มุมครอบครัว "พอช-เบ๊คส์"
เมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 19, 2007 17:42ถึงจะเป็นคนดังชนิดที่ซุปเปอร์สตาร์เรียก "พี่" แต่ใช่ว่า เดวิด-วิคตอเรีย เบ๊คแฮม สามี-ภรรยาคู่นี้จะมัวแต่เฉิดฉายอยู่ในวงสังคมเซลิบริตี้เสียจนลืมครอบครัว เพราะยังไงเสียลูกชายทั้งสามคนก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของทั้งคู่อยู่ดี
ว่าแล้วก็ถือโอกาสหยิบมุมครอบครัวน่ารักๆ ของทั้งคู่มาฝากคอกีฬากันบ้างดีกว่า
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เบ๊คส์-พอช กลายเป็นคู่รักคนดังที่ถูกจับจ้องจากบรรดาสื่อทั้งหลาย เมื่อทั้งสองคนเริ่มออกเดทกันโดยที่เบ๊คส์ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่พอชกำลังโด่งดังกับงานเพลงที่ทำร่วมกับเพื่อนสาวในนามวง สไปซ์ เกิร์ลส์
หลังจากนั้นอีก 2 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจจัดงานวิวาห์สุดหรูที่ปราสาทลัตเทรลส์ทาวน์ ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยมีพยานรักคนแรก บรู๊คลีน วัย 4 เดือน พอดิบพอดีร่วมเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย ก่อนที่ในปี 2002 พอชจะให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง โรมีโอ ในวันที่ 1 กันยายน และปิดท้ายด้วยลูกชายคนสุดท้อง ครูซ ที่ลืมตาดูโลก เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2005 ซึ่งรายนี้ออกจะผิดแผกจากพี่ชายตัวเองอยู่หน่อยตรงที่ถือกำเนิดในสเปน เพราะผู้เป็นพ่อย้ายมาค้าแข้งอยู่กับทีมรีล มาดริด ในแดนกระทิงดุนั่นเอง
เวลานี้ บรู๊คลีน อายุ 8 ขวบแล้ว ส่วนโรมีโอ อายุ 4 ขวบ และครูซ อายุ 2 ขวบ แต่ความรักของพอชและเบ๊คส์ยังคงไม่จืดจาง แม้ว่าเมื่อปี 2004 จะมีข่าว รีเบ๊คก้า ลูส์ อดีตประชาสัมพันธ์สาวทรงโต เข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างครอบครัวเบ๊คแฮมจนเกือบทำให้เตียงของทั้งคู่หักก็ตาม
ล่าสุด เบ๊คส์เพิ่งจะฉลองความรักครบรอบ 10 ปี กับภรรยาสาวอย่างดูดดื่ม ที่ ลอว์รี่ โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เมื่อกลางเดือนที่แล้ว หลังพาพอชไปดูการแข่งขันของแมนฯยูไนเต็ด ทีมเก่าที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ทั้งที่อันที่จริงแล้วมันยังไม่ถึงวันครบรอบแต่งงานเลยนะนั่น
ข่าวบอกว่า เบ๊คส์เปิดเพนต์เฮ้าส์สูทเพื่อเอาใจภรรยาสุดฤทธิ์ ซึ่งนอกจากจะดินเนอร์กันอย่างโรแมนติคแบบสองต่อสองแล้ว สามีหนุ่มยังมอบช่อกุหลาบขาวและช็อคโกแลตให้กับหวานใจ ก่อนจะเซอร์ไพรส์ด้วยแหวนเพชรเม็ดงามเป็นการปิดท้าย
นอกจากจะใส่ใจดูแลเมียสาวอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว หน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครัว เบ๊คส์ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยออกมาให้สัมภาษณ์กับ เรดิโอวันของอังกฤษเองว่าทั้งเขาและภรรยาพยายามที่จะปฏิบัติตัวเป็นพ่อ-แม่ที่ธรรมดาเหมือนอย่างครอบครัวคนอื่นๆ
"วิคตอเรียจะตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อเตรียมตัวให้ลูกๆ พร้อมสำหรับการไปโรงเรียน และผมจะเป็นคนไปส่งพวกเขาเอง ถึงจะมีคนแปลกใจที่เราตื่นนอนกันแต่เช้า และพาลูกๆ ไปโรงเรียน แต่ผมก็ชอบที่จะได้ทำแบบนี้นะครับ"
เบ๊คส์บอกด้วยว่า เขาเกลียดการที่พวกปาปาราซซี่ทั้งหลายชอบแอบมาดักถ่ายรูปลูกของเขาอยู่ด้านนอกของโรงเรียนทุกวัน เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะรายของโรมีโอ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะแสงแฟลชจากกล้องของช่างภาพ ทำให้ทั้งคู่หวั่นว่าจะทำให้ลูกชายของเขาเป็นลมชักขึ้นได้
ด้านภรรยาสาวก็เล่าถึงลูกชายสุดเลิฟของเธอว่า ไม่ได้เหมือนกับพ่อเลยเสียทีเดียว แม้ว่าลูกชายคนโตจะมีทีท่าว่าจะเจริญรอยตามเบ๊คส์มากกว่าใครเพื่อนก็ตาม
"บรู๊คลีนเป็นนักเตะที่น่าทึ่งมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เขาสามารถเดาะบอลได้ถึง 17 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อนะคะสำหรับเด็กในวัยเดียวกัน เขาอยากจะเล่นแต่ฟุตบอลอย่างเดียว และเราก็มักจะเตะบอลในสวนด้วยกันค่ะ ถ้าสักวันเขาได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษขึ้นมาล่ะก็ คงจะทำให้ฉันภูมิใจมากเลยค่ะ"
ส่วนรายของโรมีโอดูเหมือนว่าจะชอบวงการบันเทิงอย่างผู้เป็นแม่มากกว่า และ เซอร์เอลตัน จอห์น เพื่อนซี้ของครอบครัวเบ๊คส์ ก็เพิ่งซื้อเครื่องร้องคาราโอเกะฉลองวันเกิดวัย 4 ขวบ ให้กับโรมีโอ เมื่อปลายปีที่แล้วด้วย
"เขาชอบร้องเพลงค่ะและยังชอบแฟชั่นด้วย บางทีก็บอกว่า "แม่ฮะ ผมอยากใส่หมวกใบนั้นกับเสื้อตัวนี้" และเขาจะไม่ยอมออกจากบ้านเลยนะคะจนกว่าตัวเองจะดูดีซะก่อน"
ขณะที่ครูซ น้องนุชคนสุดท้องที่แม้ชื่อจะเหมือนผู้หญิง แต่พอชบอกว่าลูกชายคนนี้ของเธอหัวดีเอามากๆ ทั้งที่เพิ่งจะมีอายุแค่ 2 ขวบเท่านั้น
"ครูซเป็นหนูน้อยที่ฉลาดจริงๆ เลยค่ะ เขาพูดภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา และยังรู้ศัพท์ภาษาสเปนบางคำด้วย หัวเขาไบรต์มากเลยล่ะค่ะ"
ครั้นพอถึงคราวที่คุณสามีต้องย้ายไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกากับสโมสรแอลเอ แกแล็กซี่ ในเดือนสิงหาคมนี้ ภรรยาสาววัย 33 ก็เป็นคนจัดแจงหาโรงเรียนให้กับลูกๆ ด้วยตัวเอง ถึงขั้นลงทุนบินไปที่แอลเอทันทีที่ทราบข่าวการย้ายทีมของเบ๊คส์ เพื่อให้ได้โรงเรียนที่ดีที่สุดที่เหมาะกับลูกๆ ของเธอมากที่สุด ขณะที่บ้านหลังใหม่ก็ต้องมีพื้นที่กว้างขวางพอที่ลูกๆ จะวิ่งเล่นกันได้อย่างสบายด้วย
ถึงจะปั๊มลูกออกมาถึง 3 คนแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปิดอู่เลิกผลิตลูกแต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นเพราะพยายามมากี่ทีก็ไม่เคยได้ลูกสาวกับเค้าเสียที จนมีข่าวแพล็มออกมาว่า เจ๊พอชคิดจะรับอุปการะเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มมาเป็นลูกของตัวเอง เพราะอิจฉาที่เพื่อนซี้อย่าง แคที่ โฮล์มส์ ภรรยาสาวของ ทอม ครูส ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังมีลูกสาวหน้าตาน่ารักน่าชังเป็นของตัวเอง
แถมล่าสุดมีข่าวด้วยว่า พอชออกคำสั่งให้คุณสามีลดปริมาณอาหารจำพวกเนื้อสีแดงให้น้อยลงแล้ว และห้ามเบ๊คส์ทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำพวกชา, กาแฟ รวมถึงแอลกอฮอล์ด้วย เพื่อหวังจะเพิ่มโอกาสในการมีลูกผู้หญิงให้มากขึ้น โดยให้เปลี่ยนไปทานพวกสลัด, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด, พริกไทย กับพวกปลาแทน
ขณะที่ตัวเธอเองก็เพิ่งตกเป็นข่าวว่า พยายามเพิ่มน้ำหนักตัวให้เพิ่มขึ้นเพื่อคุณสามีเหมือนกัน ก่อนจะย้ายไปอยู่แอลเอในช่วงซัมเมอร์นี้
แหล่งข่าววงในบอกกับนิตยสาร เฟิร์สต์ แม็กกาซีน ว่า เบ๊คส์พยายามกระตุ้นให้เมียสาวทานอาหารให้เยอะขึ้น เพื่อให้พร้อมต่อการมีลูกคนที่ 4 และยังช่วยให้พอชดูดียามย้ายไปอยู่ที่อเมริกาด้วย จากที่มีแมงเม้าธ์พูดกันให้แซ่ดว่า สาวเจ้าทานอาหารแค่วันละ 1 มื้อเท่านั้น และยังไม่ยอมแตะอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตซะอีกแน่ะ
งานนี้ ถ้าทั้งคู่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างนี้ก็คงต้องยอมรับแล้วล่ะว่า สามี-ภรรยาคู่นี้เค้าเอ็นจอยกับชีวิตครอบครัวกันจริงจริ๊ง
ว่าแล้วก็ถือโอกาสหยิบมุมครอบครัวน่ารักๆ ของทั้งคู่มาฝากคอกีฬากันบ้างดีกว่า
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เบ๊คส์-พอช กลายเป็นคู่รักคนดังที่ถูกจับจ้องจากบรรดาสื่อทั้งหลาย เมื่อทั้งสองคนเริ่มออกเดทกันโดยที่เบ๊คส์ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่พอชกำลังโด่งดังกับงานเพลงที่ทำร่วมกับเพื่อนสาวในนามวง สไปซ์ เกิร์ลส์
หลังจากนั้นอีก 2 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจจัดงานวิวาห์สุดหรูที่ปราสาทลัตเทรลส์ทาวน์ ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยมีพยานรักคนแรก บรู๊คลีน วัย 4 เดือน พอดิบพอดีร่วมเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย ก่อนที่ในปี 2002 พอชจะให้กำเนิดลูกชายคนที่สอง โรมีโอ ในวันที่ 1 กันยายน และปิดท้ายด้วยลูกชายคนสุดท้อง ครูซ ที่ลืมตาดูโลก เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2005 ซึ่งรายนี้ออกจะผิดแผกจากพี่ชายตัวเองอยู่หน่อยตรงที่ถือกำเนิดในสเปน เพราะผู้เป็นพ่อย้ายมาค้าแข้งอยู่กับทีมรีล มาดริด ในแดนกระทิงดุนั่นเอง
เวลานี้ บรู๊คลีน อายุ 8 ขวบแล้ว ส่วนโรมีโอ อายุ 4 ขวบ และครูซ อายุ 2 ขวบ แต่ความรักของพอชและเบ๊คส์ยังคงไม่จืดจาง แม้ว่าเมื่อปี 2004 จะมีข่าว รีเบ๊คก้า ลูส์ อดีตประชาสัมพันธ์สาวทรงโต เข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างครอบครัวเบ๊คแฮมจนเกือบทำให้เตียงของทั้งคู่หักก็ตาม
ล่าสุด เบ๊คส์เพิ่งจะฉลองความรักครบรอบ 10 ปี กับภรรยาสาวอย่างดูดดื่ม ที่ ลอว์รี่ โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เมื่อกลางเดือนที่แล้ว หลังพาพอชไปดูการแข่งขันของแมนฯยูไนเต็ด ทีมเก่าที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ทั้งที่อันที่จริงแล้วมันยังไม่ถึงวันครบรอบแต่งงานเลยนะนั่น
ข่าวบอกว่า เบ๊คส์เปิดเพนต์เฮ้าส์สูทเพื่อเอาใจภรรยาสุดฤทธิ์ ซึ่งนอกจากจะดินเนอร์กันอย่างโรแมนติคแบบสองต่อสองแล้ว สามีหนุ่มยังมอบช่อกุหลาบขาวและช็อคโกแลตให้กับหวานใจ ก่อนจะเซอร์ไพรส์ด้วยแหวนเพชรเม็ดงามเป็นการปิดท้าย
นอกจากจะใส่ใจดูแลเมียสาวอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว หน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครัว เบ๊คส์ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยออกมาให้สัมภาษณ์กับ เรดิโอวันของอังกฤษเองว่าทั้งเขาและภรรยาพยายามที่จะปฏิบัติตัวเป็นพ่อ-แม่ที่ธรรมดาเหมือนอย่างครอบครัวคนอื่นๆ
"วิคตอเรียจะตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อเตรียมตัวให้ลูกๆ พร้อมสำหรับการไปโรงเรียน และผมจะเป็นคนไปส่งพวกเขาเอง ถึงจะมีคนแปลกใจที่เราตื่นนอนกันแต่เช้า และพาลูกๆ ไปโรงเรียน แต่ผมก็ชอบที่จะได้ทำแบบนี้นะครับ"
เบ๊คส์บอกด้วยว่า เขาเกลียดการที่พวกปาปาราซซี่ทั้งหลายชอบแอบมาดักถ่ายรูปลูกของเขาอยู่ด้านนอกของโรงเรียนทุกวัน เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะรายของโรมีโอ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะแสงแฟลชจากกล้องของช่างภาพ ทำให้ทั้งคู่หวั่นว่าจะทำให้ลูกชายของเขาเป็นลมชักขึ้นได้
ด้านภรรยาสาวก็เล่าถึงลูกชายสุดเลิฟของเธอว่า ไม่ได้เหมือนกับพ่อเลยเสียทีเดียว แม้ว่าลูกชายคนโตจะมีทีท่าว่าจะเจริญรอยตามเบ๊คส์มากกว่าใครเพื่อนก็ตาม
"บรู๊คลีนเป็นนักเตะที่น่าทึ่งมากที่สุดเลยล่ะค่ะ เขาสามารถเดาะบอลได้ถึง 17 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อนะคะสำหรับเด็กในวัยเดียวกัน เขาอยากจะเล่นแต่ฟุตบอลอย่างเดียว และเราก็มักจะเตะบอลในสวนด้วยกันค่ะ ถ้าสักวันเขาได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษขึ้นมาล่ะก็ คงจะทำให้ฉันภูมิใจมากเลยค่ะ"
ส่วนรายของโรมีโอดูเหมือนว่าจะชอบวงการบันเทิงอย่างผู้เป็นแม่มากกว่า และ เซอร์เอลตัน จอห์น เพื่อนซี้ของครอบครัวเบ๊คส์ ก็เพิ่งซื้อเครื่องร้องคาราโอเกะฉลองวันเกิดวัย 4 ขวบ ให้กับโรมีโอ เมื่อปลายปีที่แล้วด้วย
"เขาชอบร้องเพลงค่ะและยังชอบแฟชั่นด้วย บางทีก็บอกว่า "แม่ฮะ ผมอยากใส่หมวกใบนั้นกับเสื้อตัวนี้" และเขาจะไม่ยอมออกจากบ้านเลยนะคะจนกว่าตัวเองจะดูดีซะก่อน"
ขณะที่ครูซ น้องนุชคนสุดท้องที่แม้ชื่อจะเหมือนผู้หญิง แต่พอชบอกว่าลูกชายคนนี้ของเธอหัวดีเอามากๆ ทั้งที่เพิ่งจะมีอายุแค่ 2 ขวบเท่านั้น
"ครูซเป็นหนูน้อยที่ฉลาดจริงๆ เลยค่ะ เขาพูดภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา และยังรู้ศัพท์ภาษาสเปนบางคำด้วย หัวเขาไบรต์มากเลยล่ะค่ะ"
ครั้นพอถึงคราวที่คุณสามีต้องย้ายไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกากับสโมสรแอลเอ แกแล็กซี่ ในเดือนสิงหาคมนี้ ภรรยาสาววัย 33 ก็เป็นคนจัดแจงหาโรงเรียนให้กับลูกๆ ด้วยตัวเอง ถึงขั้นลงทุนบินไปที่แอลเอทันทีที่ทราบข่าวการย้ายทีมของเบ๊คส์ เพื่อให้ได้โรงเรียนที่ดีที่สุดที่เหมาะกับลูกๆ ของเธอมากที่สุด ขณะที่บ้านหลังใหม่ก็ต้องมีพื้นที่กว้างขวางพอที่ลูกๆ จะวิ่งเล่นกันได้อย่างสบายด้วย
ถึงจะปั๊มลูกออกมาถึง 3 คนแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปิดอู่เลิกผลิตลูกแต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นเพราะพยายามมากี่ทีก็ไม่เคยได้ลูกสาวกับเค้าเสียที จนมีข่าวแพล็มออกมาว่า เจ๊พอชคิดจะรับอุปการะเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มมาเป็นลูกของตัวเอง เพราะอิจฉาที่เพื่อนซี้อย่าง แคที่ โฮล์มส์ ภรรยาสาวของ ทอม ครูส ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังมีลูกสาวหน้าตาน่ารักน่าชังเป็นของตัวเอง
แถมล่าสุดมีข่าวด้วยว่า พอชออกคำสั่งให้คุณสามีลดปริมาณอาหารจำพวกเนื้อสีแดงให้น้อยลงแล้ว และห้ามเบ๊คส์ทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำพวกชา, กาแฟ รวมถึงแอลกอฮอล์ด้วย เพื่อหวังจะเพิ่มโอกาสในการมีลูกผู้หญิงให้มากขึ้น โดยให้เปลี่ยนไปทานพวกสลัด, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด, พริกไทย กับพวกปลาแทน
ขณะที่ตัวเธอเองก็เพิ่งตกเป็นข่าวว่า พยายามเพิ่มน้ำหนักตัวให้เพิ่มขึ้นเพื่อคุณสามีเหมือนกัน ก่อนจะย้ายไปอยู่แอลเอในช่วงซัมเมอร์นี้
แหล่งข่าววงในบอกกับนิตยสาร เฟิร์สต์ แม็กกาซีน ว่า เบ๊คส์พยายามกระตุ้นให้เมียสาวทานอาหารให้เยอะขึ้น เพื่อให้พร้อมต่อการมีลูกคนที่ 4 และยังช่วยให้พอชดูดียามย้ายไปอยู่ที่อเมริกาด้วย จากที่มีแมงเม้าธ์พูดกันให้แซ่ดว่า สาวเจ้าทานอาหารแค่วันละ 1 มื้อเท่านั้น และยังไม่ยอมแตะอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตซะอีกแน่ะ
งานนี้ ถ้าทั้งคู่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างนี้ก็คงต้องยอมรับแล้วล่ะว่า สามี-ภรรยาคู่นี้เค้าเอ็นจอยกับชีวิตครอบครัวกันจริงจริ๊ง
