Tactical Theorems
เมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 09, 2009 23:44เอามาจากเว็บ www.cm-fmthai.com นะครับต้องขอขอบคุณด้วยนะครับสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่จะทำให้เด็กผีอย่างเราเป็นเซียนเกมนี้
พอดีว่างๆ เลยช่วยแปลนะครับ หวังคงจะมีประโยชน์กับหลายท่าน ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
แปลและเรียบเรียงจาก: คัมภีร์ทฤษฎีและกรอบแท็คติก 09 (Tactical Theorems and Frameworks 09) โดย Richard Claydon และ Gareth Millward
การเซ็ทระดับไลน์กองหลังที่ถูกต้องนั้นจะทำการป้องกันของทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งต่างที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้จัดการทีมว่าควรจะเซ็ท
ไลน์ยังไงกันดี?
รูปแบบการเล่น (บุก/ธรรมดา/รับ)
สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการเซ็ทไลน์กองหลังนั้นคือรูปแบบการเล่นว่าคุณจะเล่นเกมบุก หรือธรรมดา หรือรับ ไลน์กองหลังนั้นต้องสามารถเชื่อมต่อกับหรือไม่ห่างจากแผงกองกลางมากนัก เพราะไม่ยังงั้นกองหน้าของฝ่ายตรงข้ามก็จะพื้นที่ในการเล่นที่เป็นที่ว่างระหว่างกอง
กลางตัวที่อยู่ต่ำที่สุดกับกองหลังตัวกลาง ข้อเสียที่เกิดขึ้นนะครับ
1. ทีมเราก็จะมีโอกาสโดนลูกยิงไกลที่อันตรายเพราะกองหน้าของฝ่ายตรงข้ามมีเวลาและพื้นที
่ในการตั้งป้อมยิง
2. ฝ่ายเราต้องทำฟาวล์ในจังหวะอันตรายทำให้มีโอกาสโดนใบเหลือง/แดง และเสียฟรีคิกในระยะหวังผลของฝ่ายตรงข้าม
การป้องกันที่แข็งแกร่งหรือที่ดีนั้น จะต้องกองกลางที่มีหน้าที่รับอย่างน้อย 1 ตัว ทำหน้าที่ก่อกวนหรือทำลายเกมส์การบุกของฝ่ายตรงข้ามก่อนที่มันจะมาถึงไลน์กองหลัง
เพื่อมั่นใจว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ไลน์กองหลังนั้นจะต้องสัมพันธ์กับรูปแบบการเล่นของเรา
แผนการเล่นของฝ่ายตรงข้าม
เวลาจะเซ็ทไลน์กองหลังนั้นจะต้องดูแผนการเล่นของฝ่ายตรงข้ามด้วยว่าเป็นแบบไหน เป็นแผนการเล่นที่แคบหรือผสมผสาน ตัวอย่างเช่น 4-1-2-1-2ไม่มีปีก หรือ 4-3-1-2ไม่มีปีก ซึ่งแผนพวกนั้จะเน้นโอกาสไปที่พวก AMC เพราะฉะนั้นเราควรจะปรับไลน์กองหลังให้สูงขึ้นหน่อยเพื่อลดพื้นที่ในการเล่นและการทำ
เกมส์ของ AMC และแผนพวกนี้มันจะไม่มีปีกจะทำให้การเล่นบอลในแนวกว้างนั้นทำได้ยาก เพราะฉะนั้นการดันไลน์กองหลังขึ้นสูง จะทำให้การส่งบอลและการครองบอลของฝ่ายตรงข้ามทำได้ยากขึ้นด้วย
และถ้าฝ่ายตรงข้ามเล่นแผนรับมากๆ และบ่อยครั้งที่กองหลังจะลงไปรับลึกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น 4-1-4-1 หรือ 4-5-1 ซึ่งจะเป็นรูปแบบการเล่นที่กองกลางจะไม่ค่อยสนับสนุนกองหน้าซักเท่าไหร่ จะเล่นส่งบอลกันแบบไดเรคหรือโยนไปที่ปักทั้ง 2 ข้าง หรือไปที่กองหน้าเลยเพื่อที่จะสร้างโอกาสในการเล่นสวนกลับเร็ว
เพราะฉะนั้นเราควรจะตั้งไลน์กองหลังไว้ต่ำหน่อย เพื่อที่จะลดโอกาสการผ่านบอลของฝ่ายตรงข้ามและเป็นการจัดการกับกองหน้าฝ่ายตรงข้ามโด
ยเมื่อกองหน้าฝ่ายตรงกันข้ามได้ครองบอล กองกลางของฝ่ายตรงข้ามจะตามมาเติมเกมส์ไม่ทัน ทำให้กองหน้าโดนทิ้งโดดเดี่ยวถูกล้มไปด้วยกองหลังและกองกลางของเรา ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเราก็จะได้บอลกลับมาครองพร้อมกับการมีโอกาสที่จะสวนกลับก่อนที่กอ
งหลังฝ่ายตรงข้ามจะตั้งตัวทัน
ความสามารถของผู้เล่น
มันสำคัญมากที่เราจะต้องรู้ความสามารถของผู้เล่นฝ่ายเรากับฝ่ายตรงข้ามเมื่อเรากำลัง
จะเซ็ทไลน์กองหลังในแต่ละแมตช์ ถ้ากองหลังของเราช้า ไลน์ก็ควรจะอยู่ต่ำเพื่อความปลอดภัยมากกว่า และการปรับไลน์กองหลังลงต่ำแบบนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับรูปแบบการเล่นแบบรับเพื่อที่จะ
ให้มิดฟิลด์ตรงกลางลงต่ำมาช่วยเกมรับ เพื่อทำให้กองหน้าที่มีความเร็วของฝ่ายตรงข้ามเล่นลำบากขึ้นในการหาพื้นที่ของข้างหน
้าหรือข้างหลังของไลน์กองหลังของเรา
ในทางกลับกัน ถ้ากองหลังของเรามีความเร็ว การปรับไลน์ดันสูงขึ้น+การปรับclosing downสูงขึ้น จะเป็นการสร้างความกดดันให้กับกองหน้าฝ่ายตรงข้ามทันทีที่ได้บอล
นอกจากนี้เราควรที่จะศึกษาเรียนรู้ว่าไลน์ระดับไหนเหมาะสมกับกองหลังเรามากที่สุดในก
ารจัดการกับฝ่ายตรงข้ามในแต่ละทีม
ขนาดสนาม
ถ้าสนามเล็ก การดันไลน์ขึ้นสูงมากๆ จะเป็นปัญหาได้ไม่ว่ากองหลังคุณจะเร็วสักแค่ไหนก็ตาม เพราะเมื่อกองหน้าฝ่ายตรงข้ามหลุดไป เราจะมีพื้นที่ในการวิ่งตามที่เหลือน้อยก่อนที่จะถึงโกล์ ในทางกลับกันถ้าสนามใหญ่กองหลังก็จะมีพื้นที่+เวลาในการที่จะจัดการสิ่งที่เขาพลาดไป
สนามเล็ก ถ้าเราดันไลน์สูงมากก็มีโอกาสที่กองหลังของเราจะเสียการครองบอลด้วยการเข้าไล่บี้กดด
ันจากกองหน้าฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเล่นเกมแบบส่งสั้นๆ และจังหวะเกมเป็นแบบช้า ในทางกลับกันถ้าเป็นสนามใหญ่ ฝ่ายตรงข้ามจะปรับตัวให้เหมาะสมกับขนาดสนาม ถ้าไลน์กองหลังเราลงต่ำมากก็จะเกิดพื้นที่ว่างหน้ากองหลังมากซึ่งจะเป็นปัญหาถ้าเกิด
เจอกับผู้เล่นเกมรุกฝ่ายตรงข้ามที่มีความเร็วและทักษะที่สูง และมันจำเป็นด้วยที่เราต้องมีทักษะในการส่งบอลที่ดีหน่อย เพื่อที่การส่งบอลยาวจะได้ไม่ถูกตัดบอลในตำแหน่งที่อันตรายกับทีม
การเลือกขนาดสนามให้เหมาะสมกับทีมในการเป็นทีมเหย้าเป็นหัวข้อหลักในการสร้างเกมป้อง
กันที่แข็งแกร่งยามเล่นในบ้านตัวเอง
เพิ่มเติม
ระบบ Nike defense : ต้องการสวีปเปอร์ที่มีความเร็วมากกว่า DC อีกตัว + ปรับไลน์กองหลังสูง
ระบบ Libero defense : ต้องการกองหลังระดับ world class ที่สามารถทิ้งไลนืกองหลังไปร่วมกับเกมบุกได้โดยทิ้งกองหลัง DC อีกตัวกับมิดฟิลด์ตัวรับไว้คอยป้องกัน เพื่อที่จะให้ระบบดีได้ผลควรจะปรับไลน์กองหลังต่ำเพื่อที่จะได้มีพื้นที่ให้ libero วิ่งขึ้นไป
พอดีว่างๆ เลยช่วยแปลนะครับ หวังคงจะมีประโยชน์กับหลายท่าน ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
แปลและเรียบเรียงจาก: คัมภีร์ทฤษฎีและกรอบแท็คติก 09 (Tactical Theorems and Frameworks 09) โดย Richard Claydon และ Gareth Millward
การเซ็ทระดับไลน์กองหลังที่ถูกต้องนั้นจะทำการป้องกันของทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งต่างที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้จัดการทีมว่าควรจะเซ็ท
ไลน์ยังไงกันดี?
รูปแบบการเล่น (บุก/ธรรมดา/รับ)
สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการเซ็ทไลน์กองหลังนั้นคือรูปแบบการเล่นว่าคุณจะเล่นเกมบุก หรือธรรมดา หรือรับ ไลน์กองหลังนั้นต้องสามารถเชื่อมต่อกับหรือไม่ห่างจากแผงกองกลางมากนัก เพราะไม่ยังงั้นกองหน้าของฝ่ายตรงข้ามก็จะพื้นที่ในการเล่นที่เป็นที่ว่างระหว่างกอง
กลางตัวที่อยู่ต่ำที่สุดกับกองหลังตัวกลาง ข้อเสียที่เกิดขึ้นนะครับ
1. ทีมเราก็จะมีโอกาสโดนลูกยิงไกลที่อันตรายเพราะกองหน้าของฝ่ายตรงข้ามมีเวลาและพื้นที
่ในการตั้งป้อมยิง
2. ฝ่ายเราต้องทำฟาวล์ในจังหวะอันตรายทำให้มีโอกาสโดนใบเหลือง/แดง และเสียฟรีคิกในระยะหวังผลของฝ่ายตรงข้าม
การป้องกันที่แข็งแกร่งหรือที่ดีนั้น จะต้องกองกลางที่มีหน้าที่รับอย่างน้อย 1 ตัว ทำหน้าที่ก่อกวนหรือทำลายเกมส์การบุกของฝ่ายตรงข้ามก่อนที่มันจะมาถึงไลน์กองหลัง
เพื่อมั่นใจว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ไลน์กองหลังนั้นจะต้องสัมพันธ์กับรูปแบบการเล่นของเรา
แผนการเล่นของฝ่ายตรงข้าม
เวลาจะเซ็ทไลน์กองหลังนั้นจะต้องดูแผนการเล่นของฝ่ายตรงข้ามด้วยว่าเป็นแบบไหน เป็นแผนการเล่นที่แคบหรือผสมผสาน ตัวอย่างเช่น 4-1-2-1-2ไม่มีปีก หรือ 4-3-1-2ไม่มีปีก ซึ่งแผนพวกนั้จะเน้นโอกาสไปที่พวก AMC เพราะฉะนั้นเราควรจะปรับไลน์กองหลังให้สูงขึ้นหน่อยเพื่อลดพื้นที่ในการเล่นและการทำ
เกมส์ของ AMC และแผนพวกนี้มันจะไม่มีปีกจะทำให้การเล่นบอลในแนวกว้างนั้นทำได้ยาก เพราะฉะนั้นการดันไลน์กองหลังขึ้นสูง จะทำให้การส่งบอลและการครองบอลของฝ่ายตรงข้ามทำได้ยากขึ้นด้วย
และถ้าฝ่ายตรงข้ามเล่นแผนรับมากๆ และบ่อยครั้งที่กองหลังจะลงไปรับลึกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น 4-1-4-1 หรือ 4-5-1 ซึ่งจะเป็นรูปแบบการเล่นที่กองกลางจะไม่ค่อยสนับสนุนกองหน้าซักเท่าไหร่ จะเล่นส่งบอลกันแบบไดเรคหรือโยนไปที่ปักทั้ง 2 ข้าง หรือไปที่กองหน้าเลยเพื่อที่จะสร้างโอกาสในการเล่นสวนกลับเร็ว
เพราะฉะนั้นเราควรจะตั้งไลน์กองหลังไว้ต่ำหน่อย เพื่อที่จะลดโอกาสการผ่านบอลของฝ่ายตรงข้ามและเป็นการจัดการกับกองหน้าฝ่ายตรงข้ามโด
ยเมื่อกองหน้าฝ่ายตรงกันข้ามได้ครองบอล กองกลางของฝ่ายตรงข้ามจะตามมาเติมเกมส์ไม่ทัน ทำให้กองหน้าโดนทิ้งโดดเดี่ยวถูกล้มไปด้วยกองหลังและกองกลางของเรา ผลลัพธ์ที่ตามมาคือเราก็จะได้บอลกลับมาครองพร้อมกับการมีโอกาสที่จะสวนกลับก่อนที่กอ
งหลังฝ่ายตรงข้ามจะตั้งตัวทัน
ความสามารถของผู้เล่น
มันสำคัญมากที่เราจะต้องรู้ความสามารถของผู้เล่นฝ่ายเรากับฝ่ายตรงข้ามเมื่อเรากำลัง
จะเซ็ทไลน์กองหลังในแต่ละแมตช์ ถ้ากองหลังของเราช้า ไลน์ก็ควรจะอยู่ต่ำเพื่อความปลอดภัยมากกว่า และการปรับไลน์กองหลังลงต่ำแบบนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับรูปแบบการเล่นแบบรับเพื่อที่จะ
ให้มิดฟิลด์ตรงกลางลงต่ำมาช่วยเกมรับ เพื่อทำให้กองหน้าที่มีความเร็วของฝ่ายตรงข้ามเล่นลำบากขึ้นในการหาพื้นที่ของข้างหน
้าหรือข้างหลังของไลน์กองหลังของเรา
ในทางกลับกัน ถ้ากองหลังของเรามีความเร็ว การปรับไลน์ดันสูงขึ้น+การปรับclosing downสูงขึ้น จะเป็นการสร้างความกดดันให้กับกองหน้าฝ่ายตรงข้ามทันทีที่ได้บอล
นอกจากนี้เราควรที่จะศึกษาเรียนรู้ว่าไลน์ระดับไหนเหมาะสมกับกองหลังเรามากที่สุดในก
ารจัดการกับฝ่ายตรงข้ามในแต่ละทีม
ขนาดสนาม
ถ้าสนามเล็ก การดันไลน์ขึ้นสูงมากๆ จะเป็นปัญหาได้ไม่ว่ากองหลังคุณจะเร็วสักแค่ไหนก็ตาม เพราะเมื่อกองหน้าฝ่ายตรงข้ามหลุดไป เราจะมีพื้นที่ในการวิ่งตามที่เหลือน้อยก่อนที่จะถึงโกล์ ในทางกลับกันถ้าสนามใหญ่กองหลังก็จะมีพื้นที่+เวลาในการที่จะจัดการสิ่งที่เขาพลาดไป
สนามเล็ก ถ้าเราดันไลน์สูงมากก็มีโอกาสที่กองหลังของเราจะเสียการครองบอลด้วยการเข้าไล่บี้กดด
ันจากกองหน้าฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเล่นเกมแบบส่งสั้นๆ และจังหวะเกมเป็นแบบช้า ในทางกลับกันถ้าเป็นสนามใหญ่ ฝ่ายตรงข้ามจะปรับตัวให้เหมาะสมกับขนาดสนาม ถ้าไลน์กองหลังเราลงต่ำมากก็จะเกิดพื้นที่ว่างหน้ากองหลังมากซึ่งจะเป็นปัญหาถ้าเกิด
เจอกับผู้เล่นเกมรุกฝ่ายตรงข้ามที่มีความเร็วและทักษะที่สูง และมันจำเป็นด้วยที่เราต้องมีทักษะในการส่งบอลที่ดีหน่อย เพื่อที่การส่งบอลยาวจะได้ไม่ถูกตัดบอลในตำแหน่งที่อันตรายกับทีม
การเลือกขนาดสนามให้เหมาะสมกับทีมในการเป็นทีมเหย้าเป็นหัวข้อหลักในการสร้างเกมป้อง
กันที่แข็งแกร่งยามเล่นในบ้านตัวเอง
เพิ่มเติม
ระบบ Nike defense : ต้องการสวีปเปอร์ที่มีความเร็วมากกว่า DC อีกตัว + ปรับไลน์กองหลังสูง
ระบบ Libero defense : ต้องการกองหลังระดับ world class ที่สามารถทิ้งไลนืกองหลังไปร่วมกับเกมบุกได้โดยทิ้งกองหลัง DC อีกตัวกับมิดฟิลด์ตัวรับไว้คอยป้องกัน เพื่อที่จะให้ระบบดีได้ผลควรจะปรับไลน์กองหลังต่ำเพื่อที่จะได้มีพื้นที่ให้ libero วิ่งขึ้นไป