ผู้ชมในสนาม 52,769 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 02.00 น. วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2559
ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์

รีพอร์ต
โชเซ่ มูรินโญ่ ได้คุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจอกับคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูลครั้งแรก ซึ่งจบลงด้วยการเสมอแบบไร้สกอร์ที่แอนฟิลด์ ขณะที่ ดาบิด เด เคอา ได้โชว์ลูกเซฟระดับโลกถึง 2 ครั้งในเกมนี้
เกมในคืนวันจันทร์มีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากนักสำหรับทั้ง 2 ทีม โดยในครึ่งหลังซึ่งเกมมีชีวิตชีวาขึ้นมาก็เป็นเด เคอาที่ปฏิเสธจังหวะของ เอ็มเร่ ชาน และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ด้วยการปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยม
นี่คือเกมแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่แอนฟิลด์ นับตั้งแต่มีการปรับโฉมอัฒจันทร์ใหม่ ก่อนเกมเริ่มต้นได้มีการเปิดเพลงประจำสโมสร Youll Never Walk Alone ดังกระหึ่ม และเสียงเชียร์จากแฟนๆ เจ้าถิ่นก็กลายเป็นเสียงโวยตั้งแต่นาทีแรก เมื่อผู้ตัดสินไม่ได้จดชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากจังหวะทำฟาวล์ใส่ เจมส์ มิลเนอร์
ในเกมนี้ยังมีนักเตะหน้าใหม่หลายคนที่ได้ลงสนามในศึกดังกล่าว เช่น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งยังไม่เคยทำประตูหรือเอาชนะลิเวอร์พูลมาได้เลย จากการพบกันก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง เขามีโอกาสซัดฟรีคิกหลุดกรอบจากระยะไกลพอสมควร จากนั้นก็ได้ยิงแฉลบให้ ลอริส คาริอุส ต้องออกแรงเซฟ
เกมนี้มูรินโญ่ปรับทัพ 2 ตำแหน่ง โดยใส่ชื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ กับ แอชลี่ย์ ยัง ลงเป็นตัวจริง ขณะที่ ปอล ป็อกบา ถูกขยับไปเล่นในตำแหน่งนักเตะหมายเลข 10 ก่อนหน้านี้มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสเคยถูกไล่ออกที่แอนฟิลด์มาแล้ว ในเกมเอฟเอ ยูธ คัพ คราวนี้เขาได้รับอิสระในการเล่นมากขึ้น โดยแทบจะเรียกเป็นศูนย์หน้าแถวสองเลยก็ว่าได้
โอกาสที่ดีที่สุดในครึ่งแรกของลิเวอร์พูลมาจาก โรแบร์โต้ เฟร์มิโน่ เมื่อดาวเตะชาวบราซิลโขกไปตรงตัวเด เคอา ในนาทีที่ 30 ก่อนที่ทั้งคู่จะจบครึ่งแรกกันไปโดยยังทำอะไรไม่ได้ ขณะที่แฟนบอลเจ้าถิ่นมีเรื่องได้เฮกันเมื่อ เอริค ไบญี่ และยังมาถูกจดชื่อในช่วงท้ายครึ่งแรก
ครึ่งหลังทั้งคู่ยังคงต่อสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ ป็อกบาเอาชนะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ในนาทีที่ 54 ก่อนที่จะได้ครอสเข้าพื้นที่อันตรายให้อิบราฮิโมวิชได้โขกย้อนกลับมา แต่ก็เป็นคาริอุสที่เก็บบอลเอาไว้ได้ ชานซึ่งได้ลงเล่นแทน จอร์จินิโอ ไวนัลดุม ที่ได้รับบาดเจ็บมาลองยิงเลียดพื้น บังคับให้เด เคอาต้องพุ่งปัดด้วยมือเดียว
จากนั้นผู้รักษาประตูชาวสเปนก็ได้โชว์ลูกเซฟสวยๆ อีกครั้ง ทำให้เขายังรักษาคลีนชีทในนาทีที่ 70 คราวนี้เป็นการพุ่งปัดลูกยิงพุ่งโค้งของคูตินโญ่จากระยะ 30 หลา ทำเอาแฟนบอลเดอะ ค็อปถึงกับต้องปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมในครั้งนี้ของนักเตะหมายเลข 1 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับคนยิงที่ทำได้ดีแล้ว
เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งซัดประตูชัยจากเกมเยือนแอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลก่อนถูกส่งลงสนาม โดยเปลี่ยนตัวแทนแรชฟอร์ดในนาทีที่ 77 จากนั้นเฟลไลนี่ก็ได้โขกจากลูกเตะมุมของ ดาลี่ย์ บลินด์ หลุดกรอบออกไป ช่วงท้ายเกม อันโตนิโอ วาเลนเซีย พุ่งเสียบสกัดเฟร์มิโน่ในกรอบเขตโทษอย่างสมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้ศูนย์หน้าลิเวอร์พูลหมดสิทธิ์ง้างเท้ายิงในขณะที่เวลากำลังจะหมดลง
ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับที่ 7 ในพรีเมียร์ ลีก โดยมี 5 คะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 8 เกม ส่วนลิเวอร์พูลนั้นอยู่ที่อันดับ 4
สถิติ
|
|
ผู้ทำประตู | |
ลิเวอร์พูล | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
สถิติ | |
ลิเวอร์พูล | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
9(3) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 7(1) |
14 | ฟาวล์ | 20 |
3 | เตะมุม | 1 |
2 | ล้ำหน้า | 5 |
0 | ใบเหลือง | 4 |
0 | ใบแดง | 0 |
65% | การครองบอล | 35% |