รูดม่านฟุตบอลโลก 2006 กับสถิตมากมาย........

ฟุตบอลโลกจบลงด้วยชัยชนะของ อิตาลี ที่ฟาดแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ของตัวเอง หลังจากรอคอยกันมานาน 12 ปี พร้อมกับอาถรรพ์หมายเลข 12 รวมไปถึงการปิดฉากอาชีพการค้าแข้งอันสุดคลาสสิคไปอีกแบบของ ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม จากการเอาหัวไปไถใส่ มาร์โค มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี
สถิติที่น่าสนใจที่บังเกิดขึ้นฟุตบอล เวิลด์ คัพ ในครั้งนี้ มีอะไรบ้าง
1. มาร์คุส อัลบัค กองหน้าทีมชาติสวีเดน ยิงประตูที่ 2,000 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่ง อัลบัค ทำได้ในเกมที่เสมอกับ อังกฤษ 2-2 ในนัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่มบี ส่วน ประตูที่ 1,000 คือ ร็อบ เรนเซนบริงค์ จาก ฮอลแลนด์ ในปี 1978 ที่อาร์เจนติน่า
2.โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ทำประตูในฟุตบอลโลกในครั้งนี้ 3 ประตูทำให้ยอดประตูรวมเป็น 15 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในศึกฟุตบอลโลก แซงหน้า แกร์ด มุลเลอร์ อดีตหัวหอกทีมชาติเยอรมนีตะวันตก ที่ครองสถิตินี้มาอย่างยาวนานที่ 14 ประตูในที่สุด
3.สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นทีมแรกที่ตกรอบฟุตบอลโลก โดยที่ไม่เสียประตูเลยสักลูก โดยพวกเขาเสมอ ยูเครน ใน 120 นาทีของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะแพ้ไปในการดวลจุดโทษในที่สุด
4.ริคาร์โด้ ผู้รักษาประตูทีมชาติโปรตุเกส กลายเป็นนายทวารคนแรกที่สามารถเซฟจุดโทษได้ถึง 3 ลูกใน 1 แมตช์ของฟุตบอลโลก
5.เยอรมนี กลายเป็นทีมเดียวที่ยิงจุดโทษในศึกฟุตบอลโลก 4 ครั้งและเอาชนะได้ทุกครั้ง
6.ด้วยวัย 18 ปี 357 วัน ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนติน่า กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดคนที่ 5 ที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก โดย เมสซี่ ยิงได้ในเกมที่ทีม "ฟ้าขาว" เอาชนะ เซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร 6-0 ในการแข่งขันรอบแรก กลุ่มซี ที่เมืองเกลเซ่นเคียร์เซ่น
7.ยาห์ย่า โกโลฮัมมาดี้ ของ อิหร่าน กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดคนที่ 5 (36 ปีกับอีก 84 วัน) ที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก โดยทำได้ในเกมที่พบ เม็กซิโก เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน
8.ในเกมที่พบ ยูเครน นั้น อาลี บูมนิเจล นายทวารทีมชาติตูนิเซีย กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก
9.อ๊อตโต้ ฟิสเตอร์ กุนซือชาวเยอรมัน ของทีมชาติโตโก กลายเป็นกุนซืออายุมากที่สุดด้วยวัย 68 ปี 211 วันที่ทำทีมในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลโลก ส่วนอันดับที่ 3 คือ หลุยส์ อราโกเนส เทรนเนอร์ขรัวเฒ่าทีมชาติสเปน ที่วัย 67 ปี 334 วัน
10."บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือทีมชาติโปรตุเกส ชาวบราซิล หยุดสถิติเก็บชัยชนะในฟุตบอลโลก 11 แมตช์ติดต่อกัน ในเกมที่ชนะการดวลจุดโทษ อังกฤษ หลังเสมอกันในช่วงเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-0
11.ด้วยชัยชนะ 4 นัดตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติบราซิล ทำสถิติเก็บชัยชนะ 11แมตช์ติดต่อกันในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
12.จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารทีมชาติอิตาลี กลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ทำสถิติไม่เสียประตู 453 นาที ในฟุตบอลโลก
13.โฮราซิโอ เอลิซอนโด้ จาก อาร์เจนติน่า กลายเป็นผู้ตัดสินคนแรกที่ได้ลงทำหน้าที่ทั้งนัดเปิดสนามและนัดปิดสนาม และเป็นท่านเปารายที่ 2 ต่อจาก เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย จาก เม็กซิโก ที่ได้ลงเป่านกหวีด 5 แมตช์ ในฟุตบอลโลก
14. ผู้ตัดสิน เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย จาก เม็กซิโก เป็นกรรมการคนแรกที่ได้ลงเป่านกหวีด 5 แมตช์ ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก
15.เกมที่ โปรตุเกส ชนะ ฮอลแลนด์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ทำสถิติมีการแจกใบเหลืองและใบแดงรวมกันมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1 แมตช์ โดยผู้ตัดสิน วาเลนติน อิวานอฟ จากรัสเซีย ให้ใบเหลืองรวมกัน 16 ใบและใบแดงอีก 4 ใบ
16 .คาฟู กลายเป็นนักเตะของทีมชาติบราซิลที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด 20 นัด นอกจากนี้ แบ๊กขวาจาก เอซี มิลาน ยังกลายเป็นนักเตะที่เก็บชัยชนะในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย มากที่สุด 16 นัดด้วย
17.กุส ฮิดดิงค์ กุนซือชาวดัตช์ ทำสถิติพาทีมที่ตัวเองคุม 3 ทีม ผ่านรอบแรกไปได้ โดยครั้งแรกในปี 1998 กับ ฮอลแลนด์, เกาหลีใต้ ในปี 2002 และออสเตรเลีย ในครั้งนี้
18.คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า กุนซือคนใหม่หน้าเดิมของทีมชาติบราซิล กลายเป็นโค้ชคนแรกที่พาทีมที่ตัวเองคุม เจอกับทีมชาติในทุกทวีป ในการแข่งขัน เวิลด์ คัพ
19.นอกจากนี้ ปาร์ไรร่า ยังทำสถิติเทียบเทียบ โบร่า มิลูติโนวิช ที่พาทีมตัวเองลงเล่นในฟุตบอลโลก 5 สมัย
20.ขณะเดียวกัน ปาร์ไรร่า ทำสถิติคุมทีมในฟุตบอลโลก 20 แมตช์ เทียบเท่า มาริโอ ซากัลโล่ และ โบร่า มิลูติโนวิช โดยคนที่ทำทีมตัวเองลงแข่งขันมากที่สุดคือ เฮลมุท เชิน 25 นัด
21.แมตช์ที่ ฝรั่งเศส ชนะ สเปน เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย นัดที่ 700 พอดี
22.เกมที่ ยูเครน ชนะการดวลจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นคู่ที่ทำสกอร์ระหว่างการดวลจุดโทษ น้อยที่สุด นอกจากนี้ทีมลูกหนังสวิส ยังกลายเป็นทีมแรกที่ยิงประตูไม่เข้าเลยด้วยในการดวลเป้า
23.11 ประตูที่ อิตาลี ทำได้ ก่อนรอบชิงชนะเลิศ เป็นการยิงประตูได้โดยนักเตะไม่ซ้ำหน้ากัน 10 คน เทียบเท่าสถิติของทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อปี 1982
24.ผู้ชมโดยเฉลี่ยในฟุตบอลโลก ครั้งนี้คือ 52,500 คน กลายเป็นสถิติสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โดยสถิติคนดูมากที่สุดเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่ประเทศสหรัฐฯ โดยมีผู้ชมเฉลี่ย 68,991 ต่อ 1 นัด
25.มีการทำประตูกันทั้งหมด 147 นัด เฉลี่ย 2.3 ประตูต่อนัด และมีการทำเข้าประตูตัวเอง 4 ลูก โดยคนแรกที่ทำประตูในฟุตบอลโลก 2006 คือ ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ๊กซ้ายจากเยอรมนี ส่วนคนสุดท้าย คือ มาร์โก มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี
26.มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในทัวร์นาเมนต์นี้ที่ 5 ประตู และยิงรวมกันในฟุตบอลโลก 10 ประตูของ โคลเซ่ ด้วย
27.ฟาบิโอ คันนาวาโร่ คว้าแชมป์โลกในเกมที่ตัวเองลงเล่นให้กับทีมชาติเป็นนัดที่ 100 พอดี
28.ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ปิดฉากการค้าแข้งเกือบ 20 ปีของตัวเองด้วยการถูกไล่ออก ในเกมสุดท้าย หลังไปเอาหัวโขกใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ ในนัดชิงชนะเลิศ
29.อิตาลี ได้แชมป์บนแผ่นดินเยอรมนี ในปี 2006 ขณะที่ เยอรมนี (ตะวันตก) ก็ได้แชมป์บนแผ่นดินอิตาลี เมื่อปี 1990 นอกจากนี้ อิตาลี ได้อันดับที่ 3 ในการเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 1990 ขณะที่ เยอรมนี คว้าที่ 3 ในการทำหน้าที่เจ้าภาพ
สถิติที่น่าสนใจที่บังเกิดขึ้นฟุตบอล เวิลด์ คัพ ในครั้งนี้ มีอะไรบ้าง
1. มาร์คุส อัลบัค กองหน้าทีมชาติสวีเดน ยิงประตูที่ 2,000 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่ง อัลบัค ทำได้ในเกมที่เสมอกับ อังกฤษ 2-2 ในนัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่มบี ส่วน ประตูที่ 1,000 คือ ร็อบ เรนเซนบริงค์ จาก ฮอลแลนด์ ในปี 1978 ที่อาร์เจนติน่า
2.โรนัลโด้ ดาวยิงทีมชาติบราซิล ทำประตูในฟุตบอลโลกในครั้งนี้ 3 ประตูทำให้ยอดประตูรวมเป็น 15 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในศึกฟุตบอลโลก แซงหน้า แกร์ด มุลเลอร์ อดีตหัวหอกทีมชาติเยอรมนีตะวันตก ที่ครองสถิตินี้มาอย่างยาวนานที่ 14 ประตูในที่สุด
3.สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นทีมแรกที่ตกรอบฟุตบอลโลก โดยที่ไม่เสียประตูเลยสักลูก โดยพวกเขาเสมอ ยูเครน ใน 120 นาทีของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะแพ้ไปในการดวลจุดโทษในที่สุด
4.ริคาร์โด้ ผู้รักษาประตูทีมชาติโปรตุเกส กลายเป็นนายทวารคนแรกที่สามารถเซฟจุดโทษได้ถึง 3 ลูกใน 1 แมตช์ของฟุตบอลโลก
5.เยอรมนี กลายเป็นทีมเดียวที่ยิงจุดโทษในศึกฟุตบอลโลก 4 ครั้งและเอาชนะได้ทุกครั้ง
6.ด้วยวัย 18 ปี 357 วัน ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนติน่า กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดคนที่ 5 ที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก โดย เมสซี่ ยิงได้ในเกมที่ทีม "ฟ้าขาว" เอาชนะ เซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร 6-0 ในการแข่งขันรอบแรก กลุ่มซี ที่เมืองเกลเซ่นเคียร์เซ่น
7.ยาห์ย่า โกโลฮัมมาดี้ ของ อิหร่าน กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดคนที่ 5 (36 ปีกับอีก 84 วัน) ที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก โดยทำได้ในเกมที่พบ เม็กซิโก เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน
8.ในเกมที่พบ ยูเครน นั้น อาลี บูมนิเจล นายทวารทีมชาติตูนิเซีย กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก
9.อ๊อตโต้ ฟิสเตอร์ กุนซือชาวเยอรมัน ของทีมชาติโตโก กลายเป็นกุนซืออายุมากที่สุดด้วยวัย 68 ปี 211 วันที่ทำทีมในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลโลก ส่วนอันดับที่ 3 คือ หลุยส์ อราโกเนส เทรนเนอร์ขรัวเฒ่าทีมชาติสเปน ที่วัย 67 ปี 334 วัน
10."บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือทีมชาติโปรตุเกส ชาวบราซิล หยุดสถิติเก็บชัยชนะในฟุตบอลโลก 11 แมตช์ติดต่อกัน ในเกมที่ชนะการดวลจุดโทษ อังกฤษ หลังเสมอกันในช่วงเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-0
11.ด้วยชัยชนะ 4 นัดตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติบราซิล ทำสถิติเก็บชัยชนะ 11แมตช์ติดต่อกันในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
12.จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารทีมชาติอิตาลี กลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ทำสถิติไม่เสียประตู 453 นาที ในฟุตบอลโลก
13.โฮราซิโอ เอลิซอนโด้ จาก อาร์เจนติน่า กลายเป็นผู้ตัดสินคนแรกที่ได้ลงทำหน้าที่ทั้งนัดเปิดสนามและนัดปิดสนาม และเป็นท่านเปารายที่ 2 ต่อจาก เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย จาก เม็กซิโก ที่ได้ลงเป่านกหวีด 5 แมตช์ ในฟุตบอลโลก
14. ผู้ตัดสิน เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย จาก เม็กซิโก เป็นกรรมการคนแรกที่ได้ลงเป่านกหวีด 5 แมตช์ ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก
15.เกมที่ โปรตุเกส ชนะ ฮอลแลนด์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ทำสถิติมีการแจกใบเหลืองและใบแดงรวมกันมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1 แมตช์ โดยผู้ตัดสิน วาเลนติน อิวานอฟ จากรัสเซีย ให้ใบเหลืองรวมกัน 16 ใบและใบแดงอีก 4 ใบ
16 .คาฟู กลายเป็นนักเตะของทีมชาติบราซิลที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด 20 นัด นอกจากนี้ แบ๊กขวาจาก เอซี มิลาน ยังกลายเป็นนักเตะที่เก็บชัยชนะในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย มากที่สุด 16 นัดด้วย
17.กุส ฮิดดิงค์ กุนซือชาวดัตช์ ทำสถิติพาทีมที่ตัวเองคุม 3 ทีม ผ่านรอบแรกไปได้ โดยครั้งแรกในปี 1998 กับ ฮอลแลนด์, เกาหลีใต้ ในปี 2002 และออสเตรเลีย ในครั้งนี้
18.คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า กุนซือคนใหม่หน้าเดิมของทีมชาติบราซิล กลายเป็นโค้ชคนแรกที่พาทีมที่ตัวเองคุม เจอกับทีมชาติในทุกทวีป ในการแข่งขัน เวิลด์ คัพ
19.นอกจากนี้ ปาร์ไรร่า ยังทำสถิติเทียบเทียบ โบร่า มิลูติโนวิช ที่พาทีมตัวเองลงเล่นในฟุตบอลโลก 5 สมัย
20.ขณะเดียวกัน ปาร์ไรร่า ทำสถิติคุมทีมในฟุตบอลโลก 20 แมตช์ เทียบเท่า มาริโอ ซากัลโล่ และ โบร่า มิลูติโนวิช โดยคนที่ทำทีมตัวเองลงแข่งขันมากที่สุดคือ เฮลมุท เชิน 25 นัด
21.แมตช์ที่ ฝรั่งเศส ชนะ สเปน เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย นัดที่ 700 พอดี
22.เกมที่ ยูเครน ชนะการดวลจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กลายเป็นคู่ที่ทำสกอร์ระหว่างการดวลจุดโทษ น้อยที่สุด นอกจากนี้ทีมลูกหนังสวิส ยังกลายเป็นทีมแรกที่ยิงประตูไม่เข้าเลยด้วยในการดวลเป้า
23.11 ประตูที่ อิตาลี ทำได้ ก่อนรอบชิงชนะเลิศ เป็นการยิงประตูได้โดยนักเตะไม่ซ้ำหน้ากัน 10 คน เทียบเท่าสถิติของทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อปี 1982
24.ผู้ชมโดยเฉลี่ยในฟุตบอลโลก ครั้งนี้คือ 52,500 คน กลายเป็นสถิติสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โดยสถิติคนดูมากที่สุดเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่ประเทศสหรัฐฯ โดยมีผู้ชมเฉลี่ย 68,991 ต่อ 1 นัด
25.มีการทำประตูกันทั้งหมด 147 นัด เฉลี่ย 2.3 ประตูต่อนัด และมีการทำเข้าประตูตัวเอง 4 ลูก โดยคนแรกที่ทำประตูในฟุตบอลโลก 2006 คือ ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ๊กซ้ายจากเยอรมนี ส่วนคนสุดท้าย คือ มาร์โก มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี
26.มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในทัวร์นาเมนต์นี้ที่ 5 ประตู และยิงรวมกันในฟุตบอลโลก 10 ประตูของ โคลเซ่ ด้วย
27.ฟาบิโอ คันนาวาโร่ คว้าแชมป์โลกในเกมที่ตัวเองลงเล่นให้กับทีมชาติเป็นนัดที่ 100 พอดี
28.ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ปิดฉากการค้าแข้งเกือบ 20 ปีของตัวเองด้วยการถูกไล่ออก ในเกมสุดท้าย หลังไปเอาหัวโขกใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ ในนัดชิงชนะเลิศ
29.อิตาลี ได้แชมป์บนแผ่นดินเยอรมนี ในปี 2006 ขณะที่ เยอรมนี (ตะวันตก) ก็ได้แชมป์บนแผ่นดินอิตาลี เมื่อปี 1990 นอกจากนี้ อิตาลี ได้อันดับที่ 3 ในการเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 1990 ขณะที่ เยอรมนี คว้าที่ 3 ในการทำหน้าที่เจ้าภาพ