ผู้ชมในสนาม 75,180 คน
รายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
เวลา 03.05 น. วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2559
ผู้ตัดสิน
รีพอร์ต
ความหวังยูโรปา ลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นอันต้องจบลง หลังจากทำได้แค่เสมอ 1 - 1 ในเลกสองกับลิเวอร์พูล ทำให้ทีมเยือนผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3 - 1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นเกมได้ดี จนได้ประตูขึ้นนำ 1 - 0 จากลูกจุดโทษของ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล แต่ทีมปีศาจแดงก็โดนตอบโต้ก่อนจบครึ่งแรกจากลูกชิพของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ต้องยุติเส้นทางในเวทียุโรปลงแค่ตรงนี้
เจ้าถิ่นซึ่งได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดได้เปิดเกมบุกจากการประสานงานกันของ เจสซี่ ลินการ์ด, ฮวน มาต้า และมาร์กซิอัล โดยหวังทวงประตูคืนให้ได้เร็วที่สุดจากสกอร์ตามหลังจากเกมแรก 0 - 2
ขณะเดียวกัน ดาบิด เด เคอา ซึ่งงานชุกจากเกมแรกก็ต้องออกแรงเซฟลูกยิงเลียดพื้นของคูตินโญ่เช่นกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะในกรอบเขตโทษของมาร์กซิอัลที่ถูก นาธาเนียล ไคลน์ สกัดอย่างไม่ระวัดระวังล้มลง และศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษส่งให้ ซิมง มิโญเล่ต์ พุ่งผิดทางเข้าไปให้ทีมปีศาจแดงเริ่มมีความหวัง
ประตูนี้ทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มเปิดเกมบุกมากขึ้น และก็มาได้โอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา ซึ่งเขาซัดไปชนคานเต็มๆ ก่อนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะพลาดโอกาสในสถานการณ์ดวลหนึ่งต่อหนึ่ง
แต่สุดท้าย หลังจากที่ทีมปีศาจแดงพลาดโอกาสจาก มาร์กอส โรโฮ ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มาตีเสมอได้สำเร็จ คูตินโญ่ลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เขาแตะผ่าน กิเยร์โม่ บาเรล่า ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะชิพข้ามตัวเด เคอาที่มุมแคบเข้าไป ทำให้ลิเวอร์พูลทิ้งห่างในสกอร์รวมเป็น 3-1
ครึ่งหลังเริ่มต้นในแบบเดียวกับครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายที่ได้ครองบอลมากกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้โอกาสครั้งแรกในครึ่งหลัง โดยยิงถากเสาของมิโญเล่ต์ออกไป ก่อนที่ มารูยาน เฟลไลนี่ จะได้โขกไปตรงตัวผู้รักษาประตูหงส์แดง
ลิเวอร์พูลเองก็ได้ลุ้นเช่นกันจากสเตอร์ริดจ์ แต่ศูนย์หน้ารายนี้ก็ยิงจ่อๆ หลุดกรอบออกไป จากนั้นโอกาสลุ้นประตูครั้งต่อมาก็ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบ้าง แต่ทั้งมาร์กซิอัลกับเฟลไลนี่ก็ซัดข้ามคานออกไปทั้งคู่ แฟนบอลเจ้าถิ่นยังคงส่งเสียงเชียร์ทีมปีศาจแดงไม่หยุด แต่ทีมเยือนก็ยังคงรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้
คูตินโญ่เกือบที่จะยิงเพิ่มให้กับลิเวอร์พูลได้ เมื่อเขายิงจ่อๆ ไปตรงตัวเด เคอา ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ดวลกันอีกครั้งในลูกกลางอากาศ และนายประตูมือหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ปัดลูกยิงของนักเตะชาวบราซิลข้ามคานออกไปได้
ทีมเยือนยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่ลูกทีมของฟาน กัล และก็เกือบมาได้ประตูชัยในเกมนี้จากจังหวะฟรีคิกของคูตินโย่ รวมถึงลูกยิงจาก ดิวอค โอริกี้ อีก 2 ครั้ง แต่เด เคอาก็ยังรับมือเอาไว้ได้ไม่ยากนัก ลินการ์ดมาร้องเอาจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เนื่องจากมองว่า เจมส์ มิลเนอร์ ทำแฮนด์บอล แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็กลายเป็นค่ำคืนที่น่าผิดหวังสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ลิเวอร์พูล |
| อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล จุดโทษ น.32 | ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.45 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ลิเวอร์พูล |
| 17(3) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 13(7) |
| 14 | ฟาวล์ | 11 |
| 5 | เตะมุม | 3 |
| 0 | ล้ำหน้า | 4 |
| 3 | ใบเหลือง | 3 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 59% | การครองบอล | 41% |
