
เดฟ เซ็กซ์ตัน เกิดที่เมือง อีสลิงตัน, ลอนดอน ในเดือนเมษายนปี 1930 เขาก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลด้วยการเป็นนักฟุตบอลให้กับทีมนอกลีกอย่าง นิวมาร์เก็ต แล้วก็ย้ายไปเล่นให้กับ เชิล์มสฟอร์ด ซิตี้ ก่อนที่จะเข้ามาเล่นในลีกของอังกฤษกับทีม ลูตัน ทาวน์
ในปี 1952 เขาย้ายไปร่วมทีม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด และลงเล่นให้กับทีม 77 นัด ยิงได้ 26 ประตู แล้วก็ย้ายทีมอีกหลายครั้งไปยัง เลย์ตัน โอเรียนท์, ไบรซ์ตันฯ และคริสตัล พาเลซ แต่แล้วเขาก็ต้องยุติอาชีพค้าแข้งของเขาไว้ด้วยวัยเพียง 30 ปี เนื่องจากอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าในปี 1960 อย่างไรก็ดี การเล่นฟุตบอลกลับไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเขา แต่การได้เป็นผู้จัดการทีมและโค้ชทีมฟุตบอลต่างหากที่เขามีพรสวรรค์อย่างแท้จริง
การคุมทีมครั้งแรกของเขาเริ่มต้นที่ทีมเก่าอย่าง เลย์ตัน โอเรียนท์ และในเดือนตุลาคมปี 1967 เขาก็ย้ายไปคุมทีมเชลซี และที่นั่นเอง เซ็กซ์ตัน ก็มีความสุขกับการคุมทีมเป็นที่สุด เมื่อเขานำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1970 และในปีต่อมาก็สามารถนำถ้วยยุโรปเข้าสู่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้หลังจากคว้าแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ได้ในปี 1971 แต่เพียงไม่นานโชคชะตาก็กลับพลิกผัน เมื่อสโมสรมีการลงทุนเพื่อขยายความจุของสนาม และนั่นก็มีค่าใช้จ่ายมหาศาลและทำให้สโมสรเชลซี เกือบที่จะล้มละลาย ส่งผลต่อการเลือกชื้อและขาย นักเตะของเขาด้วย
เซ็กซ์ตัน ต้องขายนักเตะตัวสำคัญของทีมไปหลายต่อหลายคน เช่นออสกู้ด และ ฮัดสัน และแล้วในเดือนตุลาคมปี 1974 เขาก็ถูกไล่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีม เชลซี
เพียง 13 วันหลังจากตกงาน เขาก็ได้รับการติดต่อจาก ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ให้เข้ารับหน้าที่ผู้จัดการทีม และเขาก็สามารถพาทีมเข้าสู่ ลีก แชมเปี้ยนชิพ ได้ อีกทั้งในปี 1976 เขายังนำทีมประสบความสำเร็จและเกือบคว้าแชมป์ลีกได้ โดยมีคะแนนน้อยกว่าทีมแชมป์อย่างลิเวอร์พูล เพียง 1 แต้มเท่านั้น ซึ่งการนำทีมคว้าอันดับ 2 ในลีกสูงสุดของอังกฤษ ครั้งนั้น ยังคงเป็นสถิติสูงสุดที่สโมสร ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ทำได้จนถึงทุกวันนี้
ในช่วงปิดฤดูกาลปี 1997 มีข่าวลืออย่างหนาหูว่า เซ็กซ์ตัน ได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจจาก อาร์เซนอล และหลายคนก็คิดว่า เซ็กซ์ตัน คงจะย้ายไปยัง ไฮบิวรี่ แล้วแน่ๆ แต่อย่างไรก็ดีในขณะนี้เป็นเวลาเดียวกันที่ ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้ ถูกปลดออกจากผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแล้ว เซ็กซ์ตัน ก็ตัดสินใจย้ายมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนกรกฎาคม ปี 1977 และเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 13 ของสโมสร
เซ็กซ์ตัน อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ถึง 4 ปี แต่ในช่วงนั้น เขาก็ทำลายสถิติการซื้อตัวนักเตะของสโมสรถึง 4 ครั้ง โดยการซื้อตัว โจ จอร์แดน จากลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 388,888 ปอนด์, กอร์ดอน แม็คควีน จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 450,000 ปอนด์ , เรย์ วิลกิ้นส์ ด้วยค่าตัว 700,000 ปอนด์ และ แกร์รี่ เบอร์เติลส์ ด้วยค่าตัว 1.25 ล้านปอนด์
เดฟ เซ็กซ์ตัน นำทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในปี 1979 และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 ในดิวิชั่น 1 มีคะแนนตามทีมแชมป์อย่างลิเวอร์พูล เพียง 2 แต้ม ในฤดูกาล 1980/81 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เพียงอันดับที่ 8 ในตาราง, ตกรอบ 4 เอฟเอ คัพ, ตกรอบแรก ยูฟ่า คัพ และตกรอบสองลีก คัพ และแล้วในช่วงท้ายฤดูกาลแม้ว่าเขาจะพาทีมเก็บชัยชนะตลอด 7 นัดหลังสุด แต่เขาก็ถูกปลดจากการเป็นผู้จัดการทีม โดยบอร์ดบริหารก็ให้ความเห็นว่า ฟอร์มการเล่นของทีมตกต่ำลงมากเกินไป มากเกินกว่าระดับมาตรฐานที่ผู้ชมจะรับได้จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากถูกปลดออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาก็รับหน้าที่ผู้จัดการทีมให้กับโคเวนทรี ซิตี้ และในปี 1982 ก็เป็นโค้ชให้กับทีมชาติอังกฤษของ บ็อบบี้ ร็อบสัน ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเขาจะดูแลทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี
กับทีมชาติอังกฤษ เซ็กซ์ตัน ก็ได้ลิ้มรสความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อเขาพาทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนชิพ ในปี 1982 และ 1984 ในปี 1992/93 เขาก็เข้ารับหน้าที่โค้ชให้กับ แอสตัน วิลล่า พร้อมกับยังคงเป็นโค้ชให้กับทีมชาติอังกฤษ ชุดเล็กด้วย
ในตอนนี้ เดฟ เซ็กซ์ตัน ยังคงทำงานให้กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และแม้ว่าการทำงานกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สวยหรูนักสำหรับเขา แต่เขาก็สามารถนำความสำเร็จมาให้กับหลายๆ ทีมอย่าง เชลซี, ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมชาติอังกฤษ ด้วย