โด้ไม่น้อยหน้าแฮตทริกนำราชันรัว 5-1

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ไม่ยอมน้อยหน้าลีโอเนล เมสซี่เหมาคนเดียวสามประตูช่วยให้เรอัล มาดริดเปิดบ้านถล่มแอธเลติก บิลเบายับ 5-1 เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้ม เตรียมไปวัดกับบาร์เซโลน่าในศึกเอล คลาสิโก้สัปดาห์หน้า
ลา ลีกา
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553
เรอัล มาดริด 5 : 1 แอธเลติก บิลเบา
ประตู : 1-0 กอนซาโล่ อิกวาอิน น.19, 2-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.30, 2-1 เฟร์นานโด ญอเรนเต้ น.40, 3-1 เซร์คิโอ รามอส น.57 (จุดโทษ), 4-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.62, 5-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.90+2 (จุดโทษ)
ครึ่งแรก
ญอเรนเต้โชว์เทพแหวกสองซัดโดนสกัดบนเส้น
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่เกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว หลังเฟร์นานโด ญอเรนต้โชว์เทพได้บอลที่ในเขตโทษก่อนเลี้ยงแหวกสองไปซัดผ่านคาซิญาสไปแล้ว แต่ยังมีเปเป้ที่สกัดคาบเส้นออกมาได้
โด้โอเวอร์เฮด
นาที 7 เจ้าบ้านมาได้โอกาสบ้างจากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรียได้บอลอยู่ทางกราบขวาแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษบอลเลยไปทางเสาแล้วเป็นโร นัลโด้ทีได้เอี่ยวตัวโอเวอร์เฮดแต่บอลหลุดกรอบไปไม่ได้ลุ้น
อิกวาอินซัดขึ้นนำ
เกมผ่านมาถึงนาที 19 ความพยายามของเจ้าบ้านประสบผลสำเร็จได้ประตูขึ้นนำแล้วจากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรียจ่ายทะลุช่องให้กอนซาโล่ อิกวาอินหลุดเข้าไปในเขตโทษจังหวะยิงโดนเบียดเกือบจะโดนสกัดแล้วแต่ทรงตัว ได้ดีเลยซัดผ่านมืออิไรซอซเข้าไปได้ มาดริดขึ้นนำ 1-0
หลังพลาด!ราชันเกือบโดน
นาที 23 ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูเหมือนกันหลังกองหลังมาดริดเล่นพลาดจังหวะจะโหม่ง สกัดันไปชนกันเองจนบอลเข้าไปทางซูซาเอต้าได้ซัดเหน่งๆแต่คาซิญาสโชว์ ซูปเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปได้
ญอเรนต้พลิกยิงแต่กินคาซิญาสไม่ได้
ถัดมา 5 นาทีทีมเยือนได้โอกาสต่อเนื่องคราวนี้เป็นเฟร์นานโด ญอเรนเต้รับบอลที่เพื่อนให้มาอยู่ในเขตโทษใช้หลังพิงแล้วพลิกยิงเร็วแต่คาซิ ญาสก็ยังไม่พลาดโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกไปได้อีกหน
ต่อบอลโคตรเทพ!โด้ส่องประตูที่สองให้ราชัน
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดีเรอัล มาดริดอาศัยจังหวะโต้กลับได้ประตูที่สองจากจังหวะที่อิกวาอินวางบอล ยาวจากกลางสนามไปที่หน้าเขตโทษให้โอซิลปาดตัวแบบไม่ต้องจับให้โรนัลโด้แตะ บอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดทันทีบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม มาดริดนำ 2-0
บิลเบาตีไข่แตก
นาที 40 ทีมเยือนมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่หลุดไปทางกราบซ้ายแล้วกึ่งยิงกึ่ง ผ่านไปที่หน้าปากประตูคาซิญาสปัดได้แต่บอลไม่ไปไหนเข้าทางผู้เล่นบิลเบาซัด สวนเข้าไปอีกรอบโดนบอลไม่ดีแต่กลายเป็นไปเข้าทางให้ญอเรนเต้ซัดเต็มๆตุง ตาข่าย บิลเบาไล่ขึ้นมา 1-2 จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมแล้วผู้ตัดสินก็เป่าจบครึ่งแรกไป
ครึ่งหลัง
ซูซาเอต้าซัดฟรีคิก
เริ่มครึ่งหลังมา 8 นาทีแอธเลติก บิลเบามีโอกาสดีแล้วที่จะตีเสมอจากจังหวะฟรีคิกที่ซูซาเอต้าซัดข้ามกำแพงไป แล้วแต่คาซิญาสก็ยังบินปัดไปได้อีกครั้ง
มาดริดได้จุดโทษ-รามอสซัดไม่พลาด
นาที 57 เรอัล มาดริดมาได้ประตูสำคัญที่ทำให้สกอร์ขยับห่างเป็น 2 ประตูอีกครั้งจากจังหวะจุดโทษที่อังเคล ดิ มาเรียไปโดนเตะล้มลงในเขตโทษ แล้วเป็นเซร์คิโอ รามอสที่รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดซัดไปทางมุมซ้ายมือของตัวเองตุง ตาข่าย ราชันนำ 3-1
สุดตีน!โด้ส่องฟรีคิกราชันหนี 4-1
นาที 62 มาดริดมาได้ประตูนำห่างเป็น 4-1 และยังคงสุดยอดเหมือนเดิมสำหรับฟรีคิกของโรนัลโด้ตะบันเต็มข้อด้วยขวา จากระยะกว่า 30 หลาบอลส่ายข้ามกำแพง แม้อิไรซอซปัดโดนแต่ด้วยความแรงของบอลทำให้เป็นประตูอยู่ดี
ไม่แฮตทริก!โด้ซัดถากเสานิดเดียว
นาที 78 ฟ้ายังไม่เป็นใจให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้แฮตทริกหลังรับบอลจากเพื่อนลุยเข้าไปในเขตโทษแล้วโยกหลบกองหลัง บิลเบาจนได้จังหวะยิงเหน่งๆแล้วแต่ดันซัดถากเสาไปอย่างน่าเสียดาย
โด้แฮตทริกซัดโทษทดเจ็บ
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บเรอัล มาดริดมาได้จุดโทษลูกที่สองหลังกราเนโร่ไปโดนเกี่ยวล้มในเขตโทษผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจุดโทษทันที แล้วก็เป็นโรนัลโด้ที่คราวนี้ขอยิงซัดเข้าไปทางมุมซ้ายมือของตัวเอง จบเกมราชันชุดขาวเปิดบ้านถล่มแอธเลติก บิลเบาไป 5-1 ทวงจ่าฝูงคืนจากบาร์เซโลน่าได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส 7, เปเป้ 7, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6.5 , มาร์เซโล่ 6.5, เซร์คิโอ รามอส 7, ชาบี้ อลองโซ่ 7.5 , ซามี่ เคห์ดิร่า 7 (ลาส์ น.67,6), กอนซาโล่ อิกวาอิน 7 (เบนเซม่า น.76), เมซุต โอซิล 7 (กราเนโร่ น.78,6), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8.5**, อังเคล ดิ มาเรีย 7
แอธเลติก บิลเบา : กอร์คา อิไรซอซ 5, อุสตาริตซ์ 5 (อูร์เต็นเนตเซ่ น.45,6), มิเกล ซาน โฆเซ่ 5.5 , เฟร์นานโด อามอเรบิเอต้า 4.5 , อันโดนี่ อิราโอล่า, ฆาบี มาร์ติเนซ 5.5, ปาโบล ออร์บาอิซ 6, เฟร์นานโด ญอเรนเต้ 7, มูเนียอิน (เปเรซ น.60,5.5), อิกอร์ กาบิลองโด้ 6 (โลเปซ น.75,5.5), ซูซาเอต้า 5.5
soccersuck
ลา ลีกา
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553
เรอัล มาดริด 5 : 1 แอธเลติก บิลเบา
ประตู : 1-0 กอนซาโล่ อิกวาอิน น.19, 2-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.30, 2-1 เฟร์นานโด ญอเรนเต้ น.40, 3-1 เซร์คิโอ รามอส น.57 (จุดโทษ), 4-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.62, 5-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.90+2 (จุดโทษ)
ครึ่งแรก
ญอเรนเต้โชว์เทพแหวกสองซัดโดนสกัดบนเส้น
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่เกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว หลังเฟร์นานโด ญอเรนต้โชว์เทพได้บอลที่ในเขตโทษก่อนเลี้ยงแหวกสองไปซัดผ่านคาซิญาสไปแล้ว แต่ยังมีเปเป้ที่สกัดคาบเส้นออกมาได้
โด้โอเวอร์เฮด
นาที 7 เจ้าบ้านมาได้โอกาสบ้างจากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรียได้บอลอยู่ทางกราบขวาแล้วเปิดเข้าไปในเขตโทษบอลเลยไปทางเสาแล้วเป็นโร นัลโด้ทีได้เอี่ยวตัวโอเวอร์เฮดแต่บอลหลุดกรอบไปไม่ได้ลุ้น
อิกวาอินซัดขึ้นนำ
เกมผ่านมาถึงนาที 19 ความพยายามของเจ้าบ้านประสบผลสำเร็จได้ประตูขึ้นนำแล้วจากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรียจ่ายทะลุช่องให้กอนซาโล่ อิกวาอินหลุดเข้าไปในเขตโทษจังหวะยิงโดนเบียดเกือบจะโดนสกัดแล้วแต่ทรงตัว ได้ดีเลยซัดผ่านมืออิไรซอซเข้าไปได้ มาดริดขึ้นนำ 1-0
หลังพลาด!ราชันเกือบโดน
นาที 23 ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูเหมือนกันหลังกองหลังมาดริดเล่นพลาดจังหวะจะโหม่ง สกัดันไปชนกันเองจนบอลเข้าไปทางซูซาเอต้าได้ซัดเหน่งๆแต่คาซิญาสโชว์ ซูปเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปได้
ญอเรนต้พลิกยิงแต่กินคาซิญาสไม่ได้
ถัดมา 5 นาทีทีมเยือนได้โอกาสต่อเนื่องคราวนี้เป็นเฟร์นานโด ญอเรนเต้รับบอลที่เพื่อนให้มาอยู่ในเขตโทษใช้หลังพิงแล้วพลิกยิงเร็วแต่คาซิ ญาสก็ยังไม่พลาดโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกไปได้อีกหน
ต่อบอลโคตรเทพ!โด้ส่องประตูที่สองให้ราชัน
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดีเรอัล มาดริดอาศัยจังหวะโต้กลับได้ประตูที่สองจากจังหวะที่อิกวาอินวางบอล ยาวจากกลางสนามไปที่หน้าเขตโทษให้โอซิลปาดตัวแบบไม่ต้องจับให้โรนัลโด้แตะ บอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดทันทีบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม มาดริดนำ 2-0
บิลเบาตีไข่แตก
นาที 40 ทีมเยือนมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่หลุดไปทางกราบซ้ายแล้วกึ่งยิงกึ่ง ผ่านไปที่หน้าปากประตูคาซิญาสปัดได้แต่บอลไม่ไปไหนเข้าทางผู้เล่นบิลเบาซัด สวนเข้าไปอีกรอบโดนบอลไม่ดีแต่กลายเป็นไปเข้าทางให้ญอเรนเต้ซัดเต็มๆตุง ตาข่าย บิลเบาไล่ขึ้นมา 1-2 จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมแล้วผู้ตัดสินก็เป่าจบครึ่งแรกไป
ครึ่งหลัง
ซูซาเอต้าซัดฟรีคิก
เริ่มครึ่งหลังมา 8 นาทีแอธเลติก บิลเบามีโอกาสดีแล้วที่จะตีเสมอจากจังหวะฟรีคิกที่ซูซาเอต้าซัดข้ามกำแพงไป แล้วแต่คาซิญาสก็ยังบินปัดไปได้อีกครั้ง
มาดริดได้จุดโทษ-รามอสซัดไม่พลาด
นาที 57 เรอัล มาดริดมาได้ประตูสำคัญที่ทำให้สกอร์ขยับห่างเป็น 2 ประตูอีกครั้งจากจังหวะจุดโทษที่อังเคล ดิ มาเรียไปโดนเตะล้มลงในเขตโทษ แล้วเป็นเซร์คิโอ รามอสที่รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดซัดไปทางมุมซ้ายมือของตัวเองตุง ตาข่าย ราชันนำ 3-1
สุดตีน!โด้ส่องฟรีคิกราชันหนี 4-1
นาที 62 มาดริดมาได้ประตูนำห่างเป็น 4-1 และยังคงสุดยอดเหมือนเดิมสำหรับฟรีคิกของโรนัลโด้ตะบันเต็มข้อด้วยขวา จากระยะกว่า 30 หลาบอลส่ายข้ามกำแพง แม้อิไรซอซปัดโดนแต่ด้วยความแรงของบอลทำให้เป็นประตูอยู่ดี
ไม่แฮตทริก!โด้ซัดถากเสานิดเดียว
นาที 78 ฟ้ายังไม่เป็นใจให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้แฮตทริกหลังรับบอลจากเพื่อนลุยเข้าไปในเขตโทษแล้วโยกหลบกองหลัง บิลเบาจนได้จังหวะยิงเหน่งๆแล้วแต่ดันซัดถากเสาไปอย่างน่าเสียดาย
โด้แฮตทริกซัดโทษทดเจ็บ
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บเรอัล มาดริดมาได้จุดโทษลูกที่สองหลังกราเนโร่ไปโดนเกี่ยวล้มในเขตโทษผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นจุดโทษทันที แล้วก็เป็นโรนัลโด้ที่คราวนี้ขอยิงซัดเข้าไปทางมุมซ้ายมือของตัวเอง จบเกมราชันชุดขาวเปิดบ้านถล่มแอธเลติก บิลเบาไป 5-1 ทวงจ่าฝูงคืนจากบาร์เซโลน่าได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส 7, เปเป้ 7, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6.5 , มาร์เซโล่ 6.5, เซร์คิโอ รามอส 7, ชาบี้ อลองโซ่ 7.5 , ซามี่ เคห์ดิร่า 7 (ลาส์ น.67,6), กอนซาโล่ อิกวาอิน 7 (เบนเซม่า น.76), เมซุต โอซิล 7 (กราเนโร่ น.78,6), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8.5**, อังเคล ดิ มาเรีย 7
แอธเลติก บิลเบา : กอร์คา อิไรซอซ 5, อุสตาริตซ์ 5 (อูร์เต็นเนตเซ่ น.45,6), มิเกล ซาน โฆเซ่ 5.5 , เฟร์นานโด อามอเรบิเอต้า 4.5 , อันโดนี่ อิราโอล่า, ฆาบี มาร์ติเนซ 5.5, ปาโบล ออร์บาอิซ 6, เฟร์นานโด ญอเรนเต้ 7, มูเนียอิน (เปเรซ น.60,5.5), อิกอร์ กาบิลองโด้ 6 (โลเปซ น.75,5.5), ซูซาเอต้า 5.5










soccersuck