Home


ลง บทความ, textlink ติดต่อ info@redarmyfc.com


ที่มาของตราสัญลักษณ์เมืองแมนเชสเตอร์

(เฉพาะสินค้ากีฬา) ประกาศ ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน สินค้ามือหนึ่ง มือสอง

ที่มาของตราสัญลักษณ์เมืองแมนเชสเตอร์

โพสต์โดย ปอ » พฤหัสฯ. ต.ค. 24, 2013 15:21

รูปภาพ

ตราสัญลักษณ์นี้มีขึ้นมาตั้งแต่ปี 1842 เป็นตราที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ยิบย่อยมากมาย สำหรับแถบสีทองในโล่ห์แดงนั้นมาจากตราสัญลักษณ์ของท่านลอร์ดแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งปกครองเมืองนี้ในปี 1301 และที่ทำเป็น 3 แถบก็เพื่อสื่อถึงแม่น้ำเออร์เวลล์, แม่น้ำเมดล็อค และแม่น้ำเอิร์ค ด้านบนของโล่ห์ยังมีเรือใบแสดงให้เห็นแบบเต็มลำ ถือเป็นเครื่องหมายแห่งการค้า และการทำธุรกิจ

ด้านบนสุดของตราสัญลักษณ์จะมีลูกโลกที่ปกคลุมด้วยฝูงผึ้ง ซึ่งต้องการสื่อว่าสินค้าของเมืองได้ส่งออกไปขายทั่วทั้งโลก ผึ้งนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายถึงการทำกิจกรรม ซึ่งนั่นเป็นที่มาของคำว่าผึ้งงานนั่นเอง ด้านข้างของตราสัญลักษณ์จะมีละมั่ง และสิงโต ซึ่งนำมาจากตราสัญลักษณ์ของคิง เฮนรี่ ที่ 4 ดุ๊กแห่งแลงคาสเตอร์

ด้านล่างสุดมีคำขวัญเขียนเอาไว้ว่า Concilio et Labore ซึ่งมีความหมายว่าปรึกษาหารือ และทำงาน เป็นคำที่นำมาจากบท Ecclesiasticus 37:16 ในคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ว่า "จงใช้เหตุผลก่อนที่จะเริ่มต้นทุกๆ งาน และให้ปรึกษาหารือกันก่อนที่จะเริ่มกระทำการใดๆ"

สำหรับตราสัญลักษณ์เมืองแมนเชสเตอร์นั้น ทั้งสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล้วนแต่นำมาใช้เป็นตราสโมสรในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนกันมาตามแนวทางของตัวเองจนกระทั่งมาเป็นอย่างที่เราเห็นจนทุกวันนี้ โดยเค้าโครงเดิมจากตราสัญลักษณ์เมืองแมนเชสเตอร์ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง นั่นก็คือเรือสินค้าที่อยู่ในตราสโมสรของทั้ง 2 ทีมมาตลอดจนถึงแบบล่าสุดในปัจจุบัน ขณะที่ทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงใช้โล่ห์ที่มี 3 แถบพาดผ่าน โดยเปลี่ยนเป็นโล่ห์สีฟ้าตามสีของสโมสร และใช้แถบเป็นสีขาว

http://www.redarmyfc.com/content.php?id=3224
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปอ
ผู้บริหารสูงสุด
ผู้บริหารสูงสุด
 
โพสต์: 1687
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 07, 2005 15:45
facebook: porpocad
twitter: porpocad

ย้อนกลับไปยัง ซื้อขาย

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


cron

ผลบอลสด888   ไฮไลท์บอล   ทีเด็ดบอลเต็ง

© 2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC