หน้า 1 จากทั้งหมด 2

คุณรู้หรือไม่ เกี่ยวกับฟุตบอลโลก

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 21:04
โดย princessgirl
1. เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน เวลาทำประตูได้ ชอบพูดคำว่า
"เจ้าหล่อนอยู่นั่น" สร้างความงุนงงกับฝ่ายตรงข้าม

2. อินเดียผ่านเข้ารอบคัดเลือกในฟุตบอลโลก 1950 แต่ต้องถอนตัวเนื่องจาก
นักเตะอินเดียไม่ยอมใส่รองเท้าเล่น

3. เวลส์ เป็นแชมปกลุ่มแอฟริกาและเอเชียในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 1958
เพราะหลายทีมถอนตัวออก เนื่องจากไม่อยากแข่งกับอิสราเอล ฟีฟ่าจึงจับสลากแบ่งกลุ่มให้ทีมใหม่ต่างๆ เวลส์แข่งกับอิสราเอล และชนะได้เข้ารอบสุดท้าย

4. การยิงจุดโทษ เกิดขึ้นในปี 1978 เกมฟุตบอลโลกในกลุ่มแอฟริกา
ระหว่างโมร็อกโกกับตูนีเซีย

5. คนที่ครองแชมป์ถ้วยฟุตบอลโลกได้เกิน 4 ปี คือ
ดร. ออตโตรีโน บาราสซี่ รองประธานฟีฟ่า กลัวว่าถ้วยจูลส์ ริเมต์ อาจสูญหายในช่วงฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ใน ค.ศ. 1939 เขาจึงนำไปเก็บไว้โดยซ่อนไว้ใต้เตียงนอน เมื่อสงครามสงบลงใน ค.ศ. 1945 จึงออกนำมาคืนให้ฟีฟ่า

6. ใน ค.ศ. 1934 โค้ช ทีมชาติ อิตาลี บอกลูกทีมว่า
จะให้ไปเป็นทหาร หากเล่นไม่ได้เรื่อง
ผลปรากฏว่า "อิตาลีเป็นแชมป์โลก" ในปีนั้น

7. เฟเรนซ์ ปุสกัส นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติ ฮังการี
สถิติที่สวยหรู 83 ประตู ใน 84 นัดกับทีมชาติ
เป็นนักเตะถนัดเท้าซ้าย ไม่เคยเล่นบอลด้วยเท้าขวา เพราะในอดีต
พ่อของเขาไม่มีเงินซื้อรองเท้าให้ 2 ข้าง จึงซื้อมาได้แต่ข้างขวา
เวลาเล่นเขาจึงไม่เคยใช้เท้าขวา เพราะกลัวว่ารองเท้าจะขาด

8. บราซิล คือชาติแรก ที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกในแผ่นดิน ต่างทวีป

9. นักเตะบราซิลที่ได้เหรียญแชมป์โลกในปี ค.ศ. 1934 คือ แอนฟิโลจิโน กัวราซี่
เป็นไปได้ยังไงในปีนั้นบราซิลตกรอบแรก
เขาไปเล่นให้อิตาลี

10. เอ็ดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต คือ ชื่อจริงของ เปเล่

11. เปเล่ ติดทีมชาติเมื่ออายุ 16 ปี

12. ตั๋วค่าชมฟุตบอลโลกครั้งแรก มีค่าแค่ 5 เพนนี

13. ผู้เจอถ้วยจูลส์ ริเมต์ที่หายไปในระหว่างการโชว์ที่นิทรรศการแสตมป์ในลอนดอน คือ สุนัข
ชื่อ "พิคเคิลส์" มันได้ร่วมฉลองแชมป์โลกกับทีมชาติอังกฤษ ใน ค.ศ. 1966 ด้วย
แต่น่าเศร่าที่ไม่นานมันก็ตาย เพราะ ปลอกคอของมันรัดจนหายใจไม่ออก

14. แจ๊คกี้ ชาร์ลตัน พี่ชายของบ๊อบบี้
ใช้มือปัดบอลไม่ให้เข้าประตูจนเสียจุดโทษ และโปรตุเกสได้ประตู ใน ค.ศ.1966
เขาไม่โดนแม้แต่ใบเหลือง ถ้าเป็นสมัยนี้เขาอาจถูกไล่ออกและไม่ได้เล่นนัดชิงชนะเลิศ

15. นัดที่อังกฤษเจอกับ เยอรมนีตะวันตก รองชิงชนะเลิศ
เป็นแมตช์ที่น่าจดจำที่สุด เมือ่ เจฟฟ์ เฮิร์ต ยิงชนคานและลูกตกลงพื้น ผู้ตัดสินให้เป็นประตู
เขาบอกว่า
"ที่ผมทำได้คือ มีแรงเท่าไหร่ ซัดให้เต็มที่ ยิงให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้
ถ้ามันข้ามคานออกไปนอกสนามก็ช่างมัน เพราะเวลาใกล้หมดแล้ว ระยะนั้นประมาณ 50 หลา
ห่างจากประตูที่เวมบลีย์ จะให้เตะออกไปถึงที่จอดรถก็ต้องทำเพื่อให้หมดเวลา"

16. เดนนิส ลอว์ นักเตะสกอตแลนด์ที่ไม่ชอบทีมชาติอังกฤษมาก
วันชิงชนะเลิศของทีมชาติอังกฤษเขาไม่ได้ชมเกม เพราะไปตีกอล์ฟ
มีคนบอกว่าอังกฤษชนะเขาพูดว่า
"นี่เป็นวันอันมืดมิดจริงๆ"


17. อลัน เชียเรอร์ ดาวยิงทีมชาติ อังกฤษ
เชื่อในสัญลักษณ์นำโชค คือ แม่ยายของเขานั่นเอง!!!
เพราะเธอไปดูเขาเล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นนัดแรก เขาทำประตูได้
อี 4 นัด ต่อมาเธอไม่ได้ประตู ปรากฏว่าเขาทำประตูไม่ได้เลย
เมื่อเธอมาดูการแข่งขัน เขาจึงมักทำประตูได้

18. Goal !!!!!! (ประตู) เปเล่ตะโกนออกมาเมื่อโหม่งบอลออกจากศีรษะ
เขามั่นใจว่าต้องได้ประตูแน่ๆ แต่แล้ว
กอร์ดอน แบงคส์ ประตูทีมชาติอังกฤษกลับป้องกันได้เสียนี่
จากนั้นเลยมีสำนวนใหม่มาว่า "ปลอดภัยเหมือนกับแบงคส์ของอังกฤษ"

19. อิตาลีกับบราซิลเจอกันเมื่อทั้ง 2 ทีมกำลังแข่งกันเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3
เพราะจะได้ถ้วยจูลส์ ลิเมต์ไปครอง ผล บราซิลชนะ
แต่ไม่ตลอดไป เขาครองถ้วยได้แค่ปี ค.ศ.1984 แล้วก็ไม่ได้เห็นเลย เนื่องจาก
ถ้วยถูกขโมยและนำไปหลอม ไม่มีถ้วยอันโด่งดังอีกแล้ว

20. บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน
เขาเป็นที่สนใจของแมวมองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเห็นเขาระหว่างเล่นกับทีมโรงเรียน
และกลับมาเล่าให้แม็ตต์ บัสบี้ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดว่า
"เด็กคนนี้จะเป็นยอดนักเตะของโลก"

เมื่อยแล้ว...นั่งพิมเองเลยนะนี่ :shock: :shock:
เฮ้อ...ไว้คราวหน้ามาลงใหม่

:oops: :oops:

ใครรู้อะไรอีกบ้าง
:roll: :roll:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 21:10
โดย กูแหยม
ข้อ 5 เคยได้ยินว่าในกล่องรองเท้า (ไม่ต่างกันเท่าไรร้อก)

ข้อ 8 และในปัจจุบันทีมจากยุโรป ก็ยังไม่เคยได้แชมป์นอกทวีป
ดังนั้น บอลโลกที่แอฟริกา 2010 บราซิลคงได้แชมป์อีกแหงมๆ 555+

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 21:15
โดย monnyja
ขอบคุณครับบางอันเพิ่งรู้วันนี้เอง
ว่าแต่น่าไปแข่งแฟนพันธ์แท้ฟุตบอลโลกนะ
ความรู้แน่นดี :wink:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 21:15
โดย Inw Ronaldo7
ขอบคุณคร้าบ
ไม่รู้ซักเรื่องเลย

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 21:38
โดย ReDArmYBoY
ขอบคุณสำหรับความรู้คับ และแล้วสมองผมก้มีรอยหยักเพิ่มอีก จึ๋งนึง ไม่นึกเลยว่า เปเล่ก้ประมาทเป็น

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 22:00
โดย ไรอันกิ๊กคือ..พ่อคนที่2
ขอบคุณครับ :wink:

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 22:01
โดย ronaldy&roono
ก้อดี

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 29, 2006 22:49
โดย RoOnEyIcE
ขอบคุนค๊าบไม่รู้ซักเรื่องเลย :oops: :wink:

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 00:07
โดย not_redarmy
พิมเองเลยหรอเนี่ย เยอะนะเนี่ย ถ้าเราพิมเป็นวันอะ 55

ปุสกัสนี่เพิ่งรุ้นะเนี่ย แปลกจริงๆ

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 14:44
โดย princessgirl
21. บ๊อบบี้ มัวร์
เป็นกัปตันเวสต์แฮมที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 23 ปี แล้วก็เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษด้วย
เปเล่ยกให้เป็นกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
เขายิงประตูไม่มาก การแสดงความดีใจเมื่อทำประตูได้คือ วิ่งกลับมาที่วงกลมกลางสนาม เพื่อรอเขี่ยลูกใหม่
แล้วปล่อยให้เพื่อนดีใจกันเอง

22. บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ยิงให้แมนฯยูฯ 230 ประตู ใน 727 นัด ทั้งในลีกบอลถ้วยและยูโรเปี้ยนคัพ
ในจำนวนที่ยิงได้นั้น หนึ่งประตูไม่ได้จากลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมที่แจ๊คกี้ พี่ชายเขาเล่นอยู่
แจ๊คกี้เป็นกองหลังเสียบหนักจนแม่ของพวกเขาคือ คิสซี่ มักเตือนแจ๊คกี้เสมอว่าอย่าเตะบ๊อบบี้เวลา 2 ทีมเจอกัน
เกมหนึ่งที่เจอกันบ๊อบบี้เลี้ยงบอลหลบแจ๊คกี้จนเสียหลัก แต่แจ๊คกี้ลุกขึ้นพร้อมตะโกนไล่หลังว่า "อย่าคิดนะว่าจะยิงได้"

23. บิลลี่ ไรท์ เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ติดทีมชาติ 100 นัด และติดทั้งหมด 105 นัด
เขาเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1950 และ 1954
เป็นกองหลังที่ไม่เคยโดนใบเหลืองเลย ไม่ว่าจะเล่นให้ทีใชติหรือสโมสร(วูล์ฟแฮมตันวันเดอเรอร์ส)

24. ปีเตอร์ ชิลตัน เป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษที่ติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลด้วยสถิติ 125 นัด
เล่นฟุตบอลโลก 3 สมัย คือ 1982, 1986 และ 1990 เล่นในลีกมากกว่า 1,000 นัด ตลอดการเล่นฟุตบอลอาชีพ

25. ฟีล นีล จากลิเวอร์พูล ติดทีมชาติหนึ่งนัดโดยไม่โดนบอลแม้แต่ครั้งเดียว
โดยเป็นตัวสำรองนาทีสุดท้ายในเกมกับฝรั่งเศส ซึ่งเขาเตรียมเตะฟรีคิก แต่กรรมการเป่านกหวีด ยุติเกมเสียก่อน
:lol: :lol:

26. นัดเปิดสนามฟุตบอลโลกปี 1974 ต้องล่าช้าออกไปเพราะเจ้าหน้าที่สนามลืมตั้งเสาประตู :shock:

27. ถ้วย"ฟีฟ่า เวิลด์คัฟ"
ออกแบบโดยปฏิมากรชาวอีตาลีชื่อ ซิลวีโอ แกซซาร์ริก้า
ทำจากทองคำแท้มูลค่า 100,000 ฟรังก์สวิส สูง 42 เซนติเมตร (15นิ้ว)
ถ้วยใบนี้จะไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของใครแม้จะได้แชมป์โลกกี่สมัยก็ตาม

28. ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์
เคยเป็นพนักงานฝึกหัดขายประกันมาก่อน
เป็นนักเตะอาชีพกับบาเยิร์นตอนอายุ 17 ปี
และติดทีมชาติตอนอายุ 19 ปี โดยเล่นเป็นปีกซ้าย ติดทีมชาติ 103 นัด
แต่ตำแหน่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงที่สุดคือ "ตัวกวาดที่เปิดเกมบุก" (attacking sweeper)
เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ได้แชมป์โลกในฐานะนักเตะ และเป็นแชมป์โลกในฐานะโค้ช

29. ในฟุตบอลโลกปี 1978 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพและเป็นแชมป์โลก
โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ผู้จัดการทีมยูเวนตุสกล่าวว่า
"หากการแข่งขันจัดขึ้นที่อื่น อาร์เจนติน่าไม่มีทางผ่านรอบแรกดวยซ้ำ"

30. ฟุตบอลโลกปี 1994 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของไทยคงดีใจมากกว่านี้หากพวกเขาปิดโทรทัศน์ไม่ดูการแข่งขัน
เพราะขณะที่พวกเขาดูโทรทัศน์ โจรฉวยโอกาสขโมยตู้เซฟในธนาคารที่เต็มไปด้วย ธนบัตร

31.เกิดอะไรขึ้นเมื่อชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งอยากดูถ่ายทอดฟุตบอลโลกในปี 1982 แต่ภรรยาอยากคุย
...มีเสียงปืนดังขึ้น
ภรรยาเริ่มรำคาญสามีที่ไม่ยอมพูดกับเธอ ก็เลยจัดการหยิบปืนมายิงสามี
อยากย้ำว่า...ยิงแม่นมากก!!!!!!!!!

32. ในฟุตบอลโลกปี 1982 อังกฤษยิงประตูเร็วที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้โดย
ไบรอัน ร็อบสัน กัปตันทีม ใช้เวลา 27 วินาทีในการยิงประตูฝรั่งเศส

33. กัปตันทีมชาติอังกฤษที่ทำหน้าที่สั้นที่สุดคือ
เรย์ วิลกิ้นส์ เมื่อไบรอัน ร็อบสัน กัปตันทีมเจ็บต้องออกจากสนามในเกมที่พบกับโมร็อกโกในปี 1986
วิลกิ้นส์ สวนปลอกแขนกัปตันทีมแทน แต่ทำหน้าที่ได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องถูกไล่ออกจากสนาม
เพราะ..ขว้างบอลใส่ผู้ตัดสิน!!! :wink:

34. มาราคาน่า สนามยักษ์ในบราซิล ทำสถิติมีคนดูนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกสูงสุดคือ 199,850 คน
สนามแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อต่อกรกับอันธพาลลูกหนังโดยเฉพาะ มีเก้าอี้สีฟ้า เพราะสีนี้ทำให้คนจิตใจสงบเยือกเย็น

35. มาราโดน่า โด่งดังตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
เขาได้ออกโทรทัศน์จากการเดาะบอลด้วยทักษะพิเศษ ทำให้เขาออกโทรทัศน์บ่อยและโด่งดังไปทั่วประเทศ
ได้รับฉายาว่า"หัวหอมน้อย"
ออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 13 ปี เล่นนัดแรกให้กับสโมสรอาร์เจนติโนสจูเนียร์สเมื่อายุ 15 ปี
ติดทีมชาตินัดแรกอายุ 16 ปี 6 เดือน
ได้แชมป์เยาวชนโลกกับอาร์เจนตินาและย้ายมาเล่นกับสโมสรโบคาจูเนียร์สด้วยราคา 1 ล้านปอนด์
บอลโลกจบลงในปี 1982 เขาย้ายมาเล่นให้บาร์เซโลน่าด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก คือ 3 ล้านปอนด์
ในปี 1984 ย้ายมาอยู่นาโปลี ของอิตาลี พร้อมทำสถิติโลกใหม่ด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกอีกครั้งคือ 5 ล้านปอนด์

36. ผู้ตัดสินที่มองไม่เห็นลูก"หัตถ์พระเจ้า"อันโด่งดังของมาราโดน่าคือ อาลี เบนนาคูร์ จากตูนีเซีย
ซึ่งตัดสินนัดที่อังกฤษเจอกับอาร์เจนตินาเป็นนัดแรกของเขาในฟุตบอลโลกและนัดสุดท้าย
ไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุผลอะไร เขาจึงไม่ได้ทำหน้าที่อีกเลย

37. ชุดผู้ตัดสินในฟุจบอลโลกปี 1930 คือ ใส่สูท ผูกเนกไท สวมกางเกงขายาว และดึงถุงเท้าลงมาพับ

38. เดวิด โอ เรียรี่ กองหลังอาร์เซนอล ลงเล่นในฟุตบอลโลกปี 1990 ไม่ถึง 30 นาที แต่เป็นพระเอกของทีม
เพราะลงเล่นนัดเดียวและเป็นตัวสำรองในช่วงต่อเวลาที่ไอร์แลนด์เหนือพบโรมาเนียในรอบสอง
เขายิงประตูให้ทีมชนะเมื่อยิงจุดโทษตัดสินหาผู้เข้ารอบ

39. ในฟุตบอลโลกที่สวีเดนเป็นเจ้าภาพในปี 1958 และได้เข้าชิงชนะเลิศ
แฟนบอลคึกคักมากเมื่อมีเชียร์ลีดเดอร์ ต่อมาฟีฟ่าประกาศห้ามมีเชียร์ลีดเดอร์ แฟนบอลส่งเสียงไม่ออก
ผลปรากฏว่าสวีเดนแพ้บราซิลในนัดชิงชนะเลิศ

40. ฟุตบอลโลกที่อเมริกาปี 1994 ซึ่งเป็นประเทศที่นับเลขไม่ค่อยถูก
นักจัดรายการวิทยุของบีบีซีบอกว่า
"ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมอันดับ 4 ของอเมริกา รองจาก
อเมริกันฟุตบอล เบสบอล บาสเกตบอล และฮอกกี้น้ำแข็ง :shock: :shock:

41. "เป็นที่ 2 ก็เหมือนได้ที่โหล่" คือคำพูดของ คาร์ลอส อัลเบอร์โต ปาไรร่า ในปี 1994
ที่พูดไว้ก่อนเกมนัดแรกของบราซิล และก็ยอดเยี่ยม พวกเขาได้เป็นแชมป์โลก!!! :wink:

42. ในฟุตบอลโลกปี 1987 ฝรั่งเศสทำอะไรแปลกๆ โดยแลกเสื้อกับคู่แข่งก่อนเกมเริ่ม
ฮังการีเลยต้องใส่เสื้อทีมเยือน ปรากฏเสื้อทั้งสองทีมเป็นสีเดียวกัน
ฝรั่งเศสจึงต้องไปขอยืมเสื้อสโมสรท้องถิ่นแถวนั้นมาใส่ลงสนาม

43. ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 1998 ประเทศมัลดีฟส์ ทำสถิติสวยหรูที่สุด
ชนะ-0 เสมอ-0 แพ้-6 ยิงได้-0 เสีย-59 แต้ม-0
สถิติแพ้มากที่สุด คือแพ้อิหร่าน 17-0
อย่างน้อยฟอร์มการเล่นของเขาก็สม่ำเสมอล่ะ :P :P

44. เมื่อมีการจับสลากแบ่งกลุ่มรอบสุดท้ายที่มีการจัดขึ้นที่สนาม สต๊าด เดอ เวโลโดรม ในฝรั่งเศสปี 1998
เมื่อเกมอุ่นเครื่องจบลง แฟนบอลคนหนึ่งวิ่งลงไปในสนาม เลี้ยงบอลเข้าหาประตูโล่งๆ...
แต่เขากลับยิงข้ามคาน ที่แย่คือ แฟนบอลหลังประตูไม่ยอมคืนลูกฟุตบอลให้ :P :P

45. ฟุตบอลโลกปี 1998 จอห์น กอร์แมน ผู้ช่วยโค้ชอังกฤษ บอกกับลูกทีมก่อนเกมที่อังกฤษจะเจอกับอาร์เจนติน่า
ด้วยการพูดถึงบอลโลกปี 1986 ที่อังกฤษแพ้เพราะหัตถ์พระเจ้าของมาราโดน่า
ไมเคิล โอเว่น ซึ่งอายุแค่ 18 ปี กล่าวติดตลกว่า
"ตอนนั้นผมยังอยู่ในเปลอยู่เลย จอห์น" :lol: :lol:

46. ในรอบคัดเลือกปี 2002 ฮอลแลนด์เจอกับไอร์แลนด์
มีเชล ไรซีเกอร์ กองหลังฮอลแลนด์บอกแทคติกก่อนเกมพบกับไอร์แลนด์ว่า
คอยทำลายสมาธิของ รอย คีน เพื่อให้คีนโดนไล่ออก
ผลปรากฏว่า เกมจบลงด้วยการเสมอ 2-2 ทายสิใครต้องออกสนามก่อนกัน
ไรซีเกอร์นั่นเอง!!!! เขาเล่นได้แย่มาก ผู้จัดการจึงเปลี่ยนตัวเขาออกก่อนหมดครึ่งแรก :lol: :lol: :lol:

47. หลังจากที่แพ้อิหร่าน 17-0 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 1998 ทีมมัลดีฟส์ชนะเป็นนัดแรก
โดยชนะกัมพูชา ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2002 โดยชนะ 6-0 เป็นครั้งแรกที่มัลดีฟส์ชนะบอลโลก

48. สถิติที่แพ้มากที่สุดในโลกเป็นของเกาะอเมริกันซามัว
พวกเขาแพ้ออสเตรเลียในรอบคัดเลือก และโดนยิงไป 31-0 !!!! :wink:

49. มัสค็อตตัวแรกในฟุบอลโลกเกิดขึ้นครั้งแรกที่อังกฤษ
เป็นตัวสิงโตเตะฟุตบอล สวมรองเท้าสีแดง ชื่อว่า "เวิลด์คัพ วิลลี่"

50. ตั้งแต่บอลโลกปี 1974 เป็นต้นมา ไม่มีทีมไหนจากนัดเปิดสนามที่เป็นแชมป์โลกได้แม้แต่ทีมเดียว!!!!


:roll: :roll: เหนื่อยมากเจ้าค่า :roll: :roll:

แปลจากหนังสือ"เกมอุตลุด ฟุตบอลโลก"

จบแล้ว พิมพ์นานมากๆ :roll:

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 14:49
โดย princessgirl
กูแหยม เขียน:ข้อ 5 เคยได้ยินว่าในกล่องรองเท้า (ไม่ต่างกันเท่าไรร้อก)


ที่เข้าใจน่ะ ถูกแล้วค่ะ แต่พอดีลืมเขียน ขออภัย :wink: :roll:

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 15:43
โดย NasTa
ความรู้อีกแล้ว

save

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 16:29
โดย AuziferZ
งืมๆๆๆจิงหรอน้องเบีย อ่านแระ....จิงง่ะ

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 16:31
โดย compatriot
คุณรู้หรือไม่ว่k compatriot เป็นแฟนบอลที่หล่อที่สุด 8)

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ก.ย. 30, 2006 16:36
โดย princessgirl
compatriot เขียน:คุณรู้หรือไม่ว่k compatriot เป็นแฟนบอลที่หล่อที่สุด 8)


เอ่อ...คงมีการเข้าใจผิดกันยกใหญ่ค่ะ
คนหลงตัวเองนี่แสดงว่าไม่หล่อค่ะ
อันนี้แน่นอน

:lol: :roll: