rssผู้ชมในสนาม 75,313 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก
เวลา 23.30 น. วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2559
ผู้ตัดสิน จอน มอสส์
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเสมอในบ้านเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันในพรีเมียร์ ลีก เมื่อทีมเยือนอย่างเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด บุกมายันเสมอด้วยสกอร์ 1-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ดิอาฟรา ซาโก้ ยิงให้ทีมขุนค้อนขึ้นนำตั้งแต่ยังไม่ถึง 2 นาที จากการเปิดฟรีคิกมาให้ของ ดิมิทรี ปาเยต แต่ทีมปีศาจแดงก็ตอบโต้ได้เมื่อถึงครึ่งทางของครึ่งแรก ต้องขอบคุณลูกโหม่งของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ พยายามมองหาประตูชัย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเล่นงาน ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือนได้อีกเลย
มูรินโญ่ปรับทัพพอสมควรจะเกมกลางสัปดาห์ที่ชนะเฟเยนูร์ด โดยมีผู้เล่นสับเปลี่ยนกัน 6 ตำแหน่ง นักเตะอย่าง ดาบิด เด เคอา และ อันเดร์ เอร์เรร่า ได้กลับมาเล่นเป็นตัวจริง แต่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คือชื่อที่น่าเซอร์ไพรส์ที่สุดบนม้านั่งสำรองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่นักเตะชาวเยอรมันยังไม่เคยมีส่วนร่วมกับทีมปีศาจแดงเลยนับตั้งแต่เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทราบดีว่าหากคว้าชัยเกมนี้จะสามารถขู่ทีมขุนค้อนได้ ก่อนเกมที่ทั้งคู่จะเจอกันในอีเอฟแอล คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งจะเตะกันในคืนวันพุธ แต่เริ่มเกมมาก็กลายเป็นฝันร้ายสำหรับทีมปีศาจแดง เมื่อผู้มาเยือนขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 2
ก่อนเกมนี้ ปาเยตได้สร้างโอกาสทำประตูในลีกสูงที่สุดที่จำนวน 43 ครั้ง แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้น ทว่าครั้งนี้ตัวเลขก็ขยับเป็น 5 หลังจากลินการ์ดไปทำฟาวล์ปาเยต ลูกฟรีคิกของเขาก็มาเข้าทางซาโก้ ซึ่งเอาชนะอิบราฮิโมวิชพุ่งโขกผ่านมือเด เคอาเข้าไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้โอกาสที่จะตามตีเสมอ และก็ทำได้จากลูกหยอดขึ้นหน้าที่น้ำหนักพอดิบพอดีของ ปอล ป็อกบา บอลมาถึงอิบราฮิโมวิชที่ขวิดผ่านแรนดอล์ฟเข้าประตูไป
จากนั้นมูรินโญ่ก็ถูกไล่ขึ้นบนอัฒจันทร์ เมื่อเขาออกอาการโกรธเกรี้ยวที่ผู้ตัดสิน โจนาธาน มอสส์ จดชื่อป็อกบาข้อหาพุ่งล้ม แต่รูปเกมก็ยังคงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำก่อนจบครึ่ง
อิบราฮิโมวิชได้โขกชงมาเข้าทางลินการ์ดที่วอลเล่ย์ข้ามคานออกไป ก่อนที่ ฟิล โจนส์ จะโหม่งขึ้นหน้าให้ราชฟอร์ดหลุดเดี่ยว แต่ศูนย์หน้าดาวรุ่งรายนี้ก็ไม่สามารถเอาชนะแรนดอล์ฟได้
จากนั้นอิบราฮิโมวิชก็ได้ยิงไปติดบล็อคจากตำแหน่งที่ได้ลุ้น และแรนดอล์ฟก็ปฏิเสธทีมปีศาจแดงอีกครั้ง คราวนี้เป็นการพุ่งเซฟลูกยิงจากลินการ์ดที่ได้โอกาสจากการจ่ายทะลุช่องสุดสวยของมาต้า
เหมือนกับในครึ่งแรก ทีมขุนค้อนได้ลุ้นประตูต่อในช่วงต้นครึ่งหลัง ซาโก้ได้โขกจากลูกเตะมุมข้ามคานนิดเดียว ก่อนที่เด เคอาจะมาปัดลูกยิงฟรีคิกของปาเยตออกหลัง ซึ่งเป็นจังหวะที่ดาวเตะชาวฝรั่งเศสหลอกว่าจะเปิด แต่กลับตัดสินใจยิงเลยจากมุมแคบ
จังหวะของเกมเริ่มสนุกมากขึ้น มูรินโญ่เปลี่ยนตัวเอา 2 ผู้เล่นที่ได้ลงสนามในเกมชนะเฟเยนูร์ดอย่างรูนี่ย์กับมคิตาร์ยานลงสนาม และก็ใช้เวลาไม่นานสำหรับนักเตะจากอาร์เมเนียในการหาโอกาสยิง แต่บอลกลับไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย แม้ลินการ์ดจะตามซ้ำเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ แต่ก็ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน
ป็อกบาลองยิงไกลจากระยะ 25 หลา แต่ก็ยังคงไม่สามารถเอาชนะแรนดอล์ฟที่พุ่งปัดออกหลัง ก่อนที่จังหวะสวนกลับเร็วจะทำให้รูนี่ย์ได้บอลจากอิบราฮิโมวิช ก่อนตวัดยิงไปที่เสาไกล แต่ก็เป็นอีกครั้งที่จอมเซฟทีมขุนค้อนยังคงรับเอาไว้ได้
ลูกโขกคืนหลังที่เบาเกินไปของ เจมส์ คอลลินส์ ทำให้อิบราฮิโมวิชได้โอกาส แต่หลังจากที่เขาแตะหลบแรนดอล์ฟก็ไม่สามารถเอาชนะแนวรับของเวสต์ แฮม ยูไนเต็ดได้ ที่อีกฝั่งของสนาม แอชลี่ย์ เฟล็ตเชอร์ นักเตะจากอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกือบจะซัดประตูให้ทีมขุนค้อนขึ้นนำ แต่ยังดีที่เด เคอาออกมาบล็อคครั้งสำคัญเอาไว้ได้
ถือว่าทีมปีศาจแดงต้องเสมออย่างน่าผิดหวัง 4 เกมลีกติดต่อกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1980 แต่ก็ยังมีโอกาสที่ 2 ที่จะเอาชนะทีมขุนค้อนที่ตายยากนี้ได้ เมื่อพวกเขาจะบุกมาเยือนอีกครั้งในวันพุธ สำหรับเกมอีเอฟแอล คัพ
สถิติ
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ผู้ทำประตู | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด |
| ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น.21 | ดิอาฟรา ซาโก้ น.2 |
| สถิติ | |
| แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด |
| 17(8) | ยิงประตู(ยิงตรงกรอบ) | 6(2) |
| 16 | ฟาวล์ | 16 |
| 8 | เตะมุม | 4 |
| 4 | ล้ำหน้า | 2 |
| 3 | ใบเหลือง | 1 |
| 0 | ใบแดง | 0 |
| 68% | การครองบอล | 32% |
