รายการ เอฟเอ ยูธ คัพ รอบที่ 5
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
วัน อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549
ผู้ทำประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด แบรนดี้ น. 48, แคมป์เบลล์ น. 78
ผู้ทำประตูให้ชาร์ลตัน วอล์คเกอร์ น. 22
ปิศาจแดง เอาชนะชาร์ลตัน ด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฮึดสู้จากการโดนขึ้นนำไปก่อนด้วยผลงานการเล่นในครึ่งหลังที่น่าประทับใจจัดการส่งชาร์ลตัน ตกรอบไป โดยปิศาจแดง ได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ในศึกเอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อวันอังคาร
เฟเบียน แบรนดี้ และเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ คู่หูดาวยิงทำคนละประตูช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยจะเป็นทีมเยือนรอพบผู้ชนะระหว่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ชาร์ลตัน ทำเกมรุกได้อันตรายกว่าในช่วง 45 นาทีแรก และขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในครึ่งเวลาแรก แต่ปิศาจแดง รวมพลังกันทำเกมได้ดีขึ้นหลังจากช่วงพักครึ่งเวลา และพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้สำเร็จ
หากทั้ง 2 ทีมคาดหวังว่าจะได้พบกับสภาพที่หรูหราของสนามมาตรฐานระดับพรีเมียร์ชิพ พวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากฝนตกหนักและสภาพอากาศที่หนาวเหน็บไม่เป็นมิตรในเมืองแมนเชสเตอร์ ผนวกกับปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้วจากพื้นสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่เปียกแฉะและเต็มไปด้วยโคลน
ชาร์ลตัน ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เร็วกว่า และเปิดฉากบุกเข้าใส่ก่อนจากชิม่า โอเรลาย่า กองหน้าที่คล่องแคล่วพาบอลหลุดขึ้นไปทางกราบขวา อย่างไรก็ตาม เดวิด เกรย์ เข้าไปขัดขวางเอาไว้ได้ด้วยการเข้าสกัดในจังหวะสุดท้ายอย่างยอดเยี่ยม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีคู่หัวหอกความเร็วสูงทั้งเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ และเฟเบียน แบรนดี้ ไม่ต้องใช้เวลานานนักก็สร้างความกดดันให้กับชาร์ลตัน ได้ แคมป์เบลล์ ถูกหยุดยั้งเอาไว้ได้โดยการเบียดปะทะด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งบริเวณกรอบเขตโทษเท่านั้น และที่จริงแล้วเขาถูกขัดขวางซ้ำๆ อยู่โดยตลอดในช่วง 20 นาทีแรกของการแข่งขัน
ชาร์ลตัน ทำเกมรุกได้รวดเร็วและแม่นยำ ในขณะที่ดูเหมือนเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการครองบอลและส่งบอลกันบนพื้นตามสไตล์ถนัดที่ทำให้ปิศาจแดง ขึ้นไปอยู่ในอันดับสูงสุดของอคาเดมี่ พรีเมียร์ ลีก ในฝั่งท้องถิ่นของพวกเขา
ในที่สุด หลังจากเกมผ่านไปได้ 22 นาที ชาร์ลตัน ก็ทำประตูขึ้นนำจนได้จากการบุกโต้กลับเร็วอย่างไร้ความเมตตา เจมส์ วอล์คเกอร์ กระโดดขึ้นสูงกว่าเคร็ก แคธคาร์ท กองหลังของปิศาจแดง แล้วโหม่งบอลเต็มแรงผ่านมือรอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าประตูไป ทำให้ชาร์ลตัน ขึ้นนำไปก่อน 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1 ในช่วงพักครึ่ง แต่เปิดฉากครึ่งหลังมาได้เพียง 3 นาที พวกเขาก็ตามตีเสมอกลับคืนสู่เกมได้สำเร็จ แบรนดี้ กองหน้ารูปร่างเล็กแต่รวดเร็วและแคล่วคล่องว่องไวเข้าจู่โจมความผิดพลาดในเกมรับของคู่ต่อสู้ และพาบอลเลี้ยงเข้าหาประตูก่อนที่จะจิ้มบอลอย่างเยือกเย็นลอดขาโจ วูลี่ย์ ผู้รักษาประตูของชาร์ลตัน เข้าไปตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 48
ฌอน อีแวนส์ น่าจะทำประตูให้ปิศาจแดง ขึ้นนำได้เมื่อเขาได้หลุดทะลุไปหน้าประตูหลังจากเกมผ่านไปได้ 1 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อสำหรับกองเชียร์ที่เฝ้าดูอยู่ก็เกิดขึ้น ลูกยิงเท้าซ้ายด้วยข้างเท้าด้านนอกของเขากลับหลุดข้างเสาไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
ทีมของพอล แม็คกินเนสส์ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อเวลาในครึ่งหลังผ่านไปเรื่อยๆ เจมี่ มัลแลน ปีกขวาซึ่งครองบอลได้อย่างคล่องแคล่วและมีฝีเท้าจัดจ้านเปิดบอลจากฝั่งขวา อีแวนส์ หลอกว่าจะยิงแต่ไหลบอลไปให้กับแดนนี่ โรส ได้วอลเล่ย์ด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเรียดแต่ถูกวูลี่ย์ ป้องกันเอาไว้ได้
ก่อนหมดเวลา 12 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากความโชคดีอยู่ซักหน่อย แคมป์เบลล์ พลิกบอลได้ดีที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วยิงเต็มแรงด้วยเท้าซ้าย แฮร์รี่ อาร์เตอร์ กองกลางของชาร์ลตัน พุ่งเข้ามาบล็อก แต่บอลไปแฉลบขาของเขาลอยข้ามตัวผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูที่สร้างความประหลาดใจให้กับกองเชียร์ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่พวกเขาก็ฉลองให้กับประตูนี้อยู่ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 78
ชาร์ลตัน พยายามแก้เกมโดยเปลี่ยนตัวผู้เล่น 3 คนในช่วงท้ายเกมเพื่อทำประตูตีเสมอ แต่ปิศาจแดง ปิดเกมเอาไว้ได้จนหมดเวลาการแข่งขันไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะ 2-1 ได้ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป โดยจะรอพบผู้ชนะในเกมรอบที่ 5 ซึ่งแข่งขันในวันพุธ ระหว่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
รายชื่อผู้เล่น
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, เดวิด เกรย์, เคร็ก แคธคาร์ท, ไรอัน ชอว์ครอส, คีแรน ลี, เจมี่ มัลแลน, แดนนี่ โรส, ดาร์รอน กิ๊บสัน, ฌอน อีแวนส์ (แอรอน เบิร์นส์ น. 90), เฟเบียน แบรนดี้ (แซม ฮิวสัน น. 66), เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม เบน เอมอส (ผู้รักษาประตู), คริส ฟาแกน, โธมัส เคลเวอร์ลี่ย์
ชาร์ลตัน แอธเลติก วูลี่ย์, วิลสัน, เบซี่ย์, แทนส์กา, โธมัส, อาร์เตอร์, จอห์น, ยัสซัฟฟ์ (คาร์วิลล์ น. 86), วอล์คเกอร์, โอเรลาย่า (ซอดจ์ น. 84), เวสตัน (สปริง น. 84)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม ธอร์ป, เมอร์แทกจ์