หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ประวัติโค้ชทีมชาติไทย

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 12:36
โดย sunny28
ปีเตอร์ รีด
สถานที่เกิด ลิเวอร์พูล อังกฤษ
ปีเตอร์ รีด เริ่มงานผู้จัดการทีมครั้งแรกเมื่อรับตำแหน่งผู้เล่น-ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี1990 โดยรับงานต่อจากโฮเวิร์ด เคนดัล ที่ลาออกไป และนำทีมจบอันดับที่5ในลีกโดยอันดับสูงกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล1992-1993พรีเมียร์ ลีกเริ่มต้นเป็นฤดูกาลแรกหลังจากเปลี่ยนชื่อมาจากดิวิชั่น 1 ปีเตอร์ รีด พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้จบฤดูกาลด้วยอันดับ 9ด้วยสไตล์การเล่นบอลโยนยาวอันเป็นเอกลักษณ์
รีดเริ่มต้นงานผู้จัดการทีมแบบเต็มตัวในฤดูกาล1995-1996เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ในดิวิชั่น1(ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปี้ยน ชิพ)ซึ่งเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นแต่ปีเตอร์ รีดกลับพาทีมได้แชมป์และคว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นพรีเมียร์ ลีกแบบพลิกความคาดหมายทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลซันเดอร์แลนด์อย่างมาก แม้จะเลื่อนชั้นขึ้นมาปีเดียวแล้วสโมสรตกชั้นก็ตาม
ฤดูกาลต่อมาในดิวิชั่น1ซันเดอร์แลนด์พลาดโอกาสเลื่อนชั้นกลับไปเล่นพรีเมียร์ ลีกอย่างน่าเสียดายเมื่อแพ้การดวลจุดโทษในรอบเพล์-ออฟแก่ชาร์ลตัน แอธเลติกหลังจากเสมอกันในเวลา4-4 อย่างไรก็ตามปีเตอร์ รีดพาทีมเลื่อนชั้นกลับไปพรีเมียร์ ลีกสำเร็จเมื่อคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1ได้อีกครั้งในฤดูกาล1998-1999 พร้อมทำสถิติใหม่เมื่อได้แต้มถึง105คะแนน ซันเดอร์แลนด์เริ่มต้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล1999-2000อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อมีลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแต่เมื่อจบฤดูกาลก็ต้องผิดหวังเมื่อได้อันดับที่7พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย ฤดูกาลดังกล่าวทีมของปีเตอร์ รีดสร้างสถิติใหม่อีกครั้งโดยเป็นทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาแล้วได้อันดับสูงที่สุดคืออันดับ7 และเควิน ฟิลลิปส์กองหน้าทีมชาติอังกฤษของสโมสรก็เป็นดาวซัลโวอันดับ1ของพรีเมียร์ลีกและของยุโรปด้วยผลงาน30ประตูในพรีเมียร์ลีก

หลังออกจากซันเดอร์แลนด์เขารับงานคุมทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกหลังสโมสรปลดเทอรรี่ เวนาเบิ้ลส์ออกจากตำแหน่งในปี 2003 และมีเควิน แบล็คเวลล์เป็นผู้ช่วย โดยขณะนั้นสโมสรตกต่ำอย่างหนักและมีความเสี่ยงต่อการตกชั้นสูง สโมสรมีหนี้สินมากกว่า80ล้านปอนด์จากการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยในช่วง5ปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆได้ ปีเตอร์ รีดดูเหมือนจะช่วยกู้สถานการณ์ของทีมไว้ได้ช่วงหนึ่งเมื่อพาทีมบุกชนะชาร์ลตัน แอธเลติกถึงถิ่น 6-1 และชนะอาร์เซน่อล3-2 และพาทีมรอดจากการตกชั้นได้สำเร็จ

วิทยา เลาหกุล
เป็นนักฟุตบอลคนแรกของไทย ที่เล่นในลีกยุโรป โดยเล่นให้กับ แฮร์ธา เบอร์ลิน ในลีกบุนเดสลีกา
ปีพ.ศ. 2519 วิทยา เลาหกุลได้เล่นฟุตบอลในการแข่งขันฟุตบอลควีนสคัพ ซึ่งในครั้งนั้นสโมสรฟุตบอลยันมาร์ดีเซลจากประเทศญี่ปุ่นได้มาแข่งขันและคว้าชัยชนะไป และได้ติดต่อซื้อตัววิทยา เลาหกุลจากสโมสรฟุตบอลราชประชา ให้ไปเล่นกับสโมสร ชีวิตการค้าแข้งของวิทยา เลาหกุลที่ญี่ปุ่นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลและเคยเป็นผู้ที่ทำประตูสูงสุดในถ้วยF.A.Cup ของญี่ปุ่นที่จำนวน6ประตู ยิงประตูในลีกของญี่ปุ่นได้ทั้งสิ้น14ประตู

ในปี 2522 ได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรในเยอรมันคือ แฮร์ธาเบอร์ลิน และ ซาร์บรุคเคนเป็นเวลารวมหกปีได้รับคำยกย่องจากสื่อในเยอรมันว่า "ไทย บูม" (THAI BOOM)และได้กลับมาประเทศไทย

ภายหลังจากที่ได้เลิกเล่นฟุตบอล ได้มาเป็นผู้ฝึกสอนให้กับสโมสรกัมบะ โอซากา ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในในปี 2535 ทีมกัมบะได้ชนะเลิศควีนสคัพในประเทศไทย หลังจากนั้นได้คุมทีม สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพจนชนะเลิศการแข่งขันไทยลีก ซึ่งต่อมาได้คุมทีมชาติไทยชนะเลิศซีเกมส์ในปี 2540 และได้คุมทีมสโมสรฟุตบอลชลบุรีจากโปรลีกจนได้เข้ามาเล่นไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร

แมตซ์ทีสร้างชื่อให้วิทยา เลาหกุล โด่งดังไปทั่วโลกที่สุดและเป็นเรื่องตลกขบขันของคนทั้งโลก คือ แมตซ์ที่เขาคุมทีมชาติไทยเจอกับทีมชาติอินโดนีเซียในทัวนาเม้นต์ ไทเกอร์คัพ ปี1998 รอบแรก ซึ่งทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของวิทยา เลาหกุล กับ ถิรชัย วุฒิธรรม ผู้จัดการทีม ไม่ต้องเข้ารอบเป็นที่ 1 ของสาย A ในตอนนั้น เพราะต้องไปเจอที่ 2 ของสาย B นั้นคือเจ้าภาพเวียดนามซึ่งทางอินโดนีเซียก็ไม่ต้องการเอาชนะเช่นกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความประสงค์จะยิงเข้าประตูตัวเองด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งทางวิทยา เลาหกุลได้ให้สัมพาษณ์ทางโทรศัพท์ออกอากาศทางสถานีวิทยุคลื่นหนึ่งในเมืองไทยส่งตรงจากเวียดนามว่า "เราไม่ต้องการเล่นเพื่อชนะเพื่อไปเจ้าภาพ เพราะจะทำให้เราป้องกันแชมป์ไทเกอร์คัพได้ลำบาก การเข้ารอบเป็นที่ 2 ของสายจะทำให้ไทยเราเล่นสบายขึ้น เพราะเราจะเจอกับสิงคโปรซึ่งเป็นงานไม่หนัก " จึงเป็นเหตุผลให้วิทยา เลาหกุล สั่งลูกทีมในสนามเล่นไม่ให้ชนะ [ต้องการแหล่งอ้างอิง]

และในที่สุดทีมชาติไทยชนะไปด้วย สกอร์ 3-2 จากการยิงประตูชัยของกองหลังอินโดนีเซีย Mursyid Effendi ยิงเข้าประตูตัวเองไป ซึ่งวรวุฒิ ศรีมะฆะ กองหน้าของไทยสกัดการยิงเข้าประตูตัวเองของอินโดนีเซียไม่ทัน ทำให้ไทยเราชนะไป 3-2 ซึ่งสื่อมวลชนในประเทศไทยเรียกแมตซ์นี้ว่าแมตซ์อัปยศ

ปีเตอร์ วิธ
สถานที่เกิด ลิเวอร์พูล อังกฤษ
ในสมัยที่เล่นให้ แอชตัน วิลล่า ในฤดูกาลนั้นเขาได้ทำประตูให้กับแอสตันวิลลา 20 ประตู และทำประตูสำคัญของบาเยิร์นมิวนิค โดยยิงประตูในนาทีที่ 67 ทำให้แอสตันวิลลาชนะเลิศการแข่งขัน ยูโรเปียนคัพ นอกจากนี้เขายังได้เล่นให้กับ เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด และฮัดเดอร์ฟิลด์ทาวน์
ในระดับชาติแล้วเขายังได้เล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ 11 ครั้ง โดยทำได้ 1 ประตู

ผลงานในฐานะผู้ฝึกสอน

ภายหลังจากการเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว เขาได้มาเป็นผู้ฝึกสอนให้กับวิมเบิลดันในช่วงเวลาสั้นๆ และย้ายมาเป็นผู้ฝึกสอนให้ทีมชาติไทยเป็นเวลา 4 ปี โดยเขา นำทีมชาติไทยชนะ ไทเกอร์คัพ 2 ครั้งในปี 2543 และ 2545 และนำทีมไทยเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย กีฬาเอเชียนเกมส์ ที่ กรุงเทพ ประเทศไทย และที่ ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ และในช่วงที่เขาคุมทีมนั้นทีมชาติไทยได้รับอันดับจากฟีฟ่า อันดับที่ 43 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติไทย

ภายหลังจากที่ไม่สามารถนำทีมไทยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โดยแพ้ให้กับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในรอบคัดเลือกนั้น เขาได้สัมภาษณ์ให้กับหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษว่า ได้มีเหตุการณ์ทะเลาะกับประธานสมาคมฟุตบอล วิจิตร เกตุแก้ว เรื่องที่วิจิตร ต้องการให้ปีเตอร์สวมชุดสูทในสนามฟุตบอล ในขณะที่ตัวเขาเองต้องการใส่ชุดกีฬาเนื่องจากอากาศที่ร้อน และเรื่องการแต่งตัวนี่เองเป็นข้ออ้างที่ทางสมาคมที่ทำให้เขาต้องออกจากทีมชาติไทย [1] ต่อมาเขาได้ถูกทาบทามให้เป็นผู้ฝึกสอนกับทีมชาติเวียดนาม และ ทีมชาติอินโดนีเซีย โดยเขาได้เลือกเป็นผู้ฝึกสอนให้อินโดนีเซีย

ผมอยากรู้ครับว่า ปีที่แล้วเซ็นปีเตอร์ วิธ ทหน้าดีสายสืบให้กับทีมชาติ แล้วตอนนี้เค้าหายไปไหนครับ ไม่เห็นมาทำงานเลยครับ หรือว่ายกเลิกไปแล้ว

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 13:04
โดย game5098
ขอบคุณคับแต่ยาวจัง


^____^

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 13:47
โดย aGoKidz
และเรื่องการแต่งตัวนี่เองเป็นข้ออ้างที่ทางสมาคมที่ทำให้เขาต้องออกจากทีมชาติไทย

แค่นี้หรอ ปีเตอร์ วิธ เลยได้ออก -*-

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 14:55
โดย l2onsenze-
แล้ว เค้า จา เปา สไตล์ โยน ยาว ไห้ ไทย เล่น ป่าว อ่า คับ

55

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 15:49
โดย Puak Scholes
เพิ่งรู้นะคับ ว่า วิทยา เลาหกุล เคยไปเล่นในยุโรปด้วย

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 16:29
โดย numkala
แมตอัปยศนี่ผมก็ดูครับ ไม่มีใครอยากจะชนะครับ เพราะจะต้องไปเจอเวียดนามในวันชาติของเวียดนามที่ประเทศเวียดนาม
ต่างคนต่างไม่ยิงครับ อินโดเลยยิงเข้าประตูตัวเองครับ กองหน้าไทยสกัดไม่ทันครับ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 18:11
โดย Arm_Milk
ใครมีคลิปแมตอัปยศมั่งอ่ะครับ เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก
ยังดูบอลไม่รู้เรื่องเรื่องครับ
ขอบคุณมากมายครับสําหรับข้อมูล

โพสต์เมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 08:43
โดย Mr.SenGz
เด็กหงษ์หรอนี่..

55+