เวลา 03.00 น. วันพุธที่ 26 มกราคม 2548
รายการ คาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ
ผู้ตัดสิน ร็อบ สไตล์ส
ผู้ชมในสนาม 67,000 คน
เริ่มเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าถิ่นก็เปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนทันที และรูปเกมของทีมปีศาจแดง ก็ทำได้ดีกว่า เชลซี ที่คอยตั้งรับและอาศัยจังหวะโต้กลับ
แต่จากความผิดพลาดของกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนาทีที่ 29 ทำให้เชลซี ยิงประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากลูกยิงของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผ่านมือผู้รักษาประตู ทิม โฮเวิร์ด เข้าไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามหาจังหวะและโอกาสทำประตูตีเสมอเชลซี ให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ และดูเหมือนว่า เชลซี จะเล่นสบายมากขึ้นหลังได้ประตูขึ้นนำ จบครึ่งแรก เชลซี ยังคงนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นฝ่ายได้ครองเกมมากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายก็โดนกองหลังของเชลซี สกัดเอาไว้ได้ตลอด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจถอดควินตัน ฟอร์จูน ออก และส่ง เวย์น รูนี่ย์ ลงมาเสริมในเกมรุก และมายิงประตูตีเสมอเชลซี ได้สำเร็จในนาทีที่ 67 จากลูกโยนของ แกรี่ เนวิลล์ เข้าไปในกรอบเขตโทษ ไรอัน กิ๊กส์ กระดกบอลข้ามหัวปีเตอร์ เช็ก เข้าไปอย่างสวยงามให้ปีศาจแดงตามมาเป็น 1-1
แต่แล้วในนาทีที่ 85 เชลซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงฟรีคิกของเดเมี่ยน ดัฟฟ์ ริมเส้นด้านขวา บอลลอยโด่งตกพื้นเด้งเข้าประตูไปแบบไม่น่าเชื่อ ทำให้เชลซีนำเป็น 2-1
ท้ายเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เติมเกมรุกอย่างหนักหวังทวงประตูคืน และมีโอกาสได้ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุมของไรอัน กิ๊กส์ โยนไปหน้าประตูให้ มิคาเอล ซิลแวสตร์ ขึ้นโหม่งเต็มๆ แต่โดนกองหลังฝ่ายเชลซี สกัดคาบเส้นออกมา
จากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสอีกครั้งจากลูกยิงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ปีเตอร์ เช็ก ใช้มือปัดออกไปได้แบบหวุดหวิด ทำให้จบเกม เชลซี บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิม โฮเวิร์ด 1, แกรี่ เนวิลล์ 2, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5, มิคาเอล ซิลแวสตร์ 27, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7, รอย คีน 16 (


สำรอง ริคาร์โด้ โลเปซ 35, เวส บราวน์ 6, ฟิล เนวิลล์ 3, จอห์น โอเชีย 22, เวย์น รูนี่ย์ 8


เชลซี ปีเตอร์ เช็ก 1, เปาโล แฟร์ไรร่า 20, วิลเลี่ยม กัลลาส 13, จอห์น เทอร์รี่ 26, เวย์น บริดจ์ 18, โคล้ด มาเกเลเล่ 4 (



สำรอง คาร์โล คูดิชินี่ 23, โรเบิร์ต ฮูธ 29, โจ โคล 10





