ในวงเล็บเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะ
ปล. คำถามทั้งหมดนี้เป็นคำถามที่ได้ถามไว้ในการสอบ แอดมิชชั่น ครั้งแรก
เอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Admission มาฝากจ้า
Q1 สายวิทย์ สอบ O NET ได้เปรียบกว่า สายศิลป์ จะทำเช่นไร?
F การสอบ O-NET 5 วิชา นักเรียนทุกคนทั้งประเทศ ต้องสอบเหมือนกันคือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ O-NET นี้เป็นการวัดมาตรฐานสาระการเรียนรู้พื้นฐานที่นักเรียนทุกคนต้องเรียนเหมือนกันหมด การที่จะสรุปว่าสายวิทย์ สอบ O-NET ได้เปรียบกว่าสายศิลป์นั้นคงไม่ถูกต้องเนื่องจากข้อสอบออกในส่วนที่เป็นพื้นฐานที่ทุกคนได้เรียนเท่าเทียมกัน
(จากประสบการณ์สอบโดยตรงนั้น เด็กสายวิทย์จะได้เปรียบกว่าเด็กสายศิลป์ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งในข้อสอบ O - NET มีเนื้อหาหลายอย่างที่เด็กสายศิลป์ไม่ได้เรียน)
Q2 A NET นักเรียนจะสอบทุกวิชา ได้หรือไม่ เพราะยังไม่รู้ว่าวิชาใด จะได้คะแนนดี
F ได้ครับ หรือได้ค่ะ แต่นักเรียนควรเลือกสอบในวิชาที่ตนเองมีความถนัดมากกว่า รวมทั้งต้องดูว่าสาขาที่สนใจจะเรียนนั้น ต้องใช้คะแนน A NET อะไรบ้าง
(แต่ส่วนใหญ่มักจะเลือกสอบให้ครบ 5 วิชา รวมเงินที่เสียไปทั้งสิ้นก็ 500 บาท อีกอย่างช่วงที่จ่ายเงินสอบไปนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าตัวเองจะติดโควตาที่ไหนบ้าง สรุปว่าเงินหดไปเยอะเลยล่ะ)
Q3 ถ้านักเรียนไม่สบาย หรือขาดสอบ O-NET ต้องทำอย่างไร
F การสอบ O-NET เป็นการสอบหลังจากที่นักเรียนเรียนจบชั้น ม.6 แล้ว หากมีเหตุจำเป็นต้องขาดสอบตามที่กำหนดไว้ สามารถสมัครสอบ O-NET ในปีถัดไปได้
Q4 วิธีที่สมัครสอบ O NET, A NET สมัครอย่างไร
F สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติเป็นผู้จัดสอบ สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้น ม.6 ไม่ต้องสมัคร โรงเรียนจะเป็นผู้ส่งรายชื่อให้สถาบันทดสอบฯ ส่วนผู้ที่จบการศึกษา ม.6 หรือเทียบเท่าแล้วให้สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 1 15 พฤศจิกายน 2548 ส่วน A NET กำหนดสมัครในระหว่างวันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2548 ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ Web :
www.ntthailand.com โปรดติดตามข่าวสารต่าง จาก สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติเป็นระยะๆ ด้วย
Q5 นักเรียนสอบข้ามสายได้หรือไม่ เช่น แผนวิทย์ สอบสายศิลป์
F ไม่มีข้อห้ามแต่นักเรียนต้องคำนึงถึงพื้นฐานที่เรียนมาว่าเน้นทางสายใดและมีความถนัดด้านใด
(แผนวิทย์มาสอบสายศิลป์นี่มีมาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ยังไม่เคยเห็นสายศิลป์ไปสอบแผนวิทย์ซักที)
Q6 ขณะนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มรับตรงมาก สัดส่วนระหว่างรับตรงกับระบบ Admission เป็นอย่างไร มีการควบคุมหรือไม่
F ในหลักการควรจะเป็นสัดส่วน 50 : 50 ทั้งนี้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีความหลากหลายของผู้เรียน นักศึกษาจะได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ดี การกำหนดจำนวนและวิธีการรับนักศึกษาเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยโดยตรง ระบบ Admissions เป็นระบบการรับนักศึกษาที่เป็นความตกลงร่วมกันของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อความสะดวก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของนักเรียนและผู้ปกครองที่ไม่ต้องวิ่งรอกไปสมัครสอบในสถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งนี้ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการรับสมัคร
การรับตรงหรือโควตาก็ยังมีความจำเป็นเพื่อเป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ท้องถิ่นและการตอบสนองต่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทของกระทรวงสาธารณสุข การรับนักศึกษาที่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬา เป็นต้น
Q7 คะแนนสอบ O NET และ A NET ใช้ได้กี่ปี สามารถใช้ได้ 2 ปีเหมือนเดิมหรือไม่
F คะแนน O-NET ใช้ได้ตลอดไปส่วน A-NET ใช้ได้ 3 ปี
Q8 นักเรียนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนปีการศึกษา 2548 จะสมัครสอบ O-NET ได้หรือไม่
F สามารถสมัครได้ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติผ่าน Web Site :
www.ntthailand.com
Q9 นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ต้องการสอบเลือกคณะใหม่ สามารถใช้ระบบ
Admissions ได้หรือไม่ อย่างไร
F ได้ครับ ขอให้เตรียมสมัครสอบ O-NET และ A-NET และกลับไปให้โรงเรียนคิดค่า GPA 8 กลุ่มสาระด้วย
(ลักษณะนี้จะเป็นแบบต้องการย้ายมหาวิทยาลัยด้วยมากกว่า ถ้าต้องการเรียนในมหาวิทยาลัยเดิม แต่ต้องการย้ายคณะก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาซิ่วหรอก แค่เทียบโอนย้ายคณะก็ได้แล้ว)
Q10 คะแนน Entrance ปี 48 และปี 47 สามารถเอามาใช้ในการสอบ Entrance ปี 49 ได้หรือไม่
F ไม่ได้ ต้องสอบ O-NET และ A-NET ครับ
Q11 นักเรียนจบชั้น ม.4 แล้วไปเรียนต่างประเทศตามโครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ หรือ AFS 1 ปี แล้วกลับมาเรียน ม.6 สามารถสมัครในระบบ Admissions ได้หรือไม่
F สามารถสมัครสอบในระบบ Admissions ได้ เนื่องจากนักเรียนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศตามโครงการแลกเปลี่ยนแล้วกลับมาเรียนชั้น ม.6 ในประเทศไทยก็เท่ากับเป็นนักเรียนที่จบชั้น ม.6 เหมือนเช่นนักเรียน ม.6 ทั่วไป และคิดคะแนนกลุ่มสาระตามที่ปรากฏในใบ ปพ.
สำหรับกรณีที่นักเรียนไปเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจากต่างประเทศ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยมีมติให้สมัครเข้ารับตรงของมหาวิทยาลัย
แต่ถ้านักเรียนที่ตั้งเป้าหมายที่จะเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทย ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเข้าโครงการแลกเปลี่ยนฯ ตามที่เขาประกาศรับ
Q12 นักเรียนที่จบ ม.6 เมื่อปีการศึกษา 2547 ถ้าจะสอบใหม่ทำอย่างไร?
F 1. ต้องสมัครสอบ O NET และ A NET ที่
www.ntthailand.com ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2548 ตามลำดับ
2. ต้องมีคะแนนของกลุ่มสาระการเรียนรู้
3. สมัครเลือกคณะวิชาในวันที่ 1 10 เมษายน 2549
Q13 มีการยกเลิก PR ใช่หรือไม่
F ใช่ ระบบ Admissions จะไม่มีการใช้ PR
Q14 ภาระงานที่โรงเรียนต้องส่งข้อมูลมีอะไรบ้าง และใช้เครื่องมืออะไรบ้าง เช่น โปรแกรมอะไร
F คะแนนเฉลี่ยสะสมรวมตลอดหลักสูตรของนักเรียน และคะแนนเฉลี่ยสะสมของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะมีโปรแกรมที่ใช้สำหรับคำนวณ
Q15 สายศิลป์ สายวิทย์ วิชาที่สอบเหมือนกันหรือเปล่า
F หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับปี พ.ศ.2544 ไม่มีการแบ่งแยกสายวิทย์หรือสายศิลป์ ดังนั้น นักเรียนทุกคนต้องสอบ O-NET เหมือนกันหมด
Q16 การคุมสอบ O NET และ A NET คณะกรรมการคุมสอบมาจากส่วนไหน อาจารย์ โรงเรียน
เอกชนสอนศาสนามีสิทธิ์เป็นกรรมการคุมสอบหรือไม่
F การคุมสอบ O-NET และ A-NET จะใช้รูปแบบการบริหารและจัดการคุมสอบผ่านศูนย์สอบของมหาวิทยาลัยเหมือนเช่นในระบบเอ็นทรานซ์เดิม
Q17 การสอบ A NET นักเรียนไม่ต้องสมัครสอบทุกคนใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะและสาขาวิชาหรือเปล่า
F การสมัครสอบ A NET นักเรียนไม่ต้องสมัครสอบทุกคนค่ะ ขึ้นอยู่กับการกำหนดของคณะและสาขาวิชาที่ต้องการเข้าศึกษานั้น ๆ ค่ะ
Q18 นักเรียนสามารถเปลี่ยนคณะเรียนใหม่ได้ทุกปีตามความต้องการของนักเรียนแต่ละคนใช่หรือไม่ หรือกำหนดให้ว่ากี่ปีคะแนน O NET
F ไม่มีข้อห้ามว่าไม่ให้นักเรียนเปลี่ยนคณะเรียนใหม่ ถ้านักเรียนต้องการต้องการสอบใหม่ ก็สามารถทำได้ ส่วน คะแนน O NET สอบได้ครั้งเดียวสามารถใช้ได้ตลอดไปค่ะ แต่การเปลี่ยนคณะเรียนทุกปีก็ทำให้ผู้เรียนเสียเวลากับการเรียนในชั้นปี 1 และเป็นการกันสิทธิ์ที่นั่งเรียนของนักเรียนที่อยากเรียนด้วยเช่นกัน
Q19 นักเรียน 1 คน เลือกคณะเรียนได้กี่คณะที่มหาวิทยาลัย
F นักเรียน 1 คน สามารถเลือกได้ไม่เกิน 4 คณะค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเรียนเอง
Q20 ระบบแอดมิชชั่นแตกต่างจากระบบเอ็นทรานซ์ (Entrance) อย่างไร
F เอ็นทรานซ์เป็นระบบที่เน้นการสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยได้พัฒนา และปรับปรุงระบบเอ็นทรานซ์ โดยใช้ผลการเรียนเป็นส่วนประกอบ 10% และสอบวัดความรู้ 90% ฉะนั้น แม้ว่าระบบเอ็นทรานซ์ที่เน้นการใช้ผลการสอบคัดเลือกจะเป็นระบบที่ยุติธรรม โปร่งใส และได้รับความเชื่อถือ ได้สร้างปัญหาอย่างมากให้กับระบบการศึกษาของไทย เพราะนักเรียนส่วนหนึ่งไม่ได้ให้ความสนใจเรียนในห้องเรียน แต่เน้นการกวดวิชาทำให้ไม่สามารถพัฒนาอารมณ์ ความคิด ทัศนคติ และบุคลิกภาพของนักเรียนให้สมบูรณ์ได้ รวมทั้งผู้เรียนไม่สามารถเข้าเรียนในสาขาวิชาที่ตนเองมีความชอบ หรือความถนัดอย่างแท้จริง เพราะขึ้นอยู่กับคะแนนสอบเป็นหลัก ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยจึงเห็นควรปรับปรุงระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาใหม่
ส่วนระบบแอดมิชชั่นจะไม่เน้นการใช้ผลการสอบเป็นหลักเหมือนระบบเอ็นทรานซ์ แต่จะนำผลการเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมาใช้ในการคัดเลือกเพิ่มมากขึ้น พิจารณาความสามารถของผู้สมัคร รวมทั้งกิจกรรมทั้งในหลักสูตรและกิจกรรมประกอบการดำเนินการของสถานศึกษา นอกจากนี้ ระบบแอดมิชชั่นยังเป็นระบบที่ทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ตัวเองมีความชอบ และมีความถนัดในขณะที่สถาบันอุดมศึกษาเองก็สามารถคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น
Q21 GPAX หมายถึงอะไร
F GPAX เป็นตัวเลขวัดผลการเรียนหรือคะแนนเฉลี่ยสะสมรวมที่รวบรวมจากการเรียนทุกรายวิชาและทุกชั้นปี จึงเป็นคะแนนที่สะท้อนผลการเรียนจริงของนักเรียนและเป็นหลักประกันว่าผู้สมัครระบบแอดมิชชั่น ได้ผ่านการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และแม้จะมีข้อท้วงติงว่าค่า GPAX เป็นเหตุให้เกิดความเครียดในเวลาเรียนเพราะนักเรียนต้องกังวลว่าจะต้องทำคะแนนให้ดีอยู่ตลอดเวลา แต่คะแนนดังกล่าวเป็นดัชนีบ่งชี้ที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน บวกกับการศึกษาเบื้องต้นและการเฝ้าระวังของหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และมหาวิทยาลัยได้บ่งชี้ว่าค่า GPAX จากโรงเรียนมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง
GPAX จะปรากฏอยู่ในใบ ปพ. และใบ รบ. ของผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
Q22 GPA กลุ่มสาระหมายถึงอะไร
F ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ การที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยกำหนดให้ GPA เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในระบบแอดมิชชั่น เพราะต้องการคัดเลือกนักเรียนให้ได้ตรงความสามารถหรือความถนัด โดยแต่ละคณะวิชาจะกำหนดกลุ่มสาระที่จะนำมาพิจารณาสอดคล้องกับสาขาวิชาที่นักเรียนจะศึกษาต่อ ซึ่งเป็นการพิจารณาคุณลักษณะของนักเรียนได้ละเอียดมากกว่าดูจาก GPAX
GPA กลุ่มสาระจะปรากฏอยู่ในใบ ปพ. ของนักเรียนที่จบ ม.ปลาย ทุกคน
Q23 ทำไมต้องใช้ทั้ง GPAX และ GPA เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งได้หรือไม่
F เพราะ GPAX สะท้อนผลการเรียนจริงของนักเรียนในภาพรวม ส่วน GPA จะทำให้การคัดเลือกนักเรียนทำให้ตรงกับความสามารถ และความถนัดของผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยจึงเห็นว่าจำเป็นจะต้องใช้ทั้ง GPAX และ GPA เป็นองค์ประกอบในระบบแอดมิชชั่น
Q24 การสมัครสอบ A NET ครั้งที่ 1 และการสมัครวิชาเฉพาะมีช่วงเวลาการสมัครสอบวันเดียว กันหรือจะสมัครพร้อมกันหรือไม่
F การสมัครสอบ A NET และการสมัครสอบวิชาเฉพาะสมัครไม่พร้อมกันค่ะ เนื่องจากการสอบ A - NET จะสอบวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1 มีนาคม 2549 สำหรับการสมัครสอบวิชาเฉพาะจะเปิดให้สมัครทางอินเตอร์เน็ตในวันที่ 15 สิงหาคม 5 กันยายน 2548 และจะสอบในวันที่ 15,17 21 ตุลาคม 2548 ค่ะ
Q25 การสอบ A NET นักเรียนไม่ต้องสมัครสอบทุกคนใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะและสาขาวิชาหรือเปล่า
F การสมัครสอบ A NET นักเรียนไม่ต้องสมัครสอบทุกคนค่ะ ขึ้นอยู่กับนักเรียนผู้นั้นจะ
เลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ต้องการคะแนนวิชา A NET หรือไม่
Q26 การสอบ O NET สามารถสอบได้กี่ครั้ง สามารถสอบได้ทุกปีแล้วเลือกคะแนนที่ดีที่สุดได้หรือไม่
F การสอบ O NET เด็กที่จบ ม.6 ทุกคนต้องสอบและสอบได้ครั้งเดียวเท่านั้นสำหรับคะแนนก็จะติดตัวเด็กตลอดไปค่ะ
Q27 กลุ่มศิลปกรรมศาสตร์ องค์ประกอบสาระวิชา 3 วิชา ทำไมมีภาษาอังกฤษมีถึง 8% น่าจะเป็นกลุ่มวิชาศิลปะมากกว่าด้วยเหตุผลว่า กลุ่มศิลปกรรมศาสตร์น่าจะเน้นศิลปะในกลุ่มสาระวิชาหรือว่ามีข้อมูลอื่นอีกที่ทำให้ต้องให้ศิลปกรรมไปเน้นภาษาอังกฤษ
F เนื่องจากในปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องรู้ค่ะ
Q28 ถ้านักเรียนไม่สบายหรือขาดสอบ O - NET ต้องทำอย่างไร
F นักเรียนสามารถสอบในปีถัดไปได้
คำถามต่อ แสดงว่านักเรียนคนที่ป่วยนี้ไม่สามารถสมัครเข้าเรียนได้ในปีที่เขาป่วยใช่หรือไม่ และจะสามารถสมัครสอบ A NET เพื่อเก็บไว้ใช้ในปีต่อไปได้หรือไม่
F ผู้ที่จะสมัครสอบ A NET ได้จะต้องมีคะแนน O NET ก่อนค่ะ
Q29 ถ้านักเรียนสอบ O NET ปีนี้แล้วได้คะแนนน้อยขอสอบใหม่ได้ไหมในปีหน้า (ถ้านักเรียนอยากเปลี่ยนคณะเรียนใหม่ในปีต่อมา)
F การสอบ O NET นักเรียนทุกคนสามารถสอบได้ครั้งเดียวค่ะและคะแนนนี้จะติดตัวเด็กไปตลอดค่ะ
Q30 นักเรียนสามารถเปลี่ยนคณะเรียนใหม่ได้ทุกปีตามความต้องการของนักเรียนแต่ละคนใช่หรือไม่ หรือกำหนดให้ว่ากี่ปีคะแนน O NET
F ไม่มีข้อห้ามว่าไม่ให้นักเรียนเปลี่ยนคณะเรียนใหม่คะแนน O NET สอบได้ครั้งเดียวสามารถใช้ได้ตลอดไปค่ะ แต่การเปลี่ยนคณะเรียนทุกปีก็เท่ากับเป็นการกันสิทธิ์ที่นั่งเรียนของนักเรียนที่อยากเรียน
Q31 วิชาเฉพาะกลุ่มภาษา เช่น ฝรั่งเศส, เยอรมัน, บาลี, อาหรับ, จีน ฯลฯ จัดสอบวันไหน
F สำหรับการสอบวิชาเฉพาะกลุ่มภาษาจะจัดสอบพร้อมกับการสอบ A-NET ค่ะติดตามรายละเอียดได้ที่
www.ntthailand.com ค่ะ
Q32 ทำไมรหัสกลุ่มวิชาเฉพาะไม่มี 2 วิชา คือ ปฏิบัติดนตรีและทฤษฎีดนตรี (สากล,ไทย)
F วิชาปฏิบัติดนตรีและวิชาทฤษฎีดนตรี (สากล,ไทย) มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะเป็นผู้จัดสอบเองค่ะ
Q33 แล้วสถานที่สอบและวันเวลาจัดสอบแบบไหน
F คงจะติดต่อกับมหาวิทยาลัยโดยตรงหรือเข้าเว็ปของมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร
Q34 นักเรียน 1 คน เลือกคณะเรียนได้กี่คณะที่มหาวิทยาลัย
F นักเรียน 1 คน สามารถเลือกได้ไม่เกิน 4 คณะค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเรียนเอง
Q35 การสอบ O NET นักเรียนที่จบ ม.6 ต้องสอบทุกคนหรือไม่ หรือว่าสอบเฉพาะนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเท่านั้น
F การสอบ O NET นักเรียนม.6 ในระบบซึ่งกำลังศึกษาอยู่จะต้องสอบทุกคนค่ะ
Q36 ถ้าจัดสอบ O NET กับนักเรียนทุกคนน่าจะนำไปลงใน ปผ.1
F การจะนำผลการสอบ O NET ไปลงในใบ ปผ.1 ไม่สามารถทำได้ต่อ
Q37 อุดมศึกษาเลื่อนระยะเวลาในการส่งข้อมูล GPAX, GPA จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกไปได้อีกหรือไม่เพราะที่ผ่านมา กระทบต่อการทำงานทั้งในระบบของโรงเรียนและเขตพื้นที่เป็นอย่างมาก
F ไม่สามารถเลื่อนระยะเวลาในการส่งข้อมูลได้ค่ะ เพราะจะมีผลกระทบต่อการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ
Q38 GPA กลุ่มสาระทางโรงเรียนจำนวนหน่วยกิตไม่เท่ากันมีเท่ากันหรือไม่
F การจัดการศึกษาทุกโรงเรียนต้องอิงเกณฑ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่จะจัดอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับระบบบริหารจัดการของโรงเรียนนั้น ๆ จึงมีทั้ง GPA กลุ่มสาระที่เท่ากันและไม่เท่ากัน
Q39 นักเรียนทุนแลกเปลี่ยนที่ไปเรียนต่างประเทศสามารถสอบอะไรได้บ้าง
F สอบได้ตามความต้องการแก่การนำผลสอบไปใช้ต้องขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละคณะค่ะว่าจะต้องใช้วิชาอะไรบ้าง