ผู้ชมในสนาม 75,341 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 22.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2559
ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์
รีพอร์ต
อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ทำประตูที่ 1,000 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในยุคพรีเมียร์ ลีก พาทีมคว้าชัยชนะ 1-0 เหนือเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นวันสุดพิเศษที่มีการเปิดตัวอัฒจันทร์ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
มาร์กซิอัลทำประตูดังกล่าวได้ใน 7 นาทีแรกของครึ่งหลัง เมื่อเขาแปจากการครอสเลียดพื้นมาให้ของ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ ทำให้ทีมปีศาจแดงแซงหน้าเวสต์ แฮม ยูไนเต็ดขึ้นสู่อันดับ 5 ของตาราง
หลุยส์ ฟาน กัล ใช้ตัวผู้เล่นชุดเดียวกับที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ก่อนพักเบรคเกมทีมชาติ แต่มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นสำรอง 2 ตำแหน่ง อันเดร์ เอร์เรร่า กับ แอชลี่ย์ ยัง ถูกใส่ชื่อเข้ามาแทน แอดนาน ยานูซาย และนักเตะรายล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บอย่าง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
บรรยากาศก่อนเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเต็มไปด้วยความพิเศษ แฟนๆ ที่อัฒจันทร์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สแตนด์ ต่างก็พร้อมใจกันแปรอักษรเป็นคำว่า Sir Bobby อย่างสุดยิ่งใหญ่ ในวาระที่อัฒจันทร์เซาธ์ สแตนด์ถูกเปลี่ยนชื่อตามตำนานของสโมสรผู้นี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี นับตั้งแต่ที่เขาประเดิมสนามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
บรรยากาศสุดพิเศษก็นำมาซึ่งฟอร์มการเล่นสุดพิเศษด้วยเช่นกัน มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำผลงานได้อย่างหวือหวาเหมือนในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ที่ผ่านมา เขาจ่ายบอลตอกส้นจากลูกครอสมาให้ของ มาร์กอส โรโฮ ไปเข้าทางมาร์กซิอัล ซึ่งพลาดเข้าถึงบอลไปนิดเดียว ขณะที่ในแนวรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ต้องรับมือกับ เชราร์ด เดวโลเฟว ซึ่งเล่นได้อย่างอันตรายทางกราบขวาของทีมทอฟฟี่ แต่โรโฮก็ทำได้ดีในการหยุดยั้งนักเตะสเปนรายนี้
โอกาสลุ้นแบบจริงจังครั้งแรกของเกมเกิดขึ้นจากมาร์กซิอัลในนาทีที่ 17 เมื่อเขาวอลเล่ย์ถากเสาประตูของ โจเอล โรเบิลส์ ออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น หลังจากที่ทำชิ่งหนึ่ง-สองมากับ เจสซี่ ลินการ์ด ขณะที่อีกฝั่งของสนาม โรเมลู ลูกากู ซึ่งเงียบมาตลอดจากการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นของ คริส สมอลลิ่ง และ ดาลี่ย์ บลินด์ ก็มาได้ลองยิงเป็นครั้งแรก แต่ว่า ดาบิด เด เคอา ก็มาจัดการเอาไว้ได้ก่อนที่ดาวยิงชาวเบลเยียมจะได้ซ้ำจากบอลที่ทะลักมาเข้าทาง
ลูกตอกส้นครั้งที่ 2 ของแรชฟอร์ดเกือบทำให้มาร์กซิอัลได้หลุดไปยิงก่อนจบครึ่งแรก แต่ว่า จอห์น สโตนส์ ก็เข้ามาสกัดเอาไว้ได้ก่อน ทำให้ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสหมดโอกาสที่จะพาบอลขึ้นไปถึงหน้าปากประตู
เอฟเวอร์ตันซึ่งเล่นเกมเยือนได้ดีในฤดูกาลนี้ โดยมีสถิติแพ้นอกบ้านแค่เกมเดียวก่อนเกม เป็นฝ่ายเริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีกว่า เดวโลเฟวพยายามที่จะเล่นงาน มัตเตโอ ดาร์เมียน ซึ่งโยกมาเล่นแบ็คซ้าย หลังจากที่โฟซู-เมนซาห์ถูกส่งลงมาแทนโรโฮช่วงพักครึ่ง
ลูกากูกำลังเล่นได้เข้าฟอร์ม โดยมีสถิติยิง 6 ประตู จากการลงสนาม 7 เกมหลังสุดให้กับเอฟเวอร์ตันรวมทุกรายการ และเขาก็เกือบที่จะบวกสถิติเพิ่มได้อีกเมื่อเขาพลิกหลบบลินด์ได้ในกรอบเขตโทษ แต่นักเตะดัตช์ก็ยังไวพอที่จะบล็อคให้ลูกยิงของศูนย์หน้าเอฟเวอร์ตันแฉลบออกหลังไป
เจมส์ แมคคาร์ธี่ย์ พยายามร้องเอาจุดโทษเมื่อเขายิงไปติดบล็อคสมอลลิ่ง ก่อนที่การขึ้นเกมอย่างสุดสวยของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะนำมาซึ่งประตู โฟซู-เมนซาห์ได้บอลจากการไขว้มาให้ของแรชฟอร์ด เขาครอสเลียดพื้นไปที่เสาไกล และมาร์กซิอัลที่อยู่ตรงนั้นก็จัดการแปโล่งๆ เข้าไปเป็นประตูเกมเหย้าที่ 1,000 ในพรีเมียร์ ลีกสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินพยายามที่จะตอบโต้คืนทันควัน แต่ก็ถือว่าโชคดีสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อลูกโขกจากจังหวะเตะมุมของ ฟิล จากิลก้า ไปชนคานกระดอนออกมาเต็มๆ
ประตูขึ้นนำของทีมปีศาจแดงทำให้เกมมีชีวิตชีวามากกขึ้น ฮวน มาต้า ได้จ่ายบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่แรชฟอร์ดก็เข้าไม่ถึง ก่อนที่ความพยายามทำประตูของสมอลลิ่งจะถูกบล็อค ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังไม่ได้ประตูที่ 2 ขณะที่อีกฝั่งของสนาม เด เคอาซึ่งเป็นฮีโร่ในโปรแกรมเดียวกันนี้เมื่อฤดูกาลก่อนได้โชว์ปฏิกิริยาปัดป้องลูกยิงของจากิลก้าที่ยิงจ่อๆ จากจังหวะเตะมุม
ช่วงท้ายเกม เอฟเวอร์ตันขึ้นเกมหวังทำประตูตีเสมอ โฟซู-เมนซาห์ต้องสกัดลูกยิงของ ซีมุส โคลแมน พ้นอันตราย สุดท้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ ทำให้เป้าหมายจบท็อป 4 ยังมีความหวังอยู่
สถิติ
|
|
ผู้ทำประตู | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เอฟเวอร์ตัน |
อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล น.54 |
สถิติ | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เอฟเวอร์ตัน |
10(2) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 7(1) |
15 | ฟาวล์ | 6 |
5 | เตะมุม | 5 |
2 | ล้ำหน้า | 3 |
2 | ใบเหลือง | 0 |
0 | ใบแดง | 0 |
54% | การครองบอล | 46% |