นี่คือ 5 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3 - 3 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา...
อย่างน้อยก็ไม่ต้องง่วงแล้วเวลาดูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลุยส์ ฟาน กัล ยอมรับว่าแม้แต่เขาก็ยังรู้สึกเบื่อกับการชมเกมที่ข้างสนามเลย แต่กับผลงานที่เซนต์ เจมส์ พาร์คแล้ว มันเป็นการเปิดเกมรุกที่สนุกตื่นเต้น โดยเฉพาะการเข้าทำของทีมปีศาจแดงในประตูที่ 2 ซึ่ง อันเดร์ เอร์เรร่า จ่ายบอลทะลุช่องให้ เวย์น รูนี่ย์ ส่งต่อให้ เจสซี่ ลินการ์ด ยิงเข้าไป นอกจากนี้ลูกยิงของรูนี่ย์ในประตูที่ 3 ก็ยังสวยงามอีกด้วย
ไมค์ ดีน เป่าจุดโทษได้ถูกต้องแล้วหรือเปล่า?
ดูเหมือนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะได้ของขวัญจาก ไมค์ ดีน ที่เป่าให้จุดโทษในนาทีที่ 8 ทั้งที่ในจังหวะนั้นไม่มีผู้เล่นของทีมปีศาจแดงแม้แต่คนเดียวที่ร้องเอาจุดโทษ จากลูกเตะมุมของ แอชลี่ย์ ยัง ที่เปิดให้ มารูยาน เฟลไลนี่ โขกต่อไปโดนแขน แชนเซล เอ็มเบ็มบา ซึ่งดีนก็ถือว่าทำถูกต้องแล้วที่ชี้เป็นจุดโทษ ก่อนที่รูนี่ย์จะยิงเข้าไป ขณะที่อีกฝั่งของสนาม ในจังหวะที่นิวคาสเซิลได้จุดโทษ ก็ถือว่าดีนตัดสินถูกต้องแล้วเช่นเดียวกัน
เจสซี่ ลินการ์ด กลายเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นักเตะทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และเขาก็ทำประตูได้จากการวิ่งเติมขึ้นหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะซัดลอดขาผู้รักษาประตูนิวคาสเซิลเข้าไปอย่างเฉียบคม อย่างไรก็ตาม เขาเองก็พลาดง่ายๆ เช่นกันในนาทีที่ 56 ซึ่งยิงปั่นโค้งข้ามคานออกไป จึงกล่าวได้ว่าเกมนี้ เจสซี่ ลินการ์ด เป็นตัวที่สามารถชี้ชะตาของทีมได้เลยทีเดียว
นิวคาสเซิลสิ้นสุดการรอคอย 7 ชั่วโมง 34 นาที ในการยิงประตู
ก่อนหน้านี้การยิงประตูคือสิ่งที่ทีมของ สตีฟ แม็คลาเรน กำลังวิตกกังวล แต่มาในเกมนี้พวกเขาก็สามารถทำประตูได้ถึง 3 ลูก นี่คือสิ่งที่ทีมแม็กพายส์ต้องการพิสูจน์ว่ามันคือสิ่งที่พวกเขากำลังขาดหายหรือเปล่าก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดตัวลง
ถ้านิวคาสเซิลเล่นได้แบบนี้จะไม่ตกชั้นแน่นอน
ที่ผ่านมาอาจมีเกมที่พวกเขาเล่นได้ดีแต่ไม่มีคะแนน แต่สำหรับเกมนี้พวกเขาสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคะแนนติดไม้ติดมือไป ขณะที่้เกมเหย้าถัดไปที่จะเจอกับเวสต์ แฮม ยูไนเต็ดนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องเก็บชัยชนะ เพื่อเป็นสัญญาณที่ดีว่าทีมมีสิทธิ์ที่จะอยู่รอดในพรีเมียร์ ลีกต่อไปในฤดูกาลหน้า
