เรด อาร์มี่ แฟนคลับ

หลังได้รับฉันทมติจากสโมสรสมาชิกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่ง ประเทศไทย ต่อจาก “บิ๊กวีเจ” นายวิจิตร เกตุแก้ว ถึงวันนี้เป็นเวลา 3 เดือน แล้ว กับการทำหน้าที่ประมุขลูกหนังไทยของ “นายกยี” นายวรวีร์ มะ(กระผม)ดี โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาประเมินการทำงานของตัวเองในช่วงที่ผ่านมา

โดยนายกฯวรวีร์ได้เปิดใจว่า 3 เดือนที่ผ่านมา กับการบริหารงานสมาคมฯงานทุกอย่างดำเนินไปอย่างไหลลื่น ไร้ปัญหา ไม่มีสิ่งใดติดขัด ขณะที่การบริหารทีมชาติไทยนั้น ตนกำลังพยายามที่จะปรับระบบการทำทีมไม่ว่าจะเป็นเก็บตัวฝึกซ้อม และการแข่งขันทุกอย่างให้ เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับบรรดาชาติที่เจริญแล้ว ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทาง และเป็นแนวทางสากลมากขึ้น

นายกฯวรวีร์เผยต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายในการทำหน้าที่นายกลูกหนังไทยนั้น อยู่ ที่การทำให้ทีมฟุตบอลชาติไทยไปโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้ โดยเล็งไปที่เวิลด์คัพ 2010 ที่แอฟริกา และบอลโลก 2014 ซึ่งตรงนี้เรากำลังสร้างนักเตะสายเลือดใหม่จากรุ่นอายุ 12 ปีเพื่อเป้าหมายฟุตบอลโลกโดยเฉพาะ


ส่วนโครงการสานฝัน บอลไทยสู่บอลโลกนั้น หากภาครัฐยังเล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนงบประมาณ ตนขอแนะให้นำงบเหล่านี้ ไปสร้างสนามฟุตบอล และศูนย์ฝึกให้กับเยาวชนไปทั่วทุกภูมิภาคจะดีกว่า เพราะตรงนี้จะเป็นการสร้างทรัพยากรนักเตะสายเลือดใหม่ให้ทีมชาติได้มีตัว เลือกมากขึ้น

“จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนที่ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่เคยคิดจะอยู่ตรงนี้ยาว แต่มีความมุ่งมั่นและเป้าหมายที่วางไว้ในฟุตบอลโลกซึ่งถือเป็นความฝันสูงสุด และหากถึงปี 2014 ยังไม่สามารถจะพาทีมไทยไปบอลโลกได้ ก็จะขอลงจากเก้าอี้เพื่อเปิดทางให้คนอื่นที่มีความสามารถเข้ามาทำงานแทน” นายกยีกล่าว


ทางด้านนายกสมาคมฟุตบอลฯคนเก่า นายวิจิตร เกตุแก้ว ที่ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ หลังสละเก้าอี้ประมุขลูกหนังที่ตัวเองทนแบกความกดดันมาหลายปี โดยล่าสุดเมื่อวันก่อน “บิ๊กวีเจ” ได้เข้ารับการมอบรางวัลเกียรติยศปูชนียบุคคลของวงการกีฬา ปี 2550 ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต โดยมี รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ อธิการบดี เป็นผู้มอบรางวัล พร้อมด้วยนายถิรชัย วุฒิธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนงานและพัฒนา และ ดร.ประเวช รัตนเพียร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร

นอกจากนี้ สมาคม ฟุตบอลฯยังมอบหมายให้คณะกรรมการผู้ตัดสินดำเนินการเปิดสอบรับบุคคลเข้าเป็น ผู้ตัดสิน รุ่นที่ 19 ของสมาคมฟุตบอลฯ โดยจะมีการเปิดสอบทั้งหมด 5 ภาค ทั่วประเทศ เปิดจำหน่ายใบสมัครและรับสมัครวันที่ 4 มิ.ย.-6 ก.ค.ภาคกลางที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชลบุรี ติดต่อพงศธร เพิ่มพานิช 08-1647-4634, ภาคใต้ ที่ร้านเจ๊เล็ก 08-1896-9942 หรือทางไปรษณีย์ได้ที่ ปรัชญา เพิ่มพานิช สมาคมฟุตบอลฯ เบอร์ 0-2214-1058, ภาคเหนือ ที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตลำปาง ติดต่อ อ.นพรัตน์ ทุ่งสง 08-1029-7010, ภาคอีสาน ที่วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย จ.ขอนแก่น 0-4324-6536-8 ทดสอบสมรรถภาพวันที่ 14 ก.ค. เฉพาะภาคเหนือวันที่ 15 ก.ค.


เครดิต

http://www.thailandsusu.com/webboard/in ... c=138573.0


ผลงานทีมฟุตบอลไทยในสมาคมชุดนี้








ผลงานในยุค วิจิตร เกตุแก้ว
ก่อตั้ง ไทยลีก โดยได้รับการสนับสนุนจาก จอห์นนีวอล์กเกอร์ และใช้ชื่อลีกว่า "จอห์นนีวอล์กเกอร์ไทยแลนด์ซอกเกอร์ลีก"
ก่อตั้ง ดิวิชั่น1 และ ดิวิชั่น2
ก่อตั้งฟุตซอลลีก ลีกแข่งขันฟุตซอลในเมืองไทย
เสนองบประมาณก่อตั้งศูนย์ฝึกนานาชาติ ศูนย์ฝึกซ้อมของทีมชาติไทย แห่งแรกอย่างเป็นทางการ 20ไร่ บริเวณถนนนมิตรไมตรี แขวงและเขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือกับทางฟีฟ่า
ได้มีการเชิญทีมชาติระดับโลกมาแข่งขันกับทีมชาติไทย ได้แก่
ทีมชาติเยอรมนี (1 ธ.ค. 2547)
ทีมชาติสวีเดน (ก.พ. 2540) และ (10 ก.พ. 2544)
ทีมชาติบราซิล (ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี - 23 ก.พ. 2543) โดยก่อนหน้านี้ไทยเคยแข่งกับทีมชาติบราซิล ในวันที่ 4 ก.ย. 2527
ได้มีการเชิญทีมสโมสรชั้นนำของยุโรปมาทำการแข่งขันนัดพิเศษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล นิวคาสเซิลยูไนเต็ด และ เรอัลมาดริด



เรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในยุค วิจิตร เกตุแก้ว
สมาคมฟุตบอลมีการวิพากษ์วิจารณ์สูงที่ไม่มีผลงานอื่นนอกเหนือจากผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยที่ชนะกีฬาซีเกมส์ โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ ดังนี้

การส่งรายชื่อทีมสโมสรในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกล่าช้า ทำให้ทีมสโมสรไทยโดนตัดสิทธิการแข่งขันในปีนั้นและส่งผลในปีต่อมาให้จำนวนทีมไทยเข้าร่วมเพียงหนึ่งทีมจากปกติสองทีม
ในปี 2548 ที่ประเทศไทยโดนทางสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียขู่ว่าจะตัดสิทธิประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2007 ที่ทางสมาคมไม่ได้เตรียมความพร้อมการแข่งขัน และในเดือนตุลาคม 2549 ก็โดนทางสหพันธ์ตักเตือนเป็นครั้งที่สอง
ปลายปี 2549 ได้มีปัญหาเงินรางวัลในการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ที่ไม่สามารถเรียกจ่ายได้และไม่มีคนรับผิดชอบ โดย ชัยยงค์ ขำเปี่ยม ผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลตำรวจ ได้เข้าแจ้งและพร้อมที่จะทำการฟ้องหากไม่มีการจ่ายเงินรางวัล
ฟุตบอลคิงส์คัพ ได้มีการออกข่าวเปลี่ยนใจลดจำนวนประเทศที่เข้าร่วมเหลือ สี่ประเทศ หลังจากที่มีออกข่าวในเดือนตุลาคม เดือนตุลาคมว่าจะมีทีมที่ร่วมลงแข่ง 7 ประเทศ (ประเทศไทย 2 ทีม และประเทศอื่นอีก 6 ประเทศ) โดยให้เหตุผลว่าต้องการเตรียมความพร้อม และจะพาทีมชาติไทยไปแข่งฟุตบอลโลก
การประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เพียงพอ ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทยหลักรายการ รวมถึง เอเชียนเกมส์ 2006 คิงส์คัพ ควีนสคัพ และ เอเชียนคัพ ในเว็บไซต์ของสมาคมไม่มีข้อมูลของฟุตบอลทีมชาติไทย รวมไปถึง นักกีฬา การแข่งขัน ผังการแข่งขัน หรือข้อมูลอื่นใดยกเว้นประวัติสมาคม และผลคะแนนฟุตซอลลีก




ผลงานในยุควรวีร์ มะกุดี - ปี 2006 AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 6 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก แข่งที่สิงคโปร์ สิงคโปร์ชนะ 2-1 นัดที่สอง แข่งที่ไทย เสมอ 1-1 - ปี 2008 AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 7 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก แข่งที่ไทย เวียดนามชนะ 2-1 นัดที่สองแข่งที่เวียดนาม เสมอ 1-1 - ปี 2009 ทีมชาติไทย ตกรอบแรกซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่เวียงจันทน์ หลังแพ้ทีมมาเลเซีย 2 - 1 - ปี 2010 AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 8 รอบแรก ไทยเสมอลาว 2-2

ไปก่อน ก็ได้

เห้ออออออออออ

ชนะลาวให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย

ไปบอลโลก มึงบ้าแล้ว

สถิติใหม่ล่าสุดลาว ไม่แพ้ ไทย เป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี




คุณวีก็ลองลาออกซะตอนนี้เลย เผื่อไทยจะได้ไปบอลโลกกะเค้าบ้าง

ลาออกตอนนี้เลยเหอะ เสียดายเวลาเปล่าๆ

มะรึงน่าจะไปตั้งนานละ พอออกไปแล้ว ขอเชิญไปตายอย่างสงบเลยนะ ขอบคุณ

ลาออกก่อนเลย ก้ได้นะ อิอิ

เห็นแล้วเวทนา ถ้ายังเป็นแบบนี้ ถามว่าเชียร์มั้ยก็เชียร์ครับ
ผมเป็นคนนึงที่ดูบอลไทยบ่อยครั้งมาก ทั้งสโมสร ทีมชาติ
และก็สงสัยนักเตะฝีเท้าดีหลายๆ คน ทำไมไม่ติดทีมชาติ งง

ไปบอลโลกเลยเหรองั้นมึงก็ได้ออกแน่แล้วหล่ะ
ลาวยังชนะไม่ได้แล้วจะเอาอะไรไปสู้ซาอุ เกาหลี ญี่ปุ่นและอีกเยอะ

เกลเซอออกไป

อิอิ

ล้อเล่น

สงสัยจะเพี้ยนไปซะแล้ว

กำ อีก 4 ปีเลยเหรอ -*-

ไปเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่า 4 ปี แก แน่ใจนะ ว่าจะได้ไปอะ ออกไปเลยนะ มีตัง จ้างให้ออกไปและ

ลาออกไปก่อน

แล้วทีมไทยถึงได้ไป