หน้า 1 จากทั้งหมด 2
แมนฯยูฯ กับ บอลโลก

เมื่อ:
จันทร์ ม.ค. 16, 2006 23:11
โดย compatriot
1950
เจ้าภาพ- บราซิล
แชมป์ - อุรุกวัย
นักเตะทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นเกมส์แรกในศึกเวิล์ดคัพ
ด้วยชัยชนะ เหนือ ชิลี 2-0 ที่สนาม มาราคาน่า
กรุง ริโอ เดอ จา เนโร
แบ็กซ้ายของแมนฯยูฯ จอห์น แอสตัน ซีเนียร์ หนึ่งในสมาชิกชุด แชมป์เอฟเอคัพปี 1948
กลายเป็นนักเตะคนแรกของปีศาจแดง ที่ได้มีส่วนร่วมในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
แต่ขุนพลสิงโตคำรามก็ต้องผิดหวัง เมื่อพ่ายให้กับ สหรัฐ และสเปน ทำให้ต้งอตกรอบแรกไป ทั้งที่เป็นหนึ่ง
ในทีมเต็งในตอนนั้นด้วย
นอกจากนั้น วอลเตอร์ วินเทอร์บอตท่อม ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ในตอนนั้น คือ อดีต นักเตะของ แมนฯยูฯ
ในปี 1936-37 ในตำแหน่ง ฮาล์ฟ- แบ็ค

เมื่อ:
จันทร์ ม.ค. 16, 2006 23:25
โดย compatriot
1954
เจ้าภาพ - สวิตเซอร์แลนด์
แชมป์ -เยอรมัน
โรเจอร์ ไบรอัน หนึ่งในทีมชุด บัสบี้ เบ็บส์ ถูกเรียกติดทีมชาติแทนที่ จอห์น อัสตัน ซีเนียร์
เขาได้ลงสนามทุกนัด ภายใต้การคุมทีมของ วอลเตอร์ วินเทอร์บอตท่อม
โดย เสมอเบลเยี่ยม ชนะสวิส ก่อนจะแพ้ อุรุกวัย ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
นอกจากนั้น ทอมมี่ เทย์เลอร์ หัวหอกจอมถล่มประตูของแมนฯยูฯ ยังมีโอกาสได้ลงสนามในรอบแรก แต่เขาไม่อาจทำประตูได้เลย
และนี่คือ ครั้งเดียวในบอลโลกของทั้งสองคน เพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ ก็จบชีวิตจากเหตุการณ์ เครื่องบินตกที่มิวนิค
ในปี 1958

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 02:13
โดย compatriot
1958
4 เดือน หลังจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่มิวนิค
บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นนักเตะของยูไนเต็ดทีมเดียว ที่ติดทีมชาติอังกฤษ ชุดนี้
ด้วยวัยเพียง 20 ปี จึงทำให้เขาไม่อาจแทรกไปอยู่ในทีมตัวจริง ภายใต้การคุมทีมของ วินเทอร์บอตท่อมได้
และเป็นอีกครั้งที่ทีมสิงโตคำรามต้องตกรอบแรก ซึ่งอยู่ร่วมกลุ่มกับ บราซิล ออสเตรีย และสหภาพโซเวียต
แฮร์รี่ เกร็ก ฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้โดยสารออกมาจากตัวเครื่องบิน ได้ลงเฝ้าเสาให้กับไอร์แลนด์เหนือ
ในเกมส์ที่ชนะ เชโกสโลวะเกีย ก่อนที่จะแพ้ อาร์เจนติน่า และเสมอ เยอรมันตะวันตก และเขาได้ลงเล่นในรอบควอเตอร์ ไฟนั่ลแต่ถูกฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบไป ด้วยการถล่มถึง 4-0
สกอตแลนด์ ภายใต้การนำของ แม็ตต์ บัสบี้ ต้องกระเด็นตกรอบแรก หลังจากเก็บได้เพียงคะแนนเดียวจากการพบกับ ฝรั่งเศส ยูโกสลาเวีย และปารากวัย
จิมมี่ เมอร์ฟี่ ผู้ช่วยของบัสบี้ที่รับหน้าที่คุมทีมลงเตะ เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 1958 นำทีมชาติเวลล์ ลงปะทะกับ บราซิล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่ายไป 1-0 จากลูกแรกในฟุตบอลโลก ของ ไข่มุกดำ เปเล่

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 02:25
โดย compatriot
1962
เจ้าภาพ - ชิลี
แชมป์ - บราซิล
บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นผู้เล่นจากทีมปีศาจแดง คนเดียว ที่เดินทางสู่อเมริกาใต้
โดยอังกฤษออกสตาร์ตด้วยการแพ้ ฮังการี 1-2 ก่อนจะกลับคืนฟอร์ม ถล่ม อาร์เจนติน่า ไป 3-1 โดยชาร์ลตัน ยิงลูกที่ 2
และเสมอบัลแกเรียแบบโนสกอร์ และได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอแชมป์เก่า บราซิล อัดไป 3-1 ทำให้ตกรอบไปแป็นการคุมทีมชาติอังกฤษครั้งสุดท้ายของ วินเทอร์บอตท่อม ที่นำทีมชาติอังกฤษลงทำศึกรอบสุดท้าย 4 สมัย

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 17:58
โดย กำปู
น่าสนใจมากครับ สำหรับความรู้ดีๆ

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 20:49
โดย compatriot
กำปู เขียน:น่าสนใจมากครับ สำหรับความรู้ดีๆ
เผอิญจัดบ้านแล้ว ไปเจอหนังสือเก่าๆเกี่ยวกับแมนฯยูฯ พอดี ก็เลยเอามาเขียนน่ะครับ
ไม่ต้องห่วงเรื่องเนื้อหานะครับ เพราะผมได้ดัดแปลงเป็นสำนวนใหม่เกือบหมดแล้วครับ
ไม่ต่องห่วงเรื่อง ลิขสิทธิ์

1966

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 21:11
โดย compatriot
เจ้าภาพ - อังกฤษ
แชมป์ - อังกฤษ
บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และ จอห์น คอนเนลลี่ ปีกจอมเลื้อยของยูไนเต็ด ลงเล่นในเกมส์ที่อังกฤษเสมอ อุรุกวัย ซึ่งมี ปาโบล ฟอร์ลัน
พ่อของ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน อยู่ในทีม โชคร้ายที่ คอนเนลลี่ หลุดจากทีมในเวลาต่อมา แต่ชาร์ลตันยังคงเป็นกำลังหลัก ที่ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ไม่อาจขาดได้ เขาประเดิมประตูแรกในเกมส์ที่ชนะเม็กซิโก 2-0 และปิดท้ายด้วยการชนะฝรั่งเศส สกอร์เดียวกัน
ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบสอง ด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่ม เอ โดยพบกับอาร์เจนติน่า ซึ่งอันโตนิโอ แรตตินได้ทำฟาล์วน่าเกลียดหลายครั้ง แต่ด้วยลูกยิงของเจฟฟ์เฮิร์ทจึงทำให้อังกฤษผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ และชาร์ลตันยังได้มาเป็นฮีโร่ในนัดที่พลิกกลับมาชนะโปรตุเกส2-1 หลังถูกยิงนำไปก่อน หลังจากนั้นอังกฤษก็ชนะเยอรมัน 4-2 และคว้าแชมป์ไปครอง และ น็อบบี้ สไตล์ คืออีกหนึ่งฮีโร่ที่ไม่มีวันจะถูกลืม
1970

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 21:28
โดย compatriot
เจ้าภาพ - เม็กซิโก
แชมป์ - บราซิล
ด้วยวัย 33 ปี ของบ็อบบี้ ชาร์ลตัน ยังรักษาตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติไว้ได้ ในรอบแรก หลังจากที่อังกฤษ เอาชนะ โรมาเนียไปได้ นัดที่ 2 พวกเขาก็ได้พบกับ ทีมแซมบ้า ซึ่งถือเป็นแมตซ์คลาสสิก แมตช์หนึ่งของศึกบอลโลก แต่ด้วยความมหัศจรรย์ ของ แซร์จิญโญ่ ทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสองทีมนี้ แต่พลพรรคสิงโตคำราม ก็ยังเอาตัวรอดได้ในนัดสุดท้าย หลังจากเอาชนะ เชโกสโลวะเกีย ไปได้ในนัดสุดท้ายของรอบแรก ในรอบสองพวกเขาเจอ เยอรมันตะวันตกถอนแค้นจากนัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อนหน้าไป3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และทำให้อังกฤษไม่มีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกไปนานถึง 12 ปี
1974

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 21:36
โดย compatriot
เจ้าภาพ - เยอรมัน
แชมป์ - เยอรมัน
จากความตกต่ำของเหล่าเรดอาร์มี่ ทำให้ มาร์ติน บั๊คคั่นเป็นนักเตะคนเดียวของทีมที่ได้ไปเตะในรอบสุดท้าย กับทีมชาติสกอตแลนด์ เขาและเพื่อนร่วมทีมได้ช่วยกันยันเสมอบราซิล ได้ในนัดแรก และแพ้ ซีเรียในนัดต่อมา 0-2 และนัดสุดท้ายของเขา ได้เสมอกับ ยูโกสลาเวีย 0-0 ทำให้ตกรอบแรกไปด้วยผลต่างประตูได้เสีย
1978

เมื่อ:
อังคาร ม.ค. 17, 2006 21:48
โดย compatriot
เจ้าภาพ - อาร์จนติน่า
แชมป์ - อาร์เจนติน่า
มาร์ติน บั๊คคั่น, โจ จอร์แดน และลู มาคาริ เป็น 3ตัวแทนของยูไนเต็ดที่ได้ไปทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กับทีมชาติ สกอตแลนด์ ภายใต้การนำทีมของ อัลลี่ แม็คคลีออด โดยผลงานของสกอตแลนด์ไม่เป็นที่น่าพอใจ โดย แพ้ให้กับเปรู เสมออิหร่าน และเจอความมหัศจรรย์ของฮอลแลนด์ รองแชมป์ในปีนั้นทำให้ตกรอบแรกไป โดย จอร์แดนกลายมาเป็นนักเตะของปีศาจแดงคนแรกที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลกในนัดที่เจอกับเปรู นับตั้งแต่ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ยิงได้ในปี 1966 แต่ผลงานโดยรวมของเขาดูไม่ค่อยดีเลย

เมื่อ:
พุธ ม.ค. 18, 2006 20:15
โดย robinhodesantos
1982

เมื่อ:
พุธ ม.ค. 18, 2006 21:29
โดย compatriot
เจ้าภาพ - สเปน
แชมป์ - อิตาลี
ไบรอัน ร็อบสัน ทำสถิติยิงเร็วที่สุดด้วยเวลาเพียง 27 วินาที โดยเขเป็นตัวแทนของโอลด์แทรฟฟอร์ด ร่วมกับ สตีฟ ค็อปเปลล์ และ เรย์ วิลกิ้นส์ และร็อบสันก็ได้ทำประตูให้งกฤษอีก ในนัดที่ชนะฝรั่งเศสไป 3-1 แต่กลับเกิอาการปืนหมดแมกซ์ในรอบสองจึงทำให้ตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจ ทั้งๆที่ไม่แพ้เลยสักเกมส์
ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งมี สองผู้เล่นของยูไนเต็ดอย่าง แซมมี่ แม็คอิลรอย จิมมี่ นิโคลล์ และนอร์แมน ไวท์ไซด์ ได้ทำผลงานเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้จะต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับสเปนก็ตาม ก่อนจะถูกฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะเขี่ยตกรอบ
โดยไวท์ไซด์ ได้ทำลายสถิติ นักเตะที่อายุน้อยที่สุดของเปเล่ลงด้วยวัยเพียง 17 ปี 41 วัน
1986

เมื่อ:
พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 20:38
โดย compatriot
เจ้าภาพ - เม็กซิโก
แชมป์ - อาร์เจนติน่า
ไบรอัน ร็อบสัน ได้รับบาดเจ็บกระดูกหัวไหล่หัก จนต้องกลับบ้านก่อนกำหนด ในเกมส์ที่พ่ายทีมฝอยทอง จากนั้น เรย์ วิลกิ้นส์ ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมเอาชนะโมร็อกโก ได้สำเร็จ แตอังกฤษก็ยังกลับมาชนะ โปแลนด์ และปารากวัย ก่อนเจอหัตถ์พระเจ้าของ ดิเอโก้ มาราโดน่า เขี่ยตกรอบ ควอร์เตอร์ไฟนั่ล
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันไม่สามารถพาทีมสกอตแลนด์ ผ่านรอบแรกได้สำเร็จ แม้จะมี กอร์ดอน สตรัคคั่น ขุนพลคู่ใจอยู่ด้วยก็ตาม โดยพ่ายให้แก่เดนมาร์ก ที่มี เจสเปอร์ โอลเซ่น และ ยอห์นนี่ ชวีเบ็ค ร่วมทีม จากนั้นถูกเยอรมันตะวันตกสอนเชิงไปอีก และปิดท้ายด้วยการเสมออุรุกวัย
นอร์แมน ไวท์ไซด์สามารถทำประตูแรกในเวิล์ดคัพของตนได้สเร็จในเกมส์ทีพบกับ แอลจีเรีย แต่ไอร์แลนด์เหนือก็ต้องตกรอบแรก เพราะได้พ่ายให้ทั้ง บราซิล และสเปน
1990

เมื่อ:
พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 20:51
โดย compatriot
เจ้าภาพ - อิตาลี
แชมป์ - เยอรมัน
เกมส์นัดแรกของกลุ่มเอฟ อังกฤษซึ่งมี ไบรอัน ร็อบสัน จะต้องดวลฝีเท้ากับ พอล แม็คกรัธ และ เควิน มอแรน อดีตเพื่อนร่วมทีมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ก่อนเกมส์จบลงด้วยผล 1-1 และทั้งคู่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสองต่อไป โดยขุนพลทีไลออนส์ ทำได้ดีสุดโดยการไปพ่ายจุดโดทษให้แก่ เยอรมันตะวันตก ในรอบรองชนะเลิศ
สกอตแลนด์ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อนัดสุดท้ายของรอบแรกที่ต้องดวลกับทีมแซมบ้า คือนัดที่ชี้ขาดการเข้ารอบของทั้งสองทีม แต่ความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ของ จิม เลห์ตัน ซึ่งปล่อยให้ มุลเลอร์ยิงเข้าไปได้อย่างสบายๆจึงทำให้ทีมขี้เมาต้องตกรอบไป และชื่อผู้รักษาประตูคนนี้ถูกลืมไปอีกนาน หลังเพิ่งโดนเฟอร์กี้ตัดออกจากเกมส์ เอฟเอคัพ เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้
1994

เมื่อ:
พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 20:59
โดย compatriot
เจ้าภาพ- สหรัฐ
แชมป์ - บราซิล
รอยคีน และ เดนิส เออร์วิน คือสองตัวแทนของโอลด์แทรฟฟอร์ด ที่ได้ไปบอลโลกหนนี้ ในฐานะนักเตะทีมชาติไอร์แลนด์ โดยรอบแรกสามารภเอาชนะอิตาลี พ่ายให้เม็กซิโก และเสมอนอร์เวย์ ผ่านเข้ารอบได้สเร็จ ก่อนถูกฮอลแลนด์ที่กำลังเข้าฟอร์มเขี่ยตกรอบไป