จะไหวไหมพี่ไทย สุรีย์ กับ ดัสกร ก็โดนแบน คร้าบบบ

บอลไทยช็อก ฟีฟ่ายัน 2 ตัวหลัก สุรีย์ สุขะ กับ ดัสกร ทองเหลา ติดโทษแบน หมดสิทธิลงสนามฉะ "ซามูไร" ญี่ปุ่น ในการทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เย็นวันที่ 6 ก.พ.นี้ แน่นอน "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ปรับโผอุตลุด ส่ง อภิเชษฐ์ พุฒตาล กับ สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงสนามแทน โดยวาง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย คู่ “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี ล่าตาข่าย พร้อมสั่ง “ตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง จับตาดูหัวหอกยุ่นตัวที่ 3 พร้อมกำชับห้ามเสียฟรีคิก มั่นใจมีลุ้น 1 แต้ม ด้าน ทาเคชิ โอกาดะ กุนซือลูกพระอาทิตย์ ยังมีปัญหาต้องลุ้นความสมบูรณ์ของ 4 หัวหอก แถมเครียดจัดปิดสนามซ้อม 3 วันรวด ยกไทยเป็นคู่แข่งที่อันตรายที่สุดของกลุ่ม ขณะที่บ่อนพนันยกเจ้าถิ่นต่อขาดถึง 2 ลูก
ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ ผู้สื่อข่าว “คม ชัด ลึก” รายงานความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ก่อนลงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่มบี นัดแรกกับ “ซามูไร” ญี่ปุ่น ที่ไซตามะ เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 19.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น (17.20 น.เวลาไทย) ซึ่งสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี รับหน้าที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีการประชุมผู้จัดการทีม ซึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อผู้แทนของฟีฟ่าแจ้งว่า 2 นักเตะตัวหลักของไทย คือ ดัสกร ทองเหลา และสุรีย์ สุขะ หมดสิทธิลงสนามในนัดนี้ เนื่องจากถูก 2 ใบเหลืองมาในรอบคัดเลือก ซึ่ง "บิ๊กโต้ง" นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผจก.ทีมไทย พยายามประท้วง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เคยได้รับแจ้งเรื่องนี้มาก่อน แต่ฟีฟ่าก็ยังยืนยันในเรื่องดังกล่าว ทำให้เป็นอันว่าทั้งคู่จะหมดสิทธิลงช่วยทีมในเกมนี้อย่างแน่นอน
สำหรับเกมนี้ทีมชาติไทยจะสวมเสื้อแข่งขันสีเหลือง กางเกงสีกรมท่า (น้ำเงิน) และถุงเท้าเหลืองลงเล่น ขณะที่ญี่ปุ่นสวมเสื้อแข่งสีน้ำเงิน กางเกงขาว และถุงเท้าน้ำเงิน โดยนัดนี้ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนบัตรเข้าชมจำนวน 6.2 หมื่นใบ ซึ่งบัตรราคาถูกที่สุดราคา 1,000 บาท และแพงที่สุดราคา 4,500 บาท จำหน่ายหมดเกลี้ยงแล้ว
“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทั้ง ดัสกร และ สุรีย์ จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้ แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเรามีผู้เล่นทดแทนอยู่ โดยในรายของสุรีย์ จะให้ อภิเชษฐ์ พุฒตาล ลงสนามแทน ส่วนดัสกร ก็จะให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงเตะ โดยเกมนี้จะเล่นในระบบ 4-4-2 เหมือนที่ฝึกซ้อมกันมา แต่จะวางแท็กติกเน้นตั้งรับคุมโซนเพรสซิ่ง แล้วหาจังหวะโต้กลับ ซึ่งข้อมูลล่าสุดของญี่ปุ่นจะใช้ เซอิชิโร มากิ กับ นาโอฮิโร ทากาฮารา เป็นกองหน้าคู่ แล้วให้กองกลางอย่าง เอ็นโด กับ เคนโกะ นากามูระ ขยับขึ้นไปเติมเป็นกองหน้าคนที่ 3 เลยต้องให้ นิรุจน์ สุระเสียง คอยดูหัวหอกตัวที่ 3 ที่เพิ่งตามมา รวมถึงต้องระวังจะเสียฟรีคิกมากเกินไป
“แม้ญี่ปุ่นชุดนี้จะไม่มี ชุนสึเกะ นากามูระ ที่เล่นอยู่กับกลาสโกว์ เซลติก ในสกอตแลนด์ แต่ เคนโกะ นากามูระ อีกคนที่เล่นในเจลีกก็ไม่ธรรมดา นอกจากนี้แล้ว ยูจิ นากาซาวา ยังเติมเกมขึ้นมาโหม่งประตูได้บ่อยครั้ง จึงต้องระวังฟรีคิกให้ดี เกมนี้ยอมรับว่าเป็นรองทุกอย่าง แต่นัดนี้เป็นการลงเล่นเกมแรกของทั้ง 2 ทีม เพราะฉะนั้นการจะเก็บ 1 แต้มตามเป้าหมายได้หรือไม่อยู่ที่จังหวะและโอกาสในสนามเท่านั้น” โค้ชหรั่ง กล่าว
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กับ ปฏิพาน เพชรพูล, แบ็กขวา อภิเชษฐ์ พุฒตาล, แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ, กองกลาง นิรุจน์ สุระเสียง, ณรงค์ชัย วชิรบาล, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, กองหน้า ธีรเทพ วิโนทัย, ศรายุทธ ชัยคำดี
ขณะที่ขุนพลนักเตะทีมชาติไทย ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมลงตะบันแข้งกับญี่ปุ่น โดย “ตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า ทุกคนลงสนามด้วยความหวังที่ต้องการแบ่งแต้มกลับไป แม้ญี่ปุ่นจะมีความแข็งแกร่งและศักยภาพดีกว่า แต่ไม่มีนักเตะไทยคนไหนที่ขอยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม ทุกคนขอสู้แบบถวายหัวเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด
ด้านความเคลื่อนไหวของทีมญี่ปุ่น ทาเคชิ โอกาดะ เฮดโค้ชของทีม สั่งให้ปิดสนามฝึกซ้อมเป็นเวลา 3 วันเต็ม แบบห้ามสื่อมวลชนทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศเข้าชมอย่างเด็ดขาด แต่มีรายงานข่าวว่าการฝึกซ้อมเน้นลูกตั้งเตะในรูปแบบต่างๆ ทั้งฟรีคิกและลูกเตะมุม โดย โอกาดะ กล่าวถึงทีมไทยว่าเป็นทีมที่อันตรายที่สุดในกลุ่มบี แต่ทีมไทยมีจุดอ่อนที่แนวรับเปิดพื้นที่ว่างมากเกินไปคงต้องโจมตีหลังโซนตั้งรับ
"คาดว่าทีมไทยจะมาตั้งรับในเกมนี้ แล้วอาศัยจังหวะสวนกลับ พวกเขาถือเป็นทีมที่ดีและมีลูกเซตพีซที่อันตราย" โอกาดะ ที่เพิ่งเข้ามารับงานแทน อิวิก้า โอซิม กุนซือชาวโครเอเชีย เมื่อเดือนธันวาคม กล่าว
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังคงต้องลุ้นเรื่องความสมบูรณ์ของ 4 กองหน้า ที่ประกอบด้วย นาโอฮิโร ทากาฮารา กับ เซอิชิโร มากิ ที่เจ็บมาตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องกับเซอร์เบีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ โยชิโต โอคูโบ เจ็บหัวเข่าขวา และ เรียวอิชิ มาเอดะ ป่วยเป็นไข้ แต่ทั้งหมดยืนยันว่าพร้อมที่จะลงสนามในเกมนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่อัตราต่อรองของคู่นี้ เอเชี่ยนบุ๊กกี้ เว็บไซต์รับพนันชื่อดัง เพิ่มราคาต่อรองโดยญี่ปุ่นเป็นต่อถึง 2 ลูก บวกอีก 10-9 ขณะที่อีกอัตราปรับให้เจ้าถิ่นเป็นผู้ชนะที่ 1.15-1 (แทง 1 ได้คืน 1.15 ไม่รวมทุน) เสมอกันที่ 5.99-1 และทีมไทยชนะที่ 12.87-1 แล้ว
ส่วนสถิติการพบกันระหว่าง ไทยกับญี่ปุ่น เคยเจอกันมาแล้ว 27 ครั้ง ไทย ชนะ 4 ครั้ง เสมอ 6 ครั้ง แพ้ 17 ครั้ง ยิงได้ 26 ประตู เสีย 54 ประตู โดยนัดล่าสุดเป็นการพบกันในศึกเอเชี่ยนคัพ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศจีน เมื่อปี 2547 ทีมไทย แพ้ 1-4 ส่วนครั้งสุดท้ายที่ทีมไทยชนะ เป็นการเตะนัดอุ่นเครื่องที่สนามศุภชลาศัย เมื่อปี 2540 ด้วยสกอร์ 1-0
ที่มา http://www.komchadluek.net/2008/02/05/x ... 188761.php
ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ ผู้สื่อข่าว “คม ชัด ลึก” รายงานความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ก่อนลงทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย กลุ่มบี นัดแรกกับ “ซามูไร” ญี่ปุ่น ที่ไซตามะ เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 19.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น (17.20 น.เวลาไทย) ซึ่งสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี รับหน้าที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีการประชุมผู้จัดการทีม ซึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อผู้แทนของฟีฟ่าแจ้งว่า 2 นักเตะตัวหลักของไทย คือ ดัสกร ทองเหลา และสุรีย์ สุขะ หมดสิทธิลงสนามในนัดนี้ เนื่องจากถูก 2 ใบเหลืองมาในรอบคัดเลือก ซึ่ง "บิ๊กโต้ง" นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผจก.ทีมไทย พยายามประท้วง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เคยได้รับแจ้งเรื่องนี้มาก่อน แต่ฟีฟ่าก็ยังยืนยันในเรื่องดังกล่าว ทำให้เป็นอันว่าทั้งคู่จะหมดสิทธิลงช่วยทีมในเกมนี้อย่างแน่นอน
สำหรับเกมนี้ทีมชาติไทยจะสวมเสื้อแข่งขันสีเหลือง กางเกงสีกรมท่า (น้ำเงิน) และถุงเท้าเหลืองลงเล่น ขณะที่ญี่ปุ่นสวมเสื้อแข่งสีน้ำเงิน กางเกงขาว และถุงเท้าน้ำเงิน โดยนัดนี้ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนบัตรเข้าชมจำนวน 6.2 หมื่นใบ ซึ่งบัตรราคาถูกที่สุดราคา 1,000 บาท และแพงที่สุดราคา 4,500 บาท จำหน่ายหมดเกลี้ยงแล้ว
“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทั้ง ดัสกร และ สุรีย์ จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้ แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเรามีผู้เล่นทดแทนอยู่ โดยในรายของสุรีย์ จะให้ อภิเชษฐ์ พุฒตาล ลงสนามแทน ส่วนดัสกร ก็จะให้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงเตะ โดยเกมนี้จะเล่นในระบบ 4-4-2 เหมือนที่ฝึกซ้อมกันมา แต่จะวางแท็กติกเน้นตั้งรับคุมโซนเพรสซิ่ง แล้วหาจังหวะโต้กลับ ซึ่งข้อมูลล่าสุดของญี่ปุ่นจะใช้ เซอิชิโร มากิ กับ นาโอฮิโร ทากาฮารา เป็นกองหน้าคู่ แล้วให้กองกลางอย่าง เอ็นโด กับ เคนโกะ นากามูระ ขยับขึ้นไปเติมเป็นกองหน้าคนที่ 3 เลยต้องให้ นิรุจน์ สุระเสียง คอยดูหัวหอกตัวที่ 3 ที่เพิ่งตามมา รวมถึงต้องระวังจะเสียฟรีคิกมากเกินไป
“แม้ญี่ปุ่นชุดนี้จะไม่มี ชุนสึเกะ นากามูระ ที่เล่นอยู่กับกลาสโกว์ เซลติก ในสกอตแลนด์ แต่ เคนโกะ นากามูระ อีกคนที่เล่นในเจลีกก็ไม่ธรรมดา นอกจากนี้แล้ว ยูจิ นากาซาวา ยังเติมเกมขึ้นมาโหม่งประตูได้บ่อยครั้ง จึงต้องระวังฟรีคิกให้ดี เกมนี้ยอมรับว่าเป็นรองทุกอย่าง แต่นัดนี้เป็นการลงเล่นเกมแรกของทั้ง 2 ทีม เพราะฉะนั้นการจะเก็บ 1 แต้มตามเป้าหมายได้หรือไม่อยู่ที่จังหวะและโอกาสในสนามเท่านั้น” โค้ชหรั่ง กล่าว
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กับ ปฏิพาน เพชรพูล, แบ็กขวา อภิเชษฐ์ พุฒตาล, แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ, กองกลาง นิรุจน์ สุระเสียง, ณรงค์ชัย วชิรบาล, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, กองหน้า ธีรเทพ วิโนทัย, ศรายุทธ ชัยคำดี
ขณะที่ขุนพลนักเตะทีมชาติไทย ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมลงตะบันแข้งกับญี่ปุ่น โดย “ตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า ทุกคนลงสนามด้วยความหวังที่ต้องการแบ่งแต้มกลับไป แม้ญี่ปุ่นจะมีความแข็งแกร่งและศักยภาพดีกว่า แต่ไม่มีนักเตะไทยคนไหนที่ขอยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม ทุกคนขอสู้แบบถวายหัวเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด
ด้านความเคลื่อนไหวของทีมญี่ปุ่น ทาเคชิ โอกาดะ เฮดโค้ชของทีม สั่งให้ปิดสนามฝึกซ้อมเป็นเวลา 3 วันเต็ม แบบห้ามสื่อมวลชนทั้งของญี่ปุ่นและต่างประเทศเข้าชมอย่างเด็ดขาด แต่มีรายงานข่าวว่าการฝึกซ้อมเน้นลูกตั้งเตะในรูปแบบต่างๆ ทั้งฟรีคิกและลูกเตะมุม โดย โอกาดะ กล่าวถึงทีมไทยว่าเป็นทีมที่อันตรายที่สุดในกลุ่มบี แต่ทีมไทยมีจุดอ่อนที่แนวรับเปิดพื้นที่ว่างมากเกินไปคงต้องโจมตีหลังโซนตั้งรับ
"คาดว่าทีมไทยจะมาตั้งรับในเกมนี้ แล้วอาศัยจังหวะสวนกลับ พวกเขาถือเป็นทีมที่ดีและมีลูกเซตพีซที่อันตราย" โอกาดะ ที่เพิ่งเข้ามารับงานแทน อิวิก้า โอซิม กุนซือชาวโครเอเชีย เมื่อเดือนธันวาคม กล่าว
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังคงต้องลุ้นเรื่องความสมบูรณ์ของ 4 กองหน้า ที่ประกอบด้วย นาโอฮิโร ทากาฮารา กับ เซอิชิโร มากิ ที่เจ็บมาตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องกับเซอร์เบีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ โยชิโต โอคูโบ เจ็บหัวเข่าขวา และ เรียวอิชิ มาเอดะ ป่วยเป็นไข้ แต่ทั้งหมดยืนยันว่าพร้อมที่จะลงสนามในเกมนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่อัตราต่อรองของคู่นี้ เอเชี่ยนบุ๊กกี้ เว็บไซต์รับพนันชื่อดัง เพิ่มราคาต่อรองโดยญี่ปุ่นเป็นต่อถึง 2 ลูก บวกอีก 10-9 ขณะที่อีกอัตราปรับให้เจ้าถิ่นเป็นผู้ชนะที่ 1.15-1 (แทง 1 ได้คืน 1.15 ไม่รวมทุน) เสมอกันที่ 5.99-1 และทีมไทยชนะที่ 12.87-1 แล้ว
ส่วนสถิติการพบกันระหว่าง ไทยกับญี่ปุ่น เคยเจอกันมาแล้ว 27 ครั้ง ไทย ชนะ 4 ครั้ง เสมอ 6 ครั้ง แพ้ 17 ครั้ง ยิงได้ 26 ประตู เสีย 54 ประตู โดยนัดล่าสุดเป็นการพบกันในศึกเอเชี่ยนคัพ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศจีน เมื่อปี 2547 ทีมไทย แพ้ 1-4 ส่วนครั้งสุดท้ายที่ทีมไทยชนะ เป็นการเตะนัดอุ่นเครื่องที่สนามศุภชลาศัย เมื่อปี 2540 ด้วยสกอร์ 1-0
ที่มา http://www.komchadluek.net/2008/02/05/x ... 188761.php