rssผู้ชมในสนาม 75,264 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 19.30 น. วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2559
ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถูกปฏิเสธชัยชนะที่สมควรได้รับ หลังจากที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โขกท้ายเกมช่วยให้อาร์เซนอลบุกเสมอ 1-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ฮวน มาต้า ยิงให้ทีมปีศาจแดงขึ้นนำช่วงกลางครึ่งหลัง โดยเข้าถึงบอลอย่างถูกที่ถูกเวลาจากลูกจ่ายตัดหลังของ อันเดร์ เอร์เรร่า แต่ก็เป็นประตูในนาทีที่ 89 ของชิรูด์ที่ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ
ถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าพอใจสำหรับทีมเยือน หลังจากที่ถูกกดดันเป็นส่วนใหญ่จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็ต้องผิดหวังที่พลาดทำได้แค่เสมอในบ้านในลีกเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน
โชเซ่ มูรินโญ่ ปรับทัพ 4 ตำแหน่งจากเกมบุกชนะสวอนซี ซิตี้ ช่วงก่อนเบรคเกมทีมชาติ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล, อันเดร์ เอร์เรร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ มาร์คัส ราชฟอร์ด ได้ลงสนามแทนที่ แอชลี่ย์ ยัง, มารูยาน เฟลไลนี่, เวย์น รูนี่ย์ และนักเตะติดโทษแบนอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ก่อนเกม มูรินโญ่ย้ำว่าต้องการลดช่องว่างระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับอาร์เซนอลลงมาเหลือ 3 คะแนน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบมาก และมาต้าก็เกือบจะยิงให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม ด้วยลูกยิงฟรีคิกปั่นโค้งถากเสาไกลของ ปีเตอร์ เช็ค ออกไปนิดเดียวเท่านั้น ขณะที่อีกฝั่งสนาม อเล็กซิส ซานเชซ ก็โขกหลุดเสาไกลของ ดาบิด เด เคอา ออกหลังด้วยเช่นกัน
ประเด็นใหญ่ที่สุดของครึ่งแรกมาเกิดขึ้นเมื่อวาเลนเซียซึ่งลงสนามเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แขนหักจากเกมอีเอฟแอล คัพ ที่คว้าชัยเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหมือนจะถูกปะทะล้มลงในกรอบเขตโทษโดย นาโช่ มอนเรียล แต่ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ ก็โบกมือปฏิเสธการประท้วงของผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จากนั้น มาต้าก็เกือบจะยิงให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำอย่างที่สมควรจะได้ แต่ลูกยิงเลียดพื้นของเขาก็ถูกปัดได้โดยเช็ค ก่อนที่ผู้รักษาประตูอาร์เซนอลจะมาเซฟติดๆ กันอีกจากจังหวะของมาร์กซิอัล
ครึ่งหลังยังคงเป็นทีมปีศาจแดงที่ทำเกมได้ดีกว่าในแดนหน้า ราชฟอร์ดซึ่งยิงคนเดียว 2 ลูกในการประเดิมสนามในลีกที่เอาชนะอาร์เซนอล 3-2 เมื่อฤดูกาลก่อนคอยจับจ้องหาจังหวะเล่นงานแนวรับทีมปืนใหญ่เมื่อมีโอกาส
ทีมปีศาจแดงเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง โดยมาได้ลูกเตะมุมหลายครั้ง แต่ก็ยังสร้างความหนักใจให้กับเช็คไม่ได้จนกระทั่งมาขึ้นนำอย่างสมควรที่สุดในนาทีที่ 69
ปอล ป็อกบา เล่นกับเอร์เรร่าทางฝั่งขวา ก่อนที่รายหลังจะจ่ายบอลตัดหลังอย่างเหมาะเจาะมาให้กับมาต้า ซึ่งยิงเลียดจังหวะเดียวผ่านมือเช็คเข้าประตูไป
มาร์กอส โรโฮ เกือบบวกเพิ่มให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อีกใน 10 นาทีถัดมา แต่ลูกโขกของเขาจากการครอสมาให้ของ ดาลี่ย์ บลินด์ ตัวสำรองก็หลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น
สุดท้ายกลายเป็นว่าทีมเยือนมาตีเสมอได้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กระชากบอลผ่านราชฟอร์ดทางกราบขวา ก่อนที่จะครอสมาให้ตัวสำรองอย่างชิรูด์ขึ้นโขกผ่านมือเด เคอาเข้าไป และนี่ยังเป็นครั้งแรกในเกมนี้ที่อาร์เซนอลยิงตรงกรอบอีกด้วย
ถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง แต่สำหรับมูรินโญ่ก็ยังคงยืดสถิติไม่แพ้ 14 เกมหลังรวมทุกรายการ ในการคุมทีมพบกับ อาร์แซน เวนเกอร์ อย่างน้อยก็เป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในเกมที่ทำผลงานในสนามได้อย่างน่าประทับใจ
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | อาร์เซนอล |
| ฮวน มาต้า น.68 | โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.89 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | อาร์เซนอล |
| 12(5) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 5(1) |
| 14 | ฟาวล์ | 11 |
| 10 | เตะมุม | 4 |
| 3 | ล้ำหน้า | 0 |
| 3 | ใบเหลือง | 3 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 45% | การครองบอล | 55% |
