เรด อาร์มี่ แฟนคลับ

มีสนามอะไรบ้าง ความจุเท่าไหร่ ของเมืองไหนบ้าง

ใครมีก็เอาบ้างสิคับ

ไม่รู้จิเรื่องน้าน แต่ทำไมมีรูปโบอะด้วย

ใช้สนามทั้งหมด 12 สนาม ใน 12 เมือง

เมือง Berlin
ชื่อสนาม Olympiastadion
ทีมเจ้าของสนาม Hertha BSC Berlin
ความจุ 76,176

เมือง Dortmund
ชื่อสนาม Westfalenstadion
ทีมเจ้าของสนาม Borussia Dortmund
ความจุ 81,264

เมือง Frankfurt
ชื่อสนาม Waldstadion
ทีมเจ้าของสนาม Eintracht Frankfurt
ความจุ 48,132

เมือง Gelsenkirchen
ชื่อสนาม Veltins-Arena
ทีมเจ้าของสนาม FC Schalke 04
ความจุ 53,804

เมือง Hamburg
ชื่อสนาม AOL Arena
ทีมเจ้าของสนาม Hamburger SV
ความจุ 51,055

เมือง Hanover
ชื่อสนาม AWD-Arena
ทีมเจ้าของสนาม Hannover 96
ความจุ 44,652

เมือง Kaiserslautern
ชื่อสนาม Fritz-Walter-Stadion
ทีมเจ้าของสนาม 1. FC Kaiserslautern
ความจุ 41,170

เมือง Cologne
ชื่อสนาม RheinEnergieStadion
ทีมเจ้าของสนาม 1. FC Köln
ความจุ 46,120

เมือง Leipzig
ชื่อสนาม Zentralstadion
ทีมเจ้าของสนาม FC Sachsen Leipzig
ความจุ 44,199

เมือง Munich
ชื่อสนาม Allianz Arena
ทีมเจ้าของสนาม Bayern Munich, TSV 1860 München
ความจุ 66,016

เมือง Nuremberg
ชื่อสนาม Frankenstadion
ทีมเจ้าของสนาม 1. FC Nürnberg
ความจุ 41,926

เมือง Stuttgart
ชื่อสนาม Gottlieb-Daimler-Stadion
ทีมเจ้าของสนาม VfB Stuttgart
ความจุ 54,267

ส่วนรูป ดูที่

http://fifaworldcup.yahoo.com/06/en/d/stadium/index.html

มีเยอะเลย

นัดชิง ใช้สนามไรอ่ะ
ให้เดาก็คงเป็น
1.เอ โอ แอล อารีน่า
2.อลิอัลซ์ อารีน่า
3.อัลฟ์ ชาลเก้ อารีน่า

ไม่รุ้อันไหน

earthminem เขียน:นัดชิง ใช้สนามไรอ่ะ
ให้เดาก็คงเป็น
1.เอ โอ แอล อารีน่า
2.อลิอัลซ์ อารีน่า
3.อัลฟ์ ชาลเก้ อารีน่า

ไม่รุ้อันไหน

ทายผิดหมดเลยอะเอิร์ท

นัดชิง ใช้ โอลิมปิกสเตเดี้ยม เมืองเบอร์ลิน

ส่วนวันเปิด ใช้ สนาม Allianz Arena

boom เขียน:

earthminem เขียน:นัดชิง ใช้สนามไรอ่ะ
ให้เดาก็คงเป็น
1.เอ โอ แอล อารีน่า
2.อลิอัลซ์ อารีน่า
3.อัลฟ์ ชาลเก้ อารีน่า

ไม่รุ้อันไหน

ทายผิดหมดเลยอะเอิร์ท

นัดชิง ใช้ โอลิมปิกสเตเดี้ยม เมืองเบอร์ลิน

ส่วนวันเปิด ใช้ สนาม Allianz Arena

กำ ทายผิด ก็นึกว่าจะใช่อ่ะ

เมือง Berlin
ชื่อสนาม Olympiastadion
ทีมเจ้าของสนาม Hertha BSC Berlin
ความจุ 76,176




สนามโอลิมปิกสเตเดียม เมืองเบอร์ลิน ได้รับเกียรติให้จัดแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลกปี 2006 ในวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งคาดกันว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกรับชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นจำนวนถึงหนึ่งพันล้านคนเลยทีเดียว

สนามนี้เคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์เมื่อปี 1936 และมีนักวิ่งชาวอเมริกันชื่อ Jesse Owens ได้ 4 เหรียญทองจากการแข่งขันกรีฑา ณ สนามแห่งนี้ ในปัจจุบัน ชื่อของเขาได้เป็นชื่อถนนหนึ่งที่มุ่งเข้าสู่สนามโอลิมปิกสเตเดียม เพื่อเป็นเกียรติต่อนักวิ่งผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ นอกจากนี้ สนามแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลเยอรมัน คัพ นัดชิงชนะเลิศ มาตั้งแต่ปี 1985 อีกด้วย

โอลิมปิกสเตเดี้ยมแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยงบประมาณถึง 242 ล้านยูโร ตั้งแต่ฤดูร้อน ปี 2000 โดยเงิน 242 ล้านยูโรนี้ ส่วนหนึ่งได้มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลเยอรมัน 196 ล้านยูโร และอีก 46 ล้านยูโร ได้มาจากการกู้โดยการค้ำประกันของรัฐบาลของเมืองเบอร์ลินเอง หลังจากการปิดปรับปรุงนาน 4 ปี สนามแห่งนี้ได้เปิดให้ใช้อีกครั้งในวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2004 โดยนัดแรกที่สนามนี้เป็นการพบกันระหว่างแฮร์ท่า เบอร์ลิน กับ เบซิคตัส ในฟุตบอลยุโรป วันที่ 1 สิงหาคม และในเดือนนั้นเอง ก็ได้มีการเล่นฟุตบอลทีมชาตินัดแรก ณ สนามแห่งนี้ โดยเป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติบราซิล แชมป์ฟุตบอลโลก กับทีมชาติเยอรมนี

สนามที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ประกอบด้วย ที่นั่งระดับ VIP ชั้นนักธุรกิจ ร้านค้าของทีมแฮร์ธ่า เบอร์ลิน อุปกรณ์ให้ความร้อนแก่พื้นสนามใต้พื้นดิน ที่จอดรถใต้ดิน นอกจากนี้ยังได้คงความเป็นสนามแข่งขันโอลิมปิกไว้ โดยมีลู่วิ่ง 110 เมตร และ บ่อทรายกระโดดไกลอีกด้วย โดยในการปรับปรุงครั้งนี้ ได้มีการเน้นความสะดวกสบายของผู้เข้าชมให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หลังการปรับปรุง มีที่นั่งผู้ชมที่ได้รับการคลุมจากหลังคามากกว่า 70000 ที่นั่ง จากเดิมที่ได้รับการคลุมหลังคาเพียง 27000 ที่นั่งเท่านั้น

From .. http://fifaworldcup.yahoo.com/06/en By .. boom
ปล. ถ้าไม่ขี้เกียจจะแปลมาเรื่อยๆ -*-
-----------
242 ล้านยูโร กับการ "ปรับปรุงสนาม" คู่ควรกับนัดชิงจริงๆ

เมือง Munich
ชื่อสนาม Allianz Arena
ทีมเจ้าของสนาม Bayern Munich, TSV 1860 Munchen
ความจุ 66,016


ตอนบาเยิร์น เป็นเจ้าบ้าน


1860 มิวนิก เป็นเจ้าบ้าน


สีขาว

สนามแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสนามที่ใช้สำหรับทำพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ในวันที่ 9 มิถุนายน 2006 มนามนี้มีรูปลักษณ์ถายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ยินยันได้ว่าเป็นสนามที่แปลกมากที่สุด และเป็นสนามที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในโลก ผนังด้านนอกทำมาจากวัสดุกึ่งโปร่งใส รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งจะสามารถสะท้อนแสงได้เป็นหลายๆ สีได้อย่างน่าอัศจรรย์

สนามความจุ 66000 ที่นั่งนี้ได้เปิดทำการในวันที่ 30 และ 31 พฤษภาคม 2005 โดยสโมสรฟุตบอลที่เป็นเจ้าของร่วมของสนามนี้ 2 สโมสร คือ 1860 มิวนิก และ บาเยิร์น มิวนิก ประตูแรกในบุนเดสลีกาที่ทำได้ในสนามนี้ ได้จากโอเว่น ฮากรีฟส์ ในนัดที่บาเยิร์นเอาชนะกลัดบัคได้ 3 ประตูต่อ 0

การสร้างสนามนี้ได้รับการอนุมัติจากประชาชนในเมือง ในเดือนตุลาคม ปี 2002 ถึง 65.8% นับว่าเป็นสถิติสูงสุดของการลงคะแนน สนามแห่งนี้ได้รับการออกแบบรูปร่างจาก 2 สถาปนิกชาวสวิส ในเดือนกุมภาพันธ์ 2002 โดยได้เริ่มสร้างในเดือนุลาคมปี 2002 ทันที จนกระทั่งโครงสร้าง 7 ชั้นได้เสร็จลงในเดือนเมษายน 2002 ในการก่อสร้างครั้งนี้ ได้ใช้คอนกรีตไปถึง 120000 ลูกบาศก์เมตร และใช้เหล้กไปถึง 20000 ตัน

สนามนี้มีการอำนวยความสะดวกและการเดินทางที่น่าทึ่งที่สุดในยุโรป ด้วยการเดินทางที่ง่ายจากมอเตอร์เวย์ แต่ละบลอคของสนามสามารถเปลี่ยสีได้ระหว่างสี แดง ขาว น้ำเงิน ตามสีของทีมเจ้าบ้านในนัดนั้น อัฒจันทร์ 3 ชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ แม้แต่ชั้นบนสุด ยังสามารถเห็นมุมมองที่สวยงามได้ นอกจากนี้ สถานที่จอดรถใต้ดินของสนามนี้ ยังสามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 10000 คัน ซึ่งเป็นที่จอดรถใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

ฟีฟ่าได้เลือกเมืองมิวนิกเป็ฯเมืองที่ใช้สำหรับการเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2004 นอกจากนี้ ยังจะมีการประชุมของฟีฟ่าประจำปี 2006 เกิดขึ้นที่มิวนิกอีกด้วย สนามแห่งนี้จะได้เป็ฯสนามที่ทำการแข่งขันฟุตบอลโลก จำนวน 6 นัด ได้แก่ นัดเปิดสนาม รอบรองชนะเลิศ และนัดอื่นๆ อีก 4 นัด

หมายเหตุ : ค่าใช้จ่ายจากการสร้างสนาม (ประมาณ 280 ล้านยูโร) ได้มาจากสโมสร 1860 มิวนิก และ บาเยร์น มิวนิก เป็นจำนวนเท่าๆ กัน [น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำมให้สนามนี้ชื่อว่า Allianz Stadium]

From .. http://fifaworldcup.yahoo.com/06/en By .. boom

ขอบคุณนะฮับ

boom เขียน:ถ้าไม่ขี้เกียจจะแปลมาเรื่อยๆ -*-

ก็อย่าขี้เกียจจิ อิอิ

สนามประเทศเขาช่างไฉไลจริงๆ

เมื่อไหร่ไทยจะมีแบบนี้บ้าง???


The Fritz-Walter stadium in Kaiserslautern