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 4 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนต็ดในเดือนนี้ และเกมหน้าที่จะต้องเจอกับเชลซีก็กลายเป็นเกมที่มีความสำคัญยิ่งยวด
สถิติ
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| สโต๊ค ซิตี้ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| โบยาน เกร์กิช น.19 มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช น.26 |
| สถิติ | |
| สโต๊ค ซิตี้ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
| 13(3) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 11(6) |
| 13 | ฟาวล์ | 16 |
| 1 | เตะมุม | 12 |
| 3 | ล้ำหน้า | 1 |
| 1 | ใบเหลือง | 2 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 42% | การครองบอล | 58% |
