มาสรุป ผลงานทีมชาติอังกฤษ ประจำ WC 2006 งับ

:: พอล โรบินสัน ::
ในทัวนาเม้นต์นี่ออกจะตื่นสนามมากเกินไปเพราะเล่นทัวนาเม้นต์ใหญ่เป็นครั้งแรก จะเห็นได้ว่า เหวอหลายลูกมาก ตั้งแต่รอบแรกแล้วโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ จนทำให้หลายคนคิดว่าเป็น เดวิด เจมส์ 2 ไปเลย
สรุปว่า เกรด D+ สำหรับ โรบินสัน พอดีเล่นดีในนัดโปรตุเกสเลยให้ "+" เพิ่ม
:: แกรี่ เนวิลล์ ::
ค่อนข้างจะโชคร้ายไปหน่อยสำหรับแกรี่ ที่ดันได้เล่นในนัดเปิดสนาม และ นัดสุดท้ายของอังกฤษ เท่านั้น เรื่องวัดผลงานก็คงไม่ได้มากนัก และคิดว่านี่อาจเป็น World Cup ครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว (ไปช่วยฝึกบาร์ดสลี่ย์ ให้มาแทนละกันนะ แกรี่ :3)
สรุป เล่นได้ตามมาตรฐานแต่ก็วัดผลอะไรไม่ได้มากนักเพราะเจ็บไป ถึง 3 นัด
:: แอชลี่ย์ โคล ::
ในรอบแรก แอชลี่ย์ โคล เล่นได้ค่อนข้างแย่เติมเกมส์รุกไม่ดี รับก็ไม่ดี แต่ กลับมากลายเป็น โคล คนเดิมตั้งแต่รอบ 2 เล่นได้ดีมากมากในแมตซ์ เอกวาดอร์ และ โปรตุเกส ถือว่าโคลกลับมาได้ถูกเวลามาก
สรุปเกรด C+
:: จอห์น เทอร์รี่ ::
เล่นได้ตามมาตรฐานสำหรับ เทอร์รี่ แต่บางครั้งก็มีลูกเหวอมาก โดยเฉพาะช่วงต้นเกมส์ จะว่าไปเทอร์รี่เป็นพวกสมาธิไม่ค่อยจะมั่นคงในช่วงเริ่มการแข่งขันเท่าไหร่ในทัวนาเม้นต์นี้ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี ช่วยอังกฤษไว้หลายครั้งเช่นกัน
สรุปเกรด B
:: ริโอ เฟอดินานด์ ::
เล่นได้ค่อนข้างดี สำหรับ เฟอดินานด์ กลับมาเป็น ริโอ คนเดิมแล้วในบอลโลกครั้งนี้ จับมือ กับเทอร์รี่ ทำให้อังกฤษ เสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้นใน ทัวนาเม้นต์นี้ (จริงอาจแค่ 1 เพราะลูก 2 ของสวีเดน เจอเปลี่ยนออกไปก่อน)
สรุป เกรด B+
:: เดวิด เบ๊คแฮม ::
การเล่นของเบ๊คแฮมในทัวนาเม้นต์นี้ ถึงอาจจะดูไม่หวือหวามากนัก แต่ด้วยลูกเปิดและลูกฟรีคิกของเขาทำให้อังกฤษผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมได้สำเร็จ แต่ไม่ทราบว่าไปโดนคูณใสอะไรมาตั้งแต่รอบ 2 มา เบ๊คแฮมเจออาการป่วยเล่นงานซะแบบนั้น แล้วดันมาเจ็บเอานัดโปรตุเกสซะอีก อังกฤษเลยไปได้แค่นี้แหละครับ -__-
สรุป เกรด B+
:: แฟร้งค์ แลมพาร์ด ::
เป็นผู้เล่นที่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังที่สุดของอังกฤษ ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ "ดวงตก" แลมพาร์ด ดวงตกอย่างร้ายแรงมากในทัวนาเม้นต์นี้อย่างไม่ทราบสาเหตุได้เลยทั้งๆที่หาตำแหน่งยิงประตูได้ดีเหมือนเดิมแต่ ยิงยังไงก็ไม่เป็นประตู ความเชื่อมั่นก็ลดไปเรื่อยๆ แถมยังมายิงจุดโทษพลาดอีกเป็นทัวนาเม้นต์ที่ทำให้แลมพาร์ดฝันร้ายไปอีกนาน ...
สรุป เกรด F
:: สตีเว่น เจอราร์ด ::
ไม่ได้ต่างอะไรจาก แลมพาร์ดมากนัก เพียงแต่มีโชคมากกว่า แลมพาร์ด ตรงที่ยิงได้ 2 ประตู แต่เจอราร์ดก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย ถ้าลองมองกันจริงๆ ต้องพูดกันอีกครั้งว่า เจิด และ แลมพ์ มันเล่นด้วยกันไม่ได้จริงๆ หรือ เพราะแผนการเล่นของอิริคสัน ทำให้ 2 คนนี้เล่นด้วยกันไม่ได้กันแน่ ?????
สรุป เกรด D
:: โจ โคล ::
จริงๆ คงต้องบอกว่า โจ โคล น่าจะเป็นผู้เล่นของอังกฤษในแนวรุกที่เล่นได้ดีที่สุดในทีมแล้ว แถมยังยิงประตูสุดสวยอีกในแมตซ์ เจอสวีเดน แต่ต้องบอกว่า สเวน ใช้ โจ โคล ได้ไม่คุ้มกับความสามารถที่เจ้าตัวมีเท่าไหร่เลยจริงๆ ...
สรุป เกรด B
:: เวย์น รูนี่ย์ ::
จบ ทัวนาเม้นต์นี้ รูนี่ย์ คงต้องคิดถึง "เฟอร์กี้" สักหน่อยละครับ ว่าเหตุผลอันใด เฟอร์กี้ถึงไม่อยากให้เจ้าตัวมา ????? ผลจากการมาก็เป็นอย่างที่เห็นคือ พบกับฝันร้าย ด้วยการเอาใบแดงกลับมาบ้าน ....
สรุป เกรด D
:: ไมเคิ่ล โอเว่น ::
กองหน้าผู้โชคร้าย ที่ไม่รู้เจออาถรรพ์อะไรเข้า อยู่ดีๆก็เข่าพังซะแบบนั้น จะเรียกว่าเป็นลางร้ายของอังกฤษเลยก็ว่าได้ แต่นัดอื่นก็เล่นไม่ดีเลย ส่วนหนึ่งก็มาจากแผนการเล่นของสเวน และ ความไม่ฟิตของเจ้าตัวนั่นเอง ถือว่าโชคร้ายมากสำหรับโอเว่น
สรุป เกรด F
ปีเตอร์ เคร้าซ์
สำหรับ เคร้าซ์ นั้นต้องบอกได้เลยว่าสำหรับทัวนาเม้นต์นี้ อยู่ในเกณฑ์ กลางๆ ค่อนไปทางแย่ เรื่องการพักบอลให้เพื่อนกับความทุ่มเทนั้น ทำได้ดี แต่เรื่องยิงประตูต้องบอกอย่างเดียวเลยว่า ต้องส่ายหัว สถานเดียว
สรุป เกรด C
:: โอเว่น ฮากรีฟส์ ::
เป็นนักเตะที่เป็นการค้นพบที่สายเกินไปในตำแหน่ง DMC สำหรับอังกฤษ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล แต่เจ้าตัวก็ได้พิสูจน์ถึงความสามารถและความทุ่มเทที่แท้จริงออกมาแล้วว่า ถ้าเขาได้เล่นตำแหน่งที่ถนัดเขาจะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และที่สำคัญมีเจ้าตัวคนเดียวนี่แหละครับที่ ยิงจุดโทษเข้า ถ้าสเวน รู้จักใช้เขาให้เป็นกว่านี้แฟนอังกฤษคงไม่มองเขาแง่ร้ายหรอก
สรุป เกรด B
:: อารอน เลนน่อน
นี่คือ อนาคตของทีมชาติอังกฤษครับ แมตซ์ที่เขาถูกส่งลงมา ล้วนแล้วแต่ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเจอ ตรินิแดด หรือ โปรตุเกส แต่สิ่งที่เขาขาดไปมีเพียงอย่างเดียวคือ ประสบการณ์ครับ ปี 2010 นี่ถ้าเลนน่อนยังเล่นได้ดีแบบนี้ ต้องจับตาดูอย่ากระพริบเลย
สรุปเกรด B
:: เจมี่ คาราเกอร์ ::
จำเป็นต้องมาเล่นตำแหน่ง แบ๊กขวา แทน แกรี่ หลายครั้งซึ่งก็ทำได้แย่ เพราะตำแหน่งถนัดของแกคือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
สรุป เกรด D
:: โซล แคมป์เบลล์ ::
เล่นเพียงนัดเดียวเท่านั้นคือ เจอกับสวีเดน ซึ่งก็เล่นได้ค่อนข้างแย่ไป แต่มันก็แค่นัดเดียวสำหรับเขาตัดสินอะไรไม่ได้ครับ
สรุป เกรด - เล่นจริงเพียงนัดเดียวคงตัดสินอะไรมากไม่ได้งับ
:: ไมเคิ่ล คาร์ริค ::
เล่นนัดเดียวเหมือนกับ โซล ครับ ตัดสินอะไรไม่ได้มากนัก
สรุป เกรด - ไม่มีครับ
คนอื่นๆ ไม่ได้ลงครับเลยไม่มีคะแนน ทั้ง เจมส์ , คาร์สัน , เจนาส , วัลค็อตต์
กุนซือ
:: สเวน โกรัน อิริคสัน ::
หมดยุคของเขาแล้วครับ ทำทีมชุดนี้ได้แย่ที่สุด มาตั้งแต่เลือกตัวนักเตะแล้ว และคิดผิดอย่างมากที่ไม่เลือก เดโฟ มา นอกนั้นก็อย่างที่เห็นในบอลโลกครับ ไม่จำเป็นต้องวิจารณ์อะไรอีก อังกฤษชุดนี้เล่น แย่กว่าชุด 2002 และ ยูโร 2004 เยอะครับ
สรุป เกรด F
สรุปสำหรับอังกฤษ อังกฤษ ก็คงต้องบอกว่าเจออาถรรพ์อะไรเล่นงานก็ไม่ทราบเหมือนกัน (หรือจะเป็นอาถรรพ์ 1966) อยู่ดีๆ แลมพ์ กับ เจิด ก็มาฟอร์มตก + ดวงตก พร้อมๆกันทั้งที่ตอนหลังจบ พรีเมียร์ ยังเล่นได้ดีกันอยู่เลย โอเว่น ก็มาเจ็บกลับบ้านซะเฉยๆ เบ๊คแฮม ก็ไม่รู้โดนอะไรเน่าไปอีกคน รูนี่ย์ ก็ไม่ฟิตมาตั้งแต่ก่อนทัวนาเม้นต์ แล้วแถมอยู่ดีๆก็มาเจอใบแดงแบบแปลกซะอีก ...
นี่ถ้าอังกฤษอยากเป็นแชมป์โลกคงต้องทำลายอาถรรพ์หลายอย่างเลย คือ ชนะ สวีเดน ชนะจุดโทษ และ ชนะ บราซิล ถ้าทำได้คงแชมป์โลกซะละมั้ง ~
ในทัวนาเม้นต์นี่ออกจะตื่นสนามมากเกินไปเพราะเล่นทัวนาเม้นต์ใหญ่เป็นครั้งแรก จะเห็นได้ว่า เหวอหลายลูกมาก ตั้งแต่รอบแรกแล้วโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ จนทำให้หลายคนคิดว่าเป็น เดวิด เจมส์ 2 ไปเลย
สรุปว่า เกรด D+ สำหรับ โรบินสัน พอดีเล่นดีในนัดโปรตุเกสเลยให้ "+" เพิ่ม
:: แกรี่ เนวิลล์ ::
ค่อนข้างจะโชคร้ายไปหน่อยสำหรับแกรี่ ที่ดันได้เล่นในนัดเปิดสนาม และ นัดสุดท้ายของอังกฤษ เท่านั้น เรื่องวัดผลงานก็คงไม่ได้มากนัก และคิดว่านี่อาจเป็น World Cup ครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว (ไปช่วยฝึกบาร์ดสลี่ย์ ให้มาแทนละกันนะ แกรี่ :3)
สรุป เล่นได้ตามมาตรฐานแต่ก็วัดผลอะไรไม่ได้มากนักเพราะเจ็บไป ถึง 3 นัด
:: แอชลี่ย์ โคล ::
ในรอบแรก แอชลี่ย์ โคล เล่นได้ค่อนข้างแย่เติมเกมส์รุกไม่ดี รับก็ไม่ดี แต่ กลับมากลายเป็น โคล คนเดิมตั้งแต่รอบ 2 เล่นได้ดีมากมากในแมตซ์ เอกวาดอร์ และ โปรตุเกส ถือว่าโคลกลับมาได้ถูกเวลามาก
สรุปเกรด C+
:: จอห์น เทอร์รี่ ::
เล่นได้ตามมาตรฐานสำหรับ เทอร์รี่ แต่บางครั้งก็มีลูกเหวอมาก โดยเฉพาะช่วงต้นเกมส์ จะว่าไปเทอร์รี่เป็นพวกสมาธิไม่ค่อยจะมั่นคงในช่วงเริ่มการแข่งขันเท่าไหร่ในทัวนาเม้นต์นี้ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี ช่วยอังกฤษไว้หลายครั้งเช่นกัน
สรุปเกรด B
:: ริโอ เฟอดินานด์ ::
เล่นได้ค่อนข้างดี สำหรับ เฟอดินานด์ กลับมาเป็น ริโอ คนเดิมแล้วในบอลโลกครั้งนี้ จับมือ กับเทอร์รี่ ทำให้อังกฤษ เสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้นใน ทัวนาเม้นต์นี้ (จริงอาจแค่ 1 เพราะลูก 2 ของสวีเดน เจอเปลี่ยนออกไปก่อน)
สรุป เกรด B+
:: เดวิด เบ๊คแฮม ::
การเล่นของเบ๊คแฮมในทัวนาเม้นต์นี้ ถึงอาจจะดูไม่หวือหวามากนัก แต่ด้วยลูกเปิดและลูกฟรีคิกของเขาทำให้อังกฤษผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมได้สำเร็จ แต่ไม่ทราบว่าไปโดนคูณใสอะไรมาตั้งแต่รอบ 2 มา เบ๊คแฮมเจออาการป่วยเล่นงานซะแบบนั้น แล้วดันมาเจ็บเอานัดโปรตุเกสซะอีก อังกฤษเลยไปได้แค่นี้แหละครับ -__-
สรุป เกรด B+
:: แฟร้งค์ แลมพาร์ด ::
เป็นผู้เล่นที่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังที่สุดของอังกฤษ ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ "ดวงตก" แลมพาร์ด ดวงตกอย่างร้ายแรงมากในทัวนาเม้นต์นี้อย่างไม่ทราบสาเหตุได้เลยทั้งๆที่หาตำแหน่งยิงประตูได้ดีเหมือนเดิมแต่ ยิงยังไงก็ไม่เป็นประตู ความเชื่อมั่นก็ลดไปเรื่อยๆ แถมยังมายิงจุดโทษพลาดอีกเป็นทัวนาเม้นต์ที่ทำให้แลมพาร์ดฝันร้ายไปอีกนาน ...
สรุป เกรด F
:: สตีเว่น เจอราร์ด ::
ไม่ได้ต่างอะไรจาก แลมพาร์ดมากนัก เพียงแต่มีโชคมากกว่า แลมพาร์ด ตรงที่ยิงได้ 2 ประตู แต่เจอราร์ดก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย ถ้าลองมองกันจริงๆ ต้องพูดกันอีกครั้งว่า เจิด และ แลมพ์ มันเล่นด้วยกันไม่ได้จริงๆ หรือ เพราะแผนการเล่นของอิริคสัน ทำให้ 2 คนนี้เล่นด้วยกันไม่ได้กันแน่ ?????
สรุป เกรด D
:: โจ โคล ::
จริงๆ คงต้องบอกว่า โจ โคล น่าจะเป็นผู้เล่นของอังกฤษในแนวรุกที่เล่นได้ดีที่สุดในทีมแล้ว แถมยังยิงประตูสุดสวยอีกในแมตซ์ เจอสวีเดน แต่ต้องบอกว่า สเวน ใช้ โจ โคล ได้ไม่คุ้มกับความสามารถที่เจ้าตัวมีเท่าไหร่เลยจริงๆ ...
สรุป เกรด B
:: เวย์น รูนี่ย์ ::
จบ ทัวนาเม้นต์นี้ รูนี่ย์ คงต้องคิดถึง "เฟอร์กี้" สักหน่อยละครับ ว่าเหตุผลอันใด เฟอร์กี้ถึงไม่อยากให้เจ้าตัวมา ????? ผลจากการมาก็เป็นอย่างที่เห็นคือ พบกับฝันร้าย ด้วยการเอาใบแดงกลับมาบ้าน ....
สรุป เกรด D
:: ไมเคิ่ล โอเว่น ::
กองหน้าผู้โชคร้าย ที่ไม่รู้เจออาถรรพ์อะไรเข้า อยู่ดีๆก็เข่าพังซะแบบนั้น จะเรียกว่าเป็นลางร้ายของอังกฤษเลยก็ว่าได้ แต่นัดอื่นก็เล่นไม่ดีเลย ส่วนหนึ่งก็มาจากแผนการเล่นของสเวน และ ความไม่ฟิตของเจ้าตัวนั่นเอง ถือว่าโชคร้ายมากสำหรับโอเว่น
สรุป เกรด F
ปีเตอร์ เคร้าซ์
สำหรับ เคร้าซ์ นั้นต้องบอกได้เลยว่าสำหรับทัวนาเม้นต์นี้ อยู่ในเกณฑ์ กลางๆ ค่อนไปทางแย่ เรื่องการพักบอลให้เพื่อนกับความทุ่มเทนั้น ทำได้ดี แต่เรื่องยิงประตูต้องบอกอย่างเดียวเลยว่า ต้องส่ายหัว สถานเดียว
สรุป เกรด C
:: โอเว่น ฮากรีฟส์ ::
เป็นนักเตะที่เป็นการค้นพบที่สายเกินไปในตำแหน่ง DMC สำหรับอังกฤษ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล แต่เจ้าตัวก็ได้พิสูจน์ถึงความสามารถและความทุ่มเทที่แท้จริงออกมาแล้วว่า ถ้าเขาได้เล่นตำแหน่งที่ถนัดเขาจะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และที่สำคัญมีเจ้าตัวคนเดียวนี่แหละครับที่ ยิงจุดโทษเข้า ถ้าสเวน รู้จักใช้เขาให้เป็นกว่านี้แฟนอังกฤษคงไม่มองเขาแง่ร้ายหรอก
สรุป เกรด B
:: อารอน เลนน่อน
นี่คือ อนาคตของทีมชาติอังกฤษครับ แมตซ์ที่เขาถูกส่งลงมา ล้วนแล้วแต่ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเจอ ตรินิแดด หรือ โปรตุเกส แต่สิ่งที่เขาขาดไปมีเพียงอย่างเดียวคือ ประสบการณ์ครับ ปี 2010 นี่ถ้าเลนน่อนยังเล่นได้ดีแบบนี้ ต้องจับตาดูอย่ากระพริบเลย
สรุปเกรด B
:: เจมี่ คาราเกอร์ ::
จำเป็นต้องมาเล่นตำแหน่ง แบ๊กขวา แทน แกรี่ หลายครั้งซึ่งก็ทำได้แย่ เพราะตำแหน่งถนัดของแกคือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
สรุป เกรด D
:: โซล แคมป์เบลล์ ::
เล่นเพียงนัดเดียวเท่านั้นคือ เจอกับสวีเดน ซึ่งก็เล่นได้ค่อนข้างแย่ไป แต่มันก็แค่นัดเดียวสำหรับเขาตัดสินอะไรไม่ได้ครับ
สรุป เกรด - เล่นจริงเพียงนัดเดียวคงตัดสินอะไรมากไม่ได้งับ
:: ไมเคิ่ล คาร์ริค ::
เล่นนัดเดียวเหมือนกับ โซล ครับ ตัดสินอะไรไม่ได้มากนัก
สรุป เกรด - ไม่มีครับ
คนอื่นๆ ไม่ได้ลงครับเลยไม่มีคะแนน ทั้ง เจมส์ , คาร์สัน , เจนาส , วัลค็อตต์
กุนซือ
:: สเวน โกรัน อิริคสัน ::
หมดยุคของเขาแล้วครับ ทำทีมชุดนี้ได้แย่ที่สุด มาตั้งแต่เลือกตัวนักเตะแล้ว และคิดผิดอย่างมากที่ไม่เลือก เดโฟ มา นอกนั้นก็อย่างที่เห็นในบอลโลกครับ ไม่จำเป็นต้องวิจารณ์อะไรอีก อังกฤษชุดนี้เล่น แย่กว่าชุด 2002 และ ยูโร 2004 เยอะครับ
สรุป เกรด F
สรุปสำหรับอังกฤษ อังกฤษ ก็คงต้องบอกว่าเจออาถรรพ์อะไรเล่นงานก็ไม่ทราบเหมือนกัน (หรือจะเป็นอาถรรพ์ 1966) อยู่ดีๆ แลมพ์ กับ เจิด ก็มาฟอร์มตก + ดวงตก พร้อมๆกันทั้งที่ตอนหลังจบ พรีเมียร์ ยังเล่นได้ดีกันอยู่เลย โอเว่น ก็มาเจ็บกลับบ้านซะเฉยๆ เบ๊คแฮม ก็ไม่รู้โดนอะไรเน่าไปอีกคน รูนี่ย์ ก็ไม่ฟิตมาตั้งแต่ก่อนทัวนาเม้นต์ แล้วแถมอยู่ดีๆก็มาเจอใบแดงแบบแปลกซะอีก ...
นี่ถ้าอังกฤษอยากเป็นแชมป์โลกคงต้องทำลายอาถรรพ์หลายอย่างเลย คือ ชนะ สวีเดน ชนะจุดโทษ และ ชนะ บราซิล ถ้าทำได้คงแชมป์โลกซะละมั้ง ~