ผู้ชมในสนาม 58,179 คน
รายการ ยูโรป้า ลีก
เวลา 02.05 น. วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2559
ผู้ตัดสิน โอเรล กรีนฟีลด์

รีพอร์ต
ประตูในครึ่งหลังของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เพียงพอที่จะช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าชัยชนะครั้งสำคัญในยูโรปา ลีก เหนือซอร์ย่า ลูฮันส์ก ในค่ำคืนวันพฤหัสบดี
ทีมปีศาจแดงต่างก็อดทนรอคอยอยู่นาน แต่ก็มาได้จังหวะสำคัญในขณะที่เกมเหลือเวลาอีก 20 นาที เมื่อศูนย์หน้าชาวสวีดิชโขกที่เสาไกลเข้าประตูไป
โชเซ่ มูรินโญ่ เน้นย้ำถึงความสำคัญของเกมนี้ในการให้สัมภาษณ์ก่อนเกม และเขาก็จัดทัพตามที่พูดเอาไว้ โดยมีทั้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ปอล ป็อกบา, ฮวน มาต้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กำลังเล่นได้เข้าฟอร์ม ลงเป็นตัวจริง
หลังจากเปิดโรงละครแห่งความฝันถล่มเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้กันมาได้ ทีมปีศาจแดงก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่กลายเป็น เซลโก้ ลูเบโนวิช ของซอร์ย่าที่ได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อนในนาทีที่ 5 ซึ่งก็ไปติดบล็อค เอริค ไบญี่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองเกมได้ตลอดหลังจากนั้น แต่กว่าที่โอกาสแรกของลูกทีมของมูรินโญ่จะมาถึงก็ต้องรอถึงนาทีที่ 20 เมื่อลูกยิงแฉลบบริเวณกรอบเขตโทษของอิบราฮิโมวิชกระดอนข้ามคานออกไปนิดเดียว
ถือเป็นการทำให้ทีมปีศาจแดงมีแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้น และประตูขึ้นนำก็น่าจะมาถึงสุดๆ เมื่อป็อกบาจับบอลจากลูกเตะมุมของมาต้ามาเข้าทางแรชฟอร์ดที่ยิงวอลเล่ย์เต็มข้อ แต่บอลก็ไปชนคานล่างเต็มๆ กระดอนออกมา
หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็หาโอกาสเข้าทำกันไม่ค่อยได้ จนกระทั่งนาทีที่ 38 ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ กระชากบอลไปถึงพื้นที่อันตรายของซอร์ย่า ก่อนจะจ่ายให้ป็อกบาครอสเข้ากลาง แต่มาต้าก็ไม่สามารถควบคุมลูกโหม่งของเขาให้ตรงกรอบได้
5 นาทีก่อนหมดเวลา ทีมปีศาจแดงมาได้โอกาสอีก 2 ครั้ง ราฟาเอล ฟอร์สเตอร์ กองหลังซอร์ย่าเกือบทำบอลเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ มารูยาน เฟลไลนี่ จะได้โหม่งกดลงพื้นเด้งข้ามคานออกไป และ 45 นาทีแรกก็จบลงไปโดยที่สกอร์ยังคงเท่ากัน
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นแบบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก ทีมจากยูเครนพยายามเล่นงานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจากจังหวะสวนกลับ ลูเบโนวิชได้ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ แต่สุดท้ายมิดฟิลด์ทีมเยือนก็ไม่สามารถเข้าถึงบอลในจังหวะสุดท้ายได้ จากนั้นก็เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้ครองบอลฝ่ายเดียว แต่ก็ยังหาโอกาสเข้าทำถนัดๆ ไม่ได้เลย
ลูกยิงตรงกรอบครั้งแรกของเกมเกิดขึ้นหลังจากเกมครบชั่วโมงไม่นาน ตัวสำรองทีมเยือน เปาลินโญ่ ได้ยิงปั่นโค้งให้ เซร์คิโอ โรเมโร่ ต้องออกแรงพุ่งเซฟ ก่อนที่มูรินโญ่จะทำการเปลี่ยนตัวส่งเอา เวย์น รูนี่ย์ ลงสนาม
ไม่นานนักหลังจากที่เขาเปลี่ยนตัวลงมา กัปตันทีมปีศาจแดงก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ประตูขึ้นนำ เมื่อเขายิงไม่เต็มเท้ามาเข้าทางอิบราฮิโมวิชที่ยืนอยู่โล่งๆ ที่เสาไกลโขกจ่อๆ ไม่พลาดเข้าประตูไป ถือเป็นประตูที่ 6 ของซลาตันแล้ว นับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อช่วงซัมเมอร์ และก็ทำให้แฟนๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ดต่างก็ผ่อนคลายกันเป็นแถบ
หลังจากต้านทานทีมปีศาจแดงมาได้อย่างยาวนาน ดูเหมือนซอร์ย่าจะต้องพบกับความผิดหวังในที่สุด และพวกเขาก็เกือบโดนเพิ่มอีกลูกด้วยจากการวอลเล่ย์ข้ามคานของเฟลไลนี่ โอกาสสุดท้ายของเกมตกเป็นของทีมเยือนจากคาราวาเยฟ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือโรเมโร่ จบเกมจึงเป็นเจ้าถิ่นที่คว้าชัยชนะครั้งสำคัญไปได้
สถิติ
|
|
ผู้ทำประตู | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ซอร์ย่า ลูฮันส์ก |
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น.69 |
สถิติ | |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ซอร์ย่า ลูฮันส์ก |
15(2) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 8(1) |
11 | ฟาวล์ | 9 |
9 | เตะมุม | 4 |
0 | ล้ำหน้า | 1 |
1 | ใบเหลือง | 1 |
0 | ใบแดง | 0 |
72% | การครองบอล | 28% |